ทำงานแทบตายไม่เสร็จสักที! บอกลา 5 อุปสรรคในออฟฟิศที่ขัดขวางชีวิต PRODUCTIVE ของคุณ

‘ออฟฟิศ’ เป็นสถานที่ที่สัมพันธ์กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเป็นที่สุด เพราะเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ร่วม 8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถ้านับดูดี ๆ ก็มากถึง 1 ใน 3 ของวัน แต่น่าแปลกที่หนุ่มออฟฟิศบางคนกลับใช้เวลาทำงานมากกว่า 8 ชั่วโมงเสียอีก และยิ่งแปลกไปกว่านั้นเมื่อพวกเขาดันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ

ผู้ชายบางคนทำงานในองค์กรที่มีเวลางานยืดหยุ่น และคุ้นชินกับการมาทำงานสายจนทำให้งานไม่เสร็จ แต่ใจก็ไม่อยากหอบงานกลับไปทำต่อที่บ้าน เลยต้องนั่งทำงานต่อจนกินเวลาเกินกว่า 8 ชั่วโมง นอกจากพฤติกรรมนี้จะสะท้อนว่าคุณไม่สามารถจัดสรรเวลาทำงานได้อย่างเหมาะสมแล้ว มันอาจบ่อนทำลายชีวิตแบบ productive และทำลายความสุขในการทำงานของคุณจนไม่เหลือชิ้นดีอีกด้วย

วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะมาชี้เป้า 5 อุปสรรคในออฟฟิศที่คุณควรกำจัดมันให้สิ้นซาก เพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวอย่างมีประสิทธิภาพ!

อุปสรรคที่ 1: สภาพแวดล้อมในการทำงาน

แม้ออฟฟิศแบบเปิดโล่งจะได้รับความนิยมในสมัยนี้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบออฟฟิศสไตล์นี้ เพราะหายนะของออฟฟิศแบบเปิดโล่งคือการที่คุณต้องทนฟังเสียงคนอื่นคุยกันไปมาข้ามหัวคุณตลอดทั้งวัน ไม่เพียงบั่นทอนสมาธิในการทำงาน แต่อาจทำให้คุณทนไม่ไหวและเผลอไปร่วมวงสนทนากับพวกเขาต่ออีกด้วย

วิธีแก้ง่าย ๆ คือหาหูฟังเปิดเพลงดัง ๆ อุดหู หรือปลีกตัวออกไปทำงานในมุมสงบ ๆ จะช่วยให้คุณสามารถทำงานต่อได้อย่างลื่นไหล แม้ต้องอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อการทำงาน (ที่ต้องใช้สมาธิ) ก็ตาม

อุปสรรคที่ 2: โซเชียลเน็ตเวิร์ก

ถ้างานของคุณไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารหรือตอบอีเมลตลอดเวลาก็คงจะดีไป แต่ถ้างานของหนุ่ม ๆ ต้องเกี่ยวพันกับสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ โปรดระวังว่าคุณจะเผลอกดเข้าแอปพลิเคชันหรือเบราว์เซอร์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงานนะครับ

เราแนะนำให้ลองปิดการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันอย่าง Facebook, Line, Twitter หรือ Instagram แล้วค่อยมาดูมันอีกทีตอนที่ทำงานเสร็จหรือพักเบรก วิธีนี้จะช่วยให้คุณจดจ่อกับงานที่ทำได้มากยิ่งขึ้น

อุปสรรคที่ 3: การขัดจังหวะ

“ขอเวลา 2 นาที” ประโยคยอดฮิตแสนคุ้นหูที่ดูอย่างไรก็น่าจะเกิน 2 นาทีอยู่แล้ว แต่คงเป็นฟอร์มขอเวลาแบบสุภาพที่ผู้พูดส่วนใหญ่เลือกใช้กัน ต่อให้เข้าใจดีว่าชีวิตการทำงานนั้นไม่ได้ราบรื่นไปเสียหมด และบางครั้งก็ต้องมีเรื่องกะทันหันหรือเร่งด่วนที่กัดกินเวลางานกันบ้าง

แต่ถ้าผู้พูดให้ความสำคัญกับประโยค “ขอเวลา 2 นาที” นั้น ๆ ของตน หรือมีความน่าเชื่อถือมากพอ จะทำให้พนักงานคนอื่น ๆ ในออฟฟิศรวมทั้งคุณเอง สามารถกะเวลาในการปรึกษาหารือร่วมกันและกะเวลาทำงานได้อย่างเหมาะสม

อุปสรรคที่ 4: การประชุมยืดยาวที่ยากจะจบ

การกำหนดเนื้อหาการประชุมหรือระยะเวลาที่ใช้ในการประชุม ก็เป็นอีกเรื่องที่หนุ่ม ๆ ควรให้ความสำคัญไม่น้อย เพราะการประชุมเป็นตัวการที่กินเวลาการทำงานของคุณไป ถ้าคุณหรือเพื่อนในออฟฟิศสามารถประชุมอย่างเป็นมืออาชีพ

เข้าประชุมตามเวลานัดหมาย อภิปรายในประเด็นที่สำคัญ และดำเนินการประชุมภายในระยะเวลาที่กำหนด เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่เสียเวลาไปกับการประชุมและมีเวลามากพอให้หันมาทำงานตัวเองบ้าง

อุปสรรคที่ 5: ระเบียบของโต๊ะทำงาน

อาจฟังดูเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไร้สาระ แต่จริง ๆ แล้วการจัดระเบียบของโต๊ะทำงานก็มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วยเช่นกัน ถ้าโต๊ะทำงานของคุณรกหรือวางเอกสารซ้อนทับกันมั่วซั่ว คงเป็นเรื่องยากที่คุณจะหาเอกสารสำคัญสักชิ้นเจอภายในไม่กี่วินาที

เพราะฉะนั้นหนุ่ม ๆ จึงควรจัดระเบียบโต๊ะทำงานเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกสารและสะดวกสบายต่อการทำงาน ถ้าโต๊ะของคุณมีเอกสารทุกฉบับที่ต้องการใช้ หรือมีอุปกรณ์การทำงานที่ครบครัน เพียงไม่กี่ชั่วโมงกองงานมหึมาที่วางตรงหน้าคุณก็คงจะถูกกำจัดไปทีละชิ้น ๆ อย่างแน่นอน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังมาทำงานสาย ทำงานไม่เสร็จ และกลับบ้านหลังเพื่อนคนอื่น ๆ เสมอ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกำจัดอุปสรรคในการทำงานทั้ง 5 ข้อนี้ทิ้งไป หวังว่าหนุ่ม ๆ จะไม่ต้องทนทำงานหลังขดหลังแข็ง ไม่ต้องอยู่เป็นคนสุดท้ายที่รอปิดออฟฟิศ และมีเวลาเหลือไปทำเรื่องสำคัญอื่น ๆ ในชีวิต

COVER SOURCE