Business

3 คุณสมบัติที่หัวหน้าทุกบริษัทมองหาในตัวลูกน้อง พร้อมสนับสนุนเต็มที่ถ้ามีครบ

By: Chaipohn November 1, 2017

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็ต้องเจอเหมือนกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือประสบการณ์การทำงานที่เริ่มต้นจากตำแหน่งเล็ก ๆ ไปจนถึงหัวหน้าที่มีความรับผิดชอบระดับสูง ซึ่งเติบโตตามประสบการณ์และอายุ ความแตกต่างน่าจะอยู่ที่ว่า “ใครไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้ก่อนกัน” เท่านั้นเอง

ว่ากันตามตรงแล้ว เราเชื่อว่าหลายคนที่อยู่ในช่วงตำแหน่งเล็กถึงกลาง อาจจะกำลังทำงานแบบมึน ๆ ไร้เป้าหมายในการทำงาน เพราะยังไม่เจอสิ่งที่ตัวเองชอบทำจริง ๆ

หรืออาจจะไม่มีไฟ เพราะถ้ามองไปถึงตำแหน่งใหญ่ ๆ ตัวเลขรายได้ที่ต้องการ มันช่างอยู่ห่างออกไปไกลอีกหลายปีเหลือเกิน ทำให้หลายคนเกิดอาการ “ช่างแม่งละกัน” หมดอารมณ์ทำงานขึ้นมาดื้อ ๆ เพราะคนเราชอบอะไรที่ง่าย เห็นผลเร็ว อยากตื่นขึ้นมาแล้วเงินเดือนเพิ่มแตะหลักแสนภายในข้ามคืน

ไม่ว่าคุณจะหมดไฟ หรือมีไฟแต่ไม่รู้จะเน้นโชว์ศักยภาพจุดไหนดี จะได้เปล่งรัศมีกระแทกตาหัวหน้าจนต้องรีบแจกโบนัส อัพเงินเดือน โปรโมตตำแหน่งกันเร็วไว แต่โชคดีแล้วที่คุณคลิกเข้ามาอ่านบทความนี้ เพราะเราจะมาเผย 3 คุณสมบัติหลักที่หัวหน้าทุกบริษัทมองหาจากคุณ

นี่เป็นคำแนะนำจากปากผู้บริหารบริษัทชั้นนำหลายแห่ง ที่เราไปนั่งพูดคุยอย่างใกล้ชิด และนำมาสรุปให้เข้าใจง่าย โดยใช้หลัก rating จากสิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุด

1. Give a damn

พื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่หลายคนลืมหรือมองข้ามหัวมันไป การ Give a damn คือการมีเอาใจใส่ มีส่วนร่วมกับคนในทีม และในทุกกิจกรรมของบริษัท ไม่ใช่ใครรวมกลุ่มทำอะไร ก็ปล่อยมันทำกันไป ประชุมหาไอเดีย ก็ไม่ค่อยจะเสนออะไร บริษัทมีกิจกรรมสนุกสนาน ก็ปล่อยมันทำกันไป คนในทีมรุมช่วยกันทำโปรเจคต์ใหญ่กัน ก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่ใช่งานของตัวเอง

ลองนึกภาพตัวคุณเป็นหัวหน้าดู แล้วจะรู้ว่าคุณสมบัติพื้นฐานข้อนี้มีความสำคัญมากกว่าที่คิด

เพราะถึงแม้มันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องความสามารถ ต่อให้ทำงานได้ดีพอประมาณ​แต่การไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเลย มันสามารถเป็นอุปสรรคขนาดใหญ่ที่ทำให้หัวหน้าทั้งหลายไม่สามารถโปรโมต หรือให้รางวัลอะไรกับคนที่ไม่ Give a damn ได้ เพราะหัวหน้าจำเป็นที่จะต้องมองภาพรวม การยอมรับของคนในทีมจึงมีส่วนสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว และมันก็สะท้อนถึงความไม่มี Leadership skill ซึ่งสำคัญไม่แพ้ความสามารถอีกด้วย

 

2. Always do more

มันเป็นการ manage expectation ของมนุษย์ เหมือนตอนเราเจอแบงค์ร้อยในซอกกระเป๋า แม้มันจะเป็นเงินไม่เยอะ แต่เราไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเงินเพิ่มขึ้นมา เมื่อมันเพิ่ม เราจะรู้สึกดีกับเงินหนึ่งร้อยบาทนี้ มากกว่าร้อยบาทในมือซะอีก เช่นเดียวกับการทำงาน หัวหน้าอาจจะคาดหวังให้เราทำตามมาตรฐานของ scope of work ตามที่ตกลงกันไว้ แต่ถ้าเราทำได้มากกว่าล่ะ? หัวหน้าก็จะรู้สึกเหมือนเจอแบงค์ร้อยในซอกหลืบ เหมือนได้เก้าแต้มสองเด้งยังไงยังงั้น

การ Do more ไม่ได้หมายถึงการทำจำนวนงานมากขึ้น การทำคุณภาพให้ดีขึ้น มีความพร้อมในการตอบคำถาม มี Optional พร้อมให้เมื่อต้องการ ไม่ว่าหัวหน้าจะอ้าปากถามอะไร เรามีให้ครบหมด แบบนี้ก็ได้ใจไปเต็ม ๆ เช่นกัน เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ และความอินกับการทำงาน รับรองว่าหัวหน้าที่ไหนก็ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเป็นสายน้ำแน่นอน

 

3. Show sign of good leader

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ความสามารถ หลายครั้งหัวหน้าก็เลือกคนที่มีความเป็นผู้นำ มากกว่าคนที่ได้คะแนนความสามารถสูงกว่าด้วยซ้ำไป

การมองหาคนที่มีความเป็นผู้นำนั้นง่ายแสนง่าย มันเป็นคุณสมบัติที่ชัดเจนและยากจะเสแสร้งตบตา ลองนึกภาพบรรยากาศในห้องประชุม เมื่อหัวหน้าถามคำถาม แล้วทุกคนเงียบ จะมีคนนึงที่เพื่อน ๆ จ้องตาฝากความหวังเอาไว้ หรือคนที่ทุ่มเทกับภาพรวมของบริษัท มากกว่าแค่งานของตัวเอง พูดแล้วคนเชื่อ พูดแล้วคนทำตาม

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เก่ง แต่ไม่สามารถนำทีมได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ข่าวดีก็คือ Good Leader ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ และไม่ใช่พรสวรรค์ มันคือสิ่งที่สามารถพัฒนากันได้ถ้าพยายาม และมันเป็นสกิลที่จะติดตัวไปตลอด ช่วยให้บุคลิกดูดี น่าเชื่อถือ สามารถเอาไปใช้เป็นผู้นำใจกล้าที่บ้านก็ยังได้

ทั้ง 3 ข้อนี้เป็นคุณสมบัติที่สำคัญ​ จำไว้ว่าความสามารถเพียงอย่างเดียว อาจจะทำให้ได้ Average Performance แบบสบาย ๆ แต่จะไม่สามารถไปถึง Top Performance ได้ เพราะทั้ง 3 ข้อนี้เป็นตัววัด Growth Mindset และ Growth Mindset นี่แหละคือตัวชี้วัดว่า ใครมี potential ที่จะสามารถพัฒนาได้อีก

ในชีวิตการทำงานนั้น ไม่เหมือนกับตอนเรียนหนังสือ ที่รับผิดชอบแค่ผลสอบตัวเองแล้วเรียนจบได้ ในโลกของการทำงานนั้น เราทุกคนล้วนต้องทำงานเป็นทีมเสมอ Performance ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอจะเอาชนะใจคนส่วนใหญ่ได้อีกต่อไปนั่นเอง

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line