Entertainment

“5 หนังน่าดูเดือนธันวาคม” ส่งท้ายปี 2019 ด้วยภาพยนตร์ที่ใคร ๆ ต่างลงความเห็นว่าควรต้องดู

By: TOIISAN December 2, 2019

ไม่น่าเชื่อว่าอีกเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น เราทุกคนก็ต้องเตรียมโบกมือลาปี 2019 และเข้าสู่ปี 2020 กันแล้ว แต่ก่อนจะข้ามปี โลกภาพยนตร์ก็โชว์ความครึกครื้นฉลองปลายปีด้วยโปรแกรมหนังที่น่าสนใจหลายเรื่องที่รอจ่อเข้าฉายในประเทศไทย ที่สำคัญหลายเรื่องที่ลงโรง เหล่ากูรูต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าจะได้เข้าไปชิงชัยในงานออสการ์ที่จะจัดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 อีกด้วย

UNLOCKMEN ได้รวบรวม 5 ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในเดือนธันวาคมมาให้หนุ่ม ๆ เลือกดูกันว่าเรื่องไหนมีความน่าสนใจอย่างไร เรื่องไหนถูกเรียกว่าเป็นหนังสายรางวัล เรื่องไหนคือตำนาน เรื่องไหนโกยคำวิจารณ์ที่ยอดเยี่ยม และเรื่องไหนที่จะทำให้น้ำตาของผู้ชายไหลได้โดยไม่รู้ตัว

 

Knives Out (2019)

Knives Out (2019) หรือในชื่อภาษาไทยสุดกวนว่า ‘ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่’ ภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับคดีปริศนาเพื่อหาตัวคนร้ายที่แท้จริง แม้จะเป็นหนังสืบหาฆาตกรแต่กลิ่นอายของการดำเนินเรื่องกลับสอดแทรกมุกตลกเสียดสีเอาไว้ด้วย แถมคำวิจารณ์จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes จากนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วไปก็อยู่ในเกณฑ์ดีมากสูงถึง 90%

การเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้ชมลุ้นระทึกและชวนฉงนตามได้ตั้งแต่เริ่มเรื่องมาถึงจุดจบเป็นผลงานกำกับของ Rian Johnson ที่เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์ตระกูลดังอย่าง Star Wars: The Last Jedi (2017) ที่ในช่วงเวลานั้นเขาทำให้เสียงวิจารณ์แตกออกเป็นสองขั้ว

นอกจากเรื่องราวที่เล่าได้อย่างดีเยี่ยม รายชื่อนักแสดงก็ทำให้ทั่วทั้งโลกให้ความสนใจ เพราะหนังเรื่องเดียวแต่ขนนักแสดงระดับแนวหน้ากันมาคับคั่งไม่ว่าจะเป็น Christopher Plummer มารับบทเป็นปู่มหาเศรษฐี Daniel Craig จากสายลับ 007 ต้องกลายเป็นนักสืบไขคดี Chris Evans ที่คุ้นตาจากบทกัปตันอเมริกาแต่เปลี่ยนมาเป็นหลานขี้เมานิสัยเจ้าชู้ นอกจากนี้ยังมีรุ่นใหญ่ฝีมือเก๋าอย่าง Ana de Armas และ Jamie Lee Curtis ไปจนถึงรุ่นเด็ก ๆ อย่าง Jaeden Langford ที่มาสร้างสีสันตลอดทั้งเรื่อง

 

Ford v Ferrari (2019)

การสร้างรถแข่งที่เร็วที่สุดในโลกใช้เวลากี่วัน ? หลายคนตอบว่าต้องใช้เวลาทั้งชาติ บางคนบอกว่าหลายสิบปี แต่โจทย์ที่ Ford ได้คือเวลาเพียงแค่ 90 วัน เพื่อสร้างสุดยอดยนตรกรรมที่ต้องทำความเร็วแซงแชมป์เก่าที่ขึ้นแท่นเป็นราชาแห่งความเร็วหลายปีติดอย่าง Ferrari บนสนามแข่งเลอมังส์

เมื่อครั้งที่ภาพยนตร์เรื่อง Ford v Ferrari (2019) เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ทันได้ฉายผู้คนส่วนใหญ่ก็ตีความจากชื่อเรื่องไปก่อนแล้วว่าจะต้องเป็นหนังแข่งรถแบบเดิม ๆ อย่างแน่นอน ทว่าพอกลุ่มสื่อและนักวิจารณ์ได้เข้าไปชมแล้วถึงกับต้องถอนคำพูด เพราะภาพยนตร์เรื่อง Ford v Ferrari (2019) ที่ได้สองนักแสดงโคตรเท่อย่าง Matt Damon และ Christian Bale มาเป็นนักแสดงนำของเรื่อง บอกเล่าการแข่งขันหาเจ้าแห่งความเร็วครั้งประวัติศาสตร์ 

Ford v Ferrari (2019) กำกับโดย James Mangold เขาจะพาเราไปสำรวจทุกสิ่งทุกแง่มุม ไม่ใช่แค่ทีมผู้สร้างรถเท่านั้นที่จะทำให้ความเร็วของรถพุ่งทะยานได้ดั่งใจ บุคคลที่อยู่หลังพวงมาลัยคืออีกหนึ่งตัวแปรสำคัญของการแข่งขันครั้งนี้ ภาพยนตร์จะพาเราย้อนเวลาไปยังอดีต สัมผัสมิตรภาพลูกผู้ชายของกลุ่มคนที่พยายามไปให้ถึงจุดหมาย เสียงยางบดกับถนน อุปสรรคที่อยากเอาใจช่วยให้พวกเขาผ่านไปให้ได้ ทั้งหมดล้วนสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี 

 

The Farewell (2019) 

 

เบื้องหลังของหนังที่แสนธรรมดาแต่ใคร ๆ ที่ได้ดู ต่างลงความเห็นว่า “โคตรดี!” กับ The Farewell (2019) จากค่ายหนังอินดี้ A24 ที่เมื่อใครเห็นชื่อค่ายหนังก็ต้องไว้วางใจแล้วว่าภาพยนตร์ที่ออกมาจะต้องดีอย่างแน่นอน เรื่องราวตลกขบขันปนดราม่าของครอบครัวคนจีน-อเมริกัน ที่เล่นกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจอย่างคนในครอบครัวผู้ใกล้จากไปด้วยโรคร้ายได้โดนใจใครหลายคน เรียกได้ว่าน้ำตารื้นได้โดยไม่ต้องพยายามใด ๆ

The Farewell (2019) สามารถกวาดคำชมอย่างล้นหลามโดยเฉพาะกับเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ได้สูงถึง 99% ส่วนเว็บ Imdb ให้คะแนนอยู่ที่ 8 จาก 10 รวมถึงสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ เพราะใครหลาย ๆ คนคาดว่า Awkwafina นักแสดงนำของเรื่องมีโอกาสที่จะได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหลาย ๆ เวที 

ภาพยนตร์เรื่อง The farewell (2019) เขียนบทและกำกับโดย Lulu Wang บอกเล่าเรื่องราวชีวิตกับครอบครัวได้จับใจ (เพราะอิงมาจากชีวิตจริงของเธอเอง) จนคว้ารางวัลขวัญใจผู้ชมจากงานเทศกาลภาพยนตร์ Sundance Film 2019 มาครอง

 

I Want to Eat Your Pancreas (2019)

I Want to Eat Your Pancreas (2019) หรือในชื่อภาษาไทยว่า ‘เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน’ นวนิยายสุดซึ้งจากญี่ปุ่นที่สามารถทำยอดขายได้กว่า 2.6 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และต่อยอดความนิยมด้วยการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว จากปี 2017 จนถึงตอนนี้เรื่องราวสุดซึ้งจากหน้าหนังสือก็ได้รับการนำกลับมาเล่าใหม่อีกครั้งในรูปแบบแอนิเมชัน 

ความสัมพันธ์เริ่มต้นขึ้นเพื่อจากลา ? หรือเราสองเข้ามาเพื่อทำความรู้จักกันก็เท่านั้น I Want to Eat Your Pancreas (2019) จะพาเราไปทำความรู้จักกับความสัมพันธ์ของเด็กมัธยมปลายสองคน เมื่อมาฮิโระ เจอไดอารี่ของซากุระที่เป็นเพื่อนร่วมชั้น และพบความจริงที่ว่าเธอเป็นผู้ป่วยใกล้ตายด้วยโรคตับอ่อน นอกจากครอบครัวของซากุระที่รู้ความลับนี้ ก็มีเขาอีกคนที่ดันรู้ถึงความจริงที่น่าเศร้าของซากุระโดยบังเอิญและตั้งใจว่าจะดูแลซากุระไปจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอ 

I Want to Eat Your Pancreas (2019) ภาพยนตร์กำกับโดย Shinichirou Ushijima จาก One Punch Man (2015) และ My Love Story!! (2015) อำนวยการสร้างโดย Keiichi Mita (Ushio & Tora) พากย์เสียงโดยนักแสดงดังอย่าง Mahiro Takasugi จากเรื่อง The World of Kanako (2014) และ Lynn จาก High School Fleet (เรือเดินสมุทร) 

 

Star Wars: The Rise of Skywalker (2019)

หลังจากที่แฟนหนังตั้งหน้าตั้งตาคอยบทสรุปของมหากาพย์สงครามอวกาศเรื่อง Star Wars ที่ภาคก่อนคือ Star Wars: The Last Jedi (2017)  2 ปีต่อมาก็ถึงเวลาปิดไตรภาคด้วย Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) ที่จะตอบคำถามคาใจของแฟน ๆ

ตกลงเรย์เป็นลูกสาวของใคร ? ไคโลเรนผู้ขัดแย้งในตัวเองจะเลือกเส้นทางไหน จะดำดิ่งลงไปในความมืดหรือจะกลับเข้าสู่ด้านสว่าง ? เสียงหัวเราะหลอนหูของพัลพาทีน รวมถึงเกิดอะไรขึ้นกับ C-3PO ? แล้วการต่อสู้ระหว่างฝ่ายต่อต้านกับจักรวรรดิผลของสงครามจะเอนไปทางฝั่งไหนมากกว่ากัน ?

หาคำตอบพร้อมกันในวันที่ 19 ธันวาคม 2019 กับ Star Wars: The Rise of Skywalker (2019) ผลงานของผู้กำกับชื่อดัง J.J. Abrams ที่เคยกำกับภาค 7 Star Wars: The Force Awakens (2015) และคำยืนยันว่าแฟนหนังต้องดูจริง ๆ ก็คงต้องดูว่าเรื่องราวที่ค้างคาใจจากหลาย ๆ ภาคจะถูกคลายปมในสตาร์วอร์ส 9 หรือไม่ แถมค่ายผู้สร้างหนังทั้ง Disney และ Lucus Film ก็เอ่ยปากไว้แล้วว่าหลังจบภาคนี้ โลกจะไม่ได้เจอกับ Star Wars ไปอีกพักใหญ่ จึงทำให้เราพลาดดูบทสรุปเรื่องราวอันยาวนานนี้ไม่ได้จริง ๆ

 

SOURCE: 1 / 2 / 3 / 4

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line