Entertainment

“ศิลปิน คนบ้า นักฆ่า คนเหงา และทหารติดเหล้า” 5 บทบาทจำไม่ลืมของ JOAQUIN PHOENIX

By: TOIISAN September 27, 2019

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หากพูดถึงชื่อของ Joaquin Phoenix บางคนอาจจะไม่รู้จัก แต่คอหนังรางวัลจะต้องรู้จักชื่อของเขาเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นนักแสดงสายรางวัลที่ไม่ค่อยปรากฏตัวในหนังบล็อกบัสเตอร์เท่าไหร่นัก แต่ในเวลานี้หากเอ่ยชื่อของเขาอีกครั้ง คนส่วนใหญ่จะต้องยอมรับในความสามารถการแสดงจากบทบาทวายร้ายโรคจิตของเมือง Gotham อย่าง Joker ที่ใคร ๆ ก็ต้องขนลุกเมื่อได้ดูเขาสวมบทเป็นตัวตลกคลั่ง 

เมื่อ Joaquin Phoenix กลายเป็นชายที่ผู้ชมทั่วโลกจับตามอง เราจึงอยากพาทุกคนไปพบกับการตีบทแตกของนักแสดงชายคนนี้ ว่าที่ผ่านมาเขาเคยต้องรับบทเป็นใครมาแล้วบ้าง ซึ่งบอกเลยว่าดีทุกบท ไม่ใช่แค่ Joker

 

WALK THE LINE (2005)

“การตายของพี่ชายเกิดขึ้นเพราะพระเจ้าเอาไปผิดคน”

ประโยคข้างต้นคือคำพูดที่พ่อพูดกับ Johnny Cash นักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง ผู้อยู่คู่เคียงกับ Elvis Presley ศิลปินแห่งยุค โดย Walk The Line (2005) คือภาพยนตร์ชีวประวัติของศิลปินคนหนึ่งกำลังจะตกลงมาจากจุดสูงสุดของอาชีพ พร้อมกับปมวัยเด็กและปัญหาครอบครัว เพราะภรรยาของเขาไม่เคยเห็นคุณค่าในอาชีพของเขา แถมตัวเขาเองดันหลงรัก June Carter ทั้งที่ตัวเองแต่งงานแล้ว 

เมื่อใจของ Johnny Cash ไปอยู่กับ June Carter เขาพยายามเข้าหาหญิงสาวให้ได้มากที่สุด ผลคือเขาได้รับคือการปฏิเสธความรักกว่า 40 ครั้ง พร้อมกับชีวิตคู่ที่เริ่มพังพินาศ โดนฟ้องหย่า ติดยา งานการเริ่มดิ่งลงเหว แถมเขายังมีปมในใจจากการสูญเสียพี่ชายที่พ่อยังย้ำกับเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งคนที่มาฉุดเขาจากจุดตกต่ำคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก June Carter ด้วยปมชีวิตที่แสนเศร้าของเขาจะทำเรามองเห็นคุณค่าของตัวเอง ว่าถ้าตัวเองยังรักและดูแลให้ดีไม่ได้ แล้วจะไปขอร้องความรักจากคนอื่นได้อย่างไร 

Walk The Line (2005) เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติที่ดูอย่างไรก็ไม่เบื่อด้วยน้ำเสียงของ Joaquin Phoenix ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม รวมถึงผลงานกำกับของ James Mangold ก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ทั้งหมดส่งให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 5 รางวัล ทั้งสาขานักแสดงนำหญิง-ชาย ยอดเยี่ยม และคว้าลูกโลกทองคำมาได้ 3 รางวัล คือ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขา Musical or Comedy และนักแสดงนำชาย-หญิงยอดเยี่ยมสาขา Musical or Comedy


THE MASTER (2012) 

“เมื่อสงครามจบแล้วยังไงต่อ ?” คำถามนี้จะวนมาทุกครั้งเมื่อเกิดสงคราม ผู้คนต่างต้องดำเนินชีวิตต่อท่ามกลางซากปรักหักพังรวมถึงคนกลุ่มหนึ่งในเรื่อง The Master (2012) ด้วยเช่นกัน

The Master (2012) จะบอกเล่าชีวิตและความคิดของ Freddie Quell อดีตทหารจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีภาวะทางจิตอ่อน ๆ และมีอาการเสพติดสงคราม เมื่อโลกสงบลงหน้าที่ของเขาก็ต้องจบตาม รวมถึงผลของสงครามทำให้ Freddie ขาดเป้าหมายของการมีชีวิตและเข้ากับสังคมไม่ได้ ทหารผู้รับใช้ชาติจึงกลายเป็นชายเหลวแหลกที่ติดเหล้า

หลังออกจากกองทัพเขามีอาชีพเป็นช่างภาพ ใช้ชีวิตเหลวแหลกตามเดิมจนชีวิตเขาต้องเจอกับจุดเปลี่ยน เมื่อ Freddie ได้พบกับศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตบำบัดที่มีฉายาว่า The Master ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาทุกคนเข้าไปสำรวจจิตใจของ Freddie ชายที่ The Master มองว่าเป็นคนไข้ระยะสุดท้ายที่ยากจะเยียวยา เห็นบาดแผลวัยเด็ก ความเจ็บปวดจากสงครามและทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า

‘คุณค่าของคนวัดที่อะไร และใครเป็นคนมีสิทธิ์ตัดสิน ?’

The Master (2012) เป็นผลงานกำกับของ Paul Thomas Anderson และได้เข้าชิงออสการ์ 2013 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่หลายคนลงความเห็นว่าดูยากมาก ๆ ใครที่สนใจก็ลองเปิดใจแล้วดูการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Joaquin Phoenix กับเรื่องราวที่ซับซ้อนในเรื่องกันดูครับ


HER (2013)

สำหรับหนุ่มเหงา เศร้า หว่อง จะต้องรู้จักภาพยนตร์เรื่อง Her (2013) กันเป็นอย่างดี เพราะหนุ่มขี้เหงาหลายคนถึงกับยกหนังเรื่องนี้ว่าเป็นหนังประจำชาติของคนเหงาก็ว่าได้ เรื่องราวจะโฟกัสไปที่ Theodore ชายผู้เปล่าเปลี่ยวอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดชีวิต มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยคือระบบปฏิบัติการที่สื่อสารกับเขา (ให้เสียงโดย Scarlett Johansson) ที่เผยให้เห็นความซับซ้อนทางอารมณ์ของมนุษย์

อาจเป็นเพราะว่า Theodore เป็นชายที่อยู่คนเดียวและมีอาชีพเป็นนักเขียนเลยทำให้จิตใจของเขาอ่อนไหวแล้วซับซ้อนกว่าใครก็เป็นได้ แถมเขายังต้องจมอยู่กับความรู้จักเศร้าจากรักที่ล้มเหลว Theodore จึงไม่เปิดใจคุยกับใครมากนักนอกจากระบบ AI ที่เป็นเพื่อนคู่คิดและทำให้เราเห็นมิตรภาพรูปแบบใหม่ที่ไร้กฎเกณฑ์

Her (2013) เป็นผลงานของผู้กำกับ Spike Jonze ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 86 มากถึง 5 สาขา คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม โดยคว้ารางวัลมาได้ 1 สาขา คือ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองเหงามากแล้ว ลองเปิด Her ดูสักครั้งแล้วจะพบว่า Theodore คือยอดคนเหงาตัวจริง


YOU WERE NEVER REALLY HERE (2017) 

You Were Never Really Here (2017) เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่การันตีฝีมือการแสดงของ Joaquin Phoenix เพราะเขาสามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2017 กับการสวมบทเป็น Joe อดีตเจ้าหน้าที่ FBI และอดีตทหารของกองทัพชีวิตพลิกผันหันมาเป็นชายผู้ทำอาชีพอิสระ โดยอาชีพที่ว่าคือเขาจะทำทุกอย่างตามนายจ้างสั่งการ ทั้งทำร้ายร่างกายคนอื่นไปจนถึงลักพาตัว หรือช่วยให้เหยื่อรอดจากการลักพาตัว

เรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นกับชีวิตของ Joe อีกครั้งเมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ไปช่วยลูกสาวของวุฒิสมาชิกรัฐ New York จากการถูกแก๊งค้ามนุษย์ลักพาตัวไป แต่ความจริงแล้วการเข้าช่วยเหลือเด็กสาวเป็นแค่คำสั่งแรก ยังมีเบื้องหลังอีกหลายเรื่องที่เขาไม่รู้ Joe จะต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ ท่ามกลางสภาพจิตใจจมดิ่งกับอดีตอันแสนขมขื่นที่ตามมาหลอกหลอนเขาอยู่เรื่อย ๆ 

You Were Never Really Here (2017) สร้างสรรค์โดยผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Lynne Ramsay คว้ารางวัลสาขาตัดต่อยอดเยี่ยมจากเวที The Film Independent Spirit Awards และรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาครอง โดยผู้กำกับสาวคนนี้เคยฝากผลงานให้พอรู้จักกันแล้วใน We Need to Talk About Kevin (2011) ที่สามารถคว้ารางวัลจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาได้เช่นเดียวกัน

ภาพยนตร์ทำให้เราตระหนักคิดว่าค่าตอบแทนของการกระทำครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน การช่วยลูกสาวนักการเมืองให้อะไรกับ Joe บ้าง หรือสุดท้ายแล้วเขาต่างหากคือคนที่สูญเสีย ทุกอย่างแสดงออกผ่านแววตาและท่าทางของ Joaquin Phoenix ทำให้เราเชื่อจนหมดใจว่าเขาคือ Joe จริง ๆ 


JOKER (2019)

ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เราจะแนะนำในวันนี้ของ Joaquin Phoenix คงไม่พูดถึงเรื่อง Joker (2019) ไม่ได้ เพราะหลังจากที่หนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ ก็ทำให้เหล่านักวิจารณ์ต่างพูดถึงการรับบทเป็นตัวตลกคลั่งของเขา รวมถึงได้รับการยืนตบมือนานถึง 8 นาทีอีกด้วย

คนทั่วโลกต่างจดจ้องกับผลงานครั้งนี้ว่าเรื่องราวของ Joker จะถูกผู้กับกำกับอย่าง Todd Phillips และ Joaquin Phoenix ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบไหน เพราะในเรื่องนี้เขาเล่าถึงชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่มีอาชีพสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนแต่ชีวิตของเขาต้องเผชิญจุดพลิกผันที่ทำให้ก้าวเข้าสู่ด้านมืด

Joker (2019) เป็นภาพยนตร์ที่เล่นกับจิตใจอันซับซ้อนของมนุษย์ ภาวะโรคซึมเศร้า ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายของเมือง Gotham ทำให้ Joaquin Phoenix ต้องศึกษาความคิดและจิตใจของ Joker และทำการบ้านหนักพอสมควรเพื่อถ่ายทอดความเป็น Joker ออกมาให้ได้

เพราะ Joaquin Phoenix มีอาชีพเป็นนักแสดง เขาจึงต้องสวมบทเป็นใครก็ได้ในโลกใบนี้ แล้วคุณล่ะครับ ชอบการแสดงจากเรื่องไหนของเขากันบ้าง ?


 

SOURCE: 1 / 2

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line