Life

ซึมเศร้าไม่ควรไล่ให้ไปตาย ‘5 ความเข้าใจผิดเรื่องซึมเศร้า’ ที่ผู้ชายอย่างเราควรรู้

By: PSYCAT July 19, 2017

“โรคซึมเศร้า” กลับมาเป็นเรื่องเด่นประเด็นร้อนอีกครั้งเมื่อข่าวไลฟ์โค้ชชื่อดังท่านหนึ่งไล่ผู้ป่วยซึมเศร้าให้ “ไปตายซะ!” โดยอ้างว่าเป็นการทดสอบว่าผู้ป่วยท่านนั้นเสแสร้งแกล้งทำหรือเปล่า?

ไม่รู้ว่าไลฟ์โค้ชชื่อดังเป็นจิตแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถในการวินิจฉัยตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สถานะของไลฟ์โค้ชที่มีคนเชื่อถืออยู่มากอาจสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้ามากขึ้นกว่าที่เป็น เนื่องจากโรคซึมเศร้าก็เป็นโรคที่มักมีคนเข้าใจอะไรผิด ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว

ผู้ชายอย่างเราจะตกเป็นเหยื่อของข้อมูลผิด ๆ เหมือนคนอื่นไม่ได้ และเพื่อการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเอาไว้แบ่งปันคนอื่นได้อีก วันนี้ UNLOCKMEN เลยเอา 7 ความเข้าใจผิด ๆ เรื่องโรคซึมเศร้าที่คนมักเชื่อกัน แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น!

ผู้ชายอกสามศอกเขาไม่ซึมเศร้ากันหรอก!

จำไว้เลยว่าทุกคนมีโอกาสเผชิญหน้ากับภาวะซึมเศร้า ไปจนถึงโรคซึมเศร้า ไม่เว้นแม่แต่ผู้ชายอย่างเรา! โรคซึมเศร้าไม่ได้มานั่งเลือกว่าเพราะคุณเป็นผู้หญิงคุณถึงอ่อนแอและเป็นโรคนี้ คุณเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งกว่า คุณไม่มีสิทธิ์เป็นโรคนี้หรอก

ดังนั้นหยุดความเข้าใจผิด ๆ นี้ ถ้าคุณรู้สึกแย่เกี่ยวกับตัวเอง การยอมรับตัวเองและพาตัวเองไปพบจิตแพทย์ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องเข้มแข็งต่างหากที่คุณกล้ายอมรับและพร้อมเยียวยาสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต

โรคซึมเศร้าเป็นเรื่องของคนที่จิตใจอ่อนแอ

ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความอ่อนแอทั้งสิ้น นี่คือความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง เหมือนที่เรามีความสุข สมองก็หลั่งสารที่ทำให้เรามีความสุขออกมาเราถึงรู้สึกเช่นนั้น

โรคซึมเศร้าก็เช่นกันเพราะสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์เศร้า หดหู่ หมองหม่นของเราดันทำงานผิดปกติ หลั่งมันออกมามากเป็นพิเศษ เราถึงเกิดความเศร้าในปริมาณที่มากผิดปกติ ไม่ได้เกี่ยวกับความอ่อนแอของจิตใจแต่อย่างใด

คนเป็นโรคซึมเศร้าต้องเคยผ่านเรื่องแย่ ๆ ร้าย ๆ มาเท่านั้น

เราอาจเชื่อว่าผู้ป่วยซึมเศร้าต้องผ่านเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิตมา หรือมีวัยเด็กที่ย่ำแย่สุด ๆ จึงเกิดบาดแผลทางจิตใจ เกิดเป็นปมที่แก้ไม่ออก จนกระทั่งเกิดเป็นโรคซึมเศร้าขึ้นมา

UNLOCKMEN ขอบอกว่าคุณเข้าใจผิด! อาจมีผู้ป่วยซึมเศร้าที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเพราะผ่านเรื่องกระทบกระเทือนบางอย่างขึ้นมาจริง ๆ แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนที่ต้องผ่านเหตุการณ์เลวร้าย เราอาจเห็นว่าคนนี้ชีวิตดีจังเลย หน้าที่การงานก็ดี ฐานะก็โอ ครอบครัวก็ดี ความรักก็ดี ที่บอกว่าเป็นโรคซึมเศร้าต้องเสแสร้งแน่ ๆ

โรคซึมเศร้าไม่ต่างจากอาการป่วยอื่น ๆ ลองนึกถึงการเป็นไข้หวัดสิ ถ้าทุกคนมีสิทธิเป็นไข้หวัดได้ไม่ว่าชีวิตจะดีหรือแย่ สารสื่อประสาทที่หลั่งผิดปกติก็มีสิทธิเกิดขึ้นกับทุกคนได้ ไม่ว่าชีวิตจะดีหรือแย่เช่นกัน

ซึมเศร้าไม่มีจริง! มันเป็นแค่เรื่องในหัวที่เราสร้างขึ้น ต้องเอาชนะมัน

บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยซึมเศร้าถูกมองว่าเสแสร้ง แกล้งทำ ด้วยลักษณะอาการของโรคที่แสดงออกผ่านการอยากอยู่คนเดียว ต้องการอยู่นิ่ง ๆ ไม่อยากพบปะโลก อาจกระทบแม้กระทั่งการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ

ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจึงถูกมองว่าเป็นคนขี้เกียจ เป็นคนไม่เอาไหน เป็นคนจับจด ต้องลุกมาเอาชนะใจตัวเองเท่านั้น หรือลองฝึกสมาธิ ควบคุมจิตใจเข้าวัดเข้าวาดูบ้าง

ถ้าไข้หวัดไม่อาจหายด้วยการเอาชนะใจตัวเอง หรือเข้าวัดเข้าวาอย่างเดียวได้ โรคซึมเศร้าก็หายไม่ได้ด้วยวิธีนั้นเช่นกัน ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำดีที่สุด

โรคซึมเศร้าก็ต้องเศร้าตลอดเวลาสิ

ภาวะของโรคมีหลายระดับ รวมถึงอาการของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนอาจไม่อยากลุกมาทำอะไร ในขณะที่บางคนก็ยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

ผู้ป่วยซึมเศร้าไม่จำเป็นต้องนั่งร้องไห้ตลอดเวลาอย่างที่เราเข้าใจ หรือถ้ามีใครสักคนบอกว่าเขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แล้วเขาดูไม่เศร้าอย่างที่เราคิด ก็ไม่ได้แปลว่าเขาโกหก อย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากสิ่งที่เราเห็นตรงหน้าแค่นั้น แต่ต้องอาศัยการพูดคุยและทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน

โรคซึมเศร้า กลายเป็นโรคที่ถูกพูดถึงมากขึ้นกว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเกิดความเข้าใจผิด ๆ เป็นอย่างมาก ในฐานะผู้ชายคูล ๆ อย่างเราถ้ามีอาการสุ่มเสี่ยงก็ปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด แต่ถ้าคนรอบข้างมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ก็ขอให้ใช้ความอดทน ความเข้าใจ อยู่เคียงข้างเขา รวมถึงพาไปพบแพทย์ น่าจะคูลกว่าการไล่ใครสักคนไปตายเพียงแค่เราสงสัยว่าเขาแกล้งป่วยหรือเปล่า

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line