CARS

THE RARE GODZILLA COLLECTION : 5 NISSAN GT-R รุ่นหายากที่นักสะสมควรรีบคว้าเก็บไว้

By: TOIISAN November 18, 2018

Nissan GT-R คือ Japanese Sports Car ระดับตำนานสัญชาติญี่ปุ่นที่ผู้ชายทุกคนต้องวิ่งตาม ที่พัฒนารถยนต์และสร้างสีสันให้แก่วงการมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งรถยนต์ GT-R ที่หลายคนรู้จักหรือคุ้นเคยก็คงหนีไม่พ้นรุ่นยอดฮิตอย่าง Generation ที่ 5 GTR R34 หรือ Nissan GT-R  โฉมปัจจุบัน แต่ที่จริงยังมี Limited Edition หายากอีกหลายรุ่นซึ่งเราจะเลือกหยิบมาแนะนำกับสุดยอด GT-R รุ่นอื่น ๆ ที่อาจจะไม่ค่อยถูกพูดถึง แต่เต็มไปด้วยความเท่ มูลค่า และเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย

1969 Skyline 2000 GT-R

Skyline 2000 GT-R เป็นรถที่ถูกเรียกด้วยชื่อเล่นภาษาญี่ปุ่นว่า Hakosuka ที่มีความหมายตรงตัว Hako แปลว่า กล่อง และ Suka ที่หมายถึงเส้นขอบฟ้า เลยกลายเป็นรถรุ่น Square Skyline เพราะรูปทรงของรถที่มีความเหลี่ยมชัดเจน ออกแบบมาให้เป็นสิงห์สนามแข่งรถที่กวาดถ้วยรางวัลได้กว่า 50 ใบ การันตีถึงความสุดยอดของ Skyline 2000 GT-R ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เครื่องยนต์วางด้านหน้าแบบ 6 สูบ 1998 c.c. 160 แรงม้า มีอัตราเร่งตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.2 วินาที ด้วยความเท่เกินห้ามใจ จนทำให้เกิดเป็นที่มาของคำว่า Midnight Racing เพราะเป็นรุ่นที่ตรงกับความต้องการของเหล่าผู้ชื่นชอบความเร็วที่มักออกมารวมตัวกันในยามค่ำคืนและซิ่งรถไปทั่วโตเกียว

 

1989 GT-R Nismo R32

เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างชื่อให้กับตระกูล GT-R ได้อย่างกว้างขวาง เจ้าแห่งรางวัลที่กวาดมาแทบทุกสนามแข่งรถในปี ค.ศ. 1989 ทั้งชนะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในญี่ปุ่นได้ถึง 29 ถ้วย และคว้าแชมป์การแข่งขัน Super GT สองปีติด ซึ่งเป็นรายการแข่งรถยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวมถึงสนามแข่งในต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้า กับการคว้าแชมป์ 3 ปีซ้อน ที่ Australian Touring Car Championship (ATCC) ในปี 1990 – 1992

GT-R Nismo R32 ได้ถูกพัฒนาทั้งตัวเครื่องและเทคโนโลยีโดยสำนักแต่งของนิสสันอย่าง Nismo หรือชื่อเต็มคือ Nissan Motorsport International Limited ที่ได้ถูกเรียกว่าเป็นพ่อมดผู้เสกความแรงได้ดั่งใจ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สร้างแรงยึดเกาะกับถนนเมื่อทำความเร็วสูงขึ้น กลีบใบพัดเทอร์โบที่ทำจากเซรามิกทนต่อความร้อนยามใช้รอบสูงในสนามแข่ง เครื่องยนต์ 6 สูบ 2568 c.c ทวินเทอร์โบ ที่สลับกันทำงานในรอบต่ำและสูง ส่งผลให้อัตราเร่งเป็นไปอย่างลื่นไหลและต่อเนื่อง เรียกใช้ความแรงถึง 280 แรงม้าได้อย่างทันใจ และอัตราเร่งสูงสุดตั้งแต่ 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ด้วยความเร็วและแรงจึงทำให้ GT-R Nismo R32 ลงสนามในการแข่งขันต่าง ๆ และคว้าแชมป์มาอย่างต่อเนื่อง จนถูกสื่อของออสเตรเลียตั้งฉายาว่าเป็น Godzilla ปีศาจทางเรียบที่มาจากญี่ปุ่น

 

1997 Nismo 400R

รถยนต์รุ่นพิเศษนี้เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1997 เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่น GT-R33 ซึ่ง Nismo 400R มาพร้อมการการลดน้ำหนักตัวอันเป็นปัญหาที่นักขับบ่นกันเป็นเสียงเดียวว่าขาดสีสันความสนุกแบบใน R32 พร้อมปรับเครื่องยนต์ใหม่ ยกระดับระบบน้ำมัน ท่อไอเสียขนาดใหญ่และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ดีขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ 2568 c.c. ทวินเทอร์โบ ทำให้ Nismo 400R ถือว่าเป็นรถยนต์ในตระกูล GT-R อีกหนึ่งรุ่นที่ฮ็อตไม่แพ้ใคร และเป็นที่ถูกใจของเหล่าสาวก Skyline เพราะความแรงถึง 400 แรงม้า หรือ 298 กิโลวัตต์ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 300 กม./ชม. มีอัตราเร่งสูงสุดตั้งแต่ 0-97 กม./ชม. ในเวลา 4 วินาที ที่ถือว่าเร็วและแรงมาก ๆ ในช่วงเวลานั้น

 

2002 Nissan Skyline GT-R M spec Nur

ในปี 2002 นิสสันได้ออกรถยนต์รุ่นสุดท้ายของ GT-R 34 ในชื่อ Skyline GT-R V Spec II Nur และ GT-R M Spec Nur ซึ่ง M คือชื่อคน มาจาก Mizuno หัวหน้าทีมวิศวกรของนิสสัน และ Nur เป็นชื่อของสนามแข่งรถ Nurburgring ของเยอรมนี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของความเก่าแก่และความโหดที่ทั้งนักขับ และบริษัทรถยนต์ต้องนำรถรุ่นใหม่ออกมาทดสอบสมรรถนะเพื่อแข่งกันทำเวลาที่เร็วกว่าสถิติเก่าอยู่เสมอ

แบบจำลองของรุ่น Nur ได้ปรับปรุงและพัฒนามาจากเครื่องยนต์ RB26DETT N1 พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ รวมถึงอัพเกรดเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับใบพัดแบบเซรามิกแทนใบพัดแบบเหล็ก มาพร้อมเทอร์โบ 450 แรงม้า นอกเหนือจากเรื่องเครื่องยนต์แล้ว สีของตัวรถและภายในห้องโดยสารก็มีการปรับเปลี่ยนให้แตกต่างไปจากเดิม เช่น วาล์วที่กลายเป็นสีทองจากแบบเดิมที่เป็นสีแดง หรือแผ่นวีเนียนสีเงินก็ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นสีทอง และทิ้งท้ายไว้อย่างสวยงามด้วยการผลิตเพียงแค่ 250 คันเท่านั้น ทำให้ Skyline GT-R M spec Nur กลายเป็นรถหายากที่เพิ่มมูลค่าให้กับนักสะสมได้เป็นอย่างดี

 

2018 GT-R Nismo

ตั้งแต่ Skyline 2000 GT-R มาจนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นได้ถึงรูปทรงที่เปลี่ยนไปรวมถึงการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ซึ่ง GT-R Nismo 2018 ในเรื่องของขุมพลังจะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ V6 แบบ VR38DETT ความจุ 3.8 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 570 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 318 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.7 วินาที ถือได้ว่า GT-R Nismo 2018 เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์สูงสุดรุ่นหนึ่งของโลกในเวลานี้

จุดเด่นของ GT-R ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง แต่รวมไปถึง Aerodynamics ที่น่าทึ่ง ด้วยรูปทรงเพรียวลมที่สร้างแรงถ่วงน้อย ทำให้รถยนต์ในตระกูล GT-R พุ่งแหวกอากาศได้อย่างสบาย ๆ รวมถึงช่วยในเรื่องการเกาะถนน การควบคุมช่วงทางโค้งทำได้อย่างยอดเยี่ยม และดีไซน์ที่เท่ไม่เคยตกยุค ทำให้ GT-R ยังคงเป็นสุดยอดรถในฝันครองใจรุ่นคุณปู่ไปจนถึงรุ่นหลานได้อย่างไม่เสื่อมคลาย

 

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line