Work

“ยิ่งติดยิ่งไปต่อ” งัดข้อกับ 5 อุปสรรคชวนเสียเส้นที่เปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนเหนือคน

By: anonymK March 30, 2018

เมื่ออุปสรรควิ่งเข้าใส่ คนส่วนใหญ่หมดเวลากับการวิ่งหนีมัน ซึ่งถ้าหลบหลีกสำเร็จสิ่งที่เราได้กลับมาก็มีแค่ความโล่งใจที่รอดเรื่องนี้ไปได้แบบจวนตัวครั้งต่อครั้ง พอเจอกำแพงแห่งใหม่เราก็ต้องวิ่งหลบมันไปเรื่อย ๆ แม้ไม่เจ็บตัวแต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมา แต่ UNLOCKMEN อยากให้คุณลองเผชิญหน้ากับกำแพงสักครั้ง เดินเข้าไปจ้องตากับปัญหาตรง ๆ แล้วเราจะรู้ว่าเส้นทางที่ดูเหมือน “ตัน” มันมีรางวัลที่ไม่สามารถซื้อขายได้จากที่ไหน ซึ่งจะเป็นสเตปสร้างคนตัวเล็กอย่างเราให้กลายเป็นคนยิ่งใหญ่เหนือคนอื่น!

UNLOCKMEN ขอแนะนำ 5 อุปสรรคที่คุณต้องยิ้มรับและวิ่งเข้าชาร์ตเมื่อเจอมันไม่ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน เพราะเมื่อคุณเอาชนะมันได้มันจะตอบแทนคุณด้วยผลลัพธ์เกินคาด

 

อุปสรรคแห่ง “ความห่วย”

ปัญหาแรกที่เราทุกคนต้องเจอคือ “ความห่วย” ยอมรับกันตรง ๆ ว่าเราทุกคนไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง อย่างที่มีคนบอกไว้ว่าคนเก่งวิทย์อาจจะไม่เก่งภาษา แต่ถามว่าคนที่เก่งทั้ง 2 อย่างมีไหม มันก็มี ซึ่งเขาอาจจะไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเจอปัญหาเรื่องทักษะไม่ถึง ก็แค่ปรับมุมมองมาตั้งหลักความคิดเชิงรุก วันนี้กูไม่เก่ง คำตอบมันง่ายมาก “มึงก็แค่ต้องทำให้ตัวเองเก่ง” ดังนั้น การเข้าคอร์สหรือแบ่งเวลาไปพัฒนาตัวเองตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า เพราะสิ่งที่ได้กลับมามันไม่ใช่แค่ทักษะแต่เป็นโอกาสในการใช้ชีวิต งานที่ดี และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

อุปสรรคแห่ง “ความยาก”

ความยากมันเหมือนยาขม หลายคนรู้ว่างานหรือสิ่งที่กำลังทำอยู่ ทำให้มันพ้น ๆ ไป มันได้ผลดีเหมือนกัน แต่ถ้าเติมความยุ่งยากอีกหน่อย ผลลัพธ์มันจะดีกว่าเดิมเยอะ อย่าทำตัวนิ่งไม่ไหวติงแล้วเลือกแต่ทางง่ายเพราะเห็นว่ามันสบาย เมื่อไรที่เจออุปสรรคให้เลือกระหว่างความยากกับความง่ายให้ป้อนยาขมให้ตัวเองกินสักครั้ง เพราะมันจะกลายเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยคุณผ่านพ้นเรื่องอื่น ๆ ให้คล่องตัวขึ้นและกลายเป็นคนสำคัญที่สามารถแก้ไขเรื่องยากได้โดยไม่ทันรู้ตัว หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เราว่าการอ่านหนังสือเรื่อง “กินกบตัวนั้นซะ!” จะช่วยได้

 

อุปสรรคแห่ง “นักผัด” สายสลอต

ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามมันใช้ได้กับความรอบคอบ แต่ถ้าทุกวันนี้รู้สึกเหมือนคนกำลังจะหมดแรงไม่อยากเคลื่อนไหว แล้วก็ไม่ยอมเคลื่อนไหวเอาจริง ๆ เสียด้วย ให้หยุดทำอย่างนั้น เพราะการโยกบนเก้าอี้โยกมันไม่เคยทำให้ใครไปไหนได้ไกล แต่การลุกชันกายขยับไปด้วยปลายเท้าต่างหากที่ทำให้เราเข้าใกล้เส้นชัย ดังนั้น เมื่อความขี้เกียจมากร้ำกราย ชายเหนือชายต้องไปต่อด้วยการทำสิ่งตรงกันข้ามเพื่อไปต่อ “อย่ายอมแพ้!”

 

อุปสรรคแห่ง “comfort zone”

เรื่องน้ีคงคุ้นกันอยู่แล้วกับคำว่า “comfort zone” ว่ามันคือเครื่องทำนายอนาคตของเราว่าจะกลายเป็นสิ่งยิ่งใหญ่กว่าเดิมได้ไหม เมื่อไรก็ตามที่เรารู้ตัวว่าสบายเกินไปแล้ว พอใจแล้วเราไม่อยากจะล้มอะไรมากมาย นั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้ายอมสู้กับมัน ก้าวเส้นความสบายนั้นออกมาเพื่อทำสิ่งที่ต่างออกไปจากที่เคย เราจะรู้ว่า “ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์” มันเป็นยังไง ทุกก้าวที่ล้มนำไปสู่ก้าวต่อไปที่มั่นคงเสมอ

 

อุปสรรคแห่งอดีต

ทุกครั้งที่จะก้าวไปเจอเรื่องใหม่ ความเจ็บช้ำจากอดีตมันอาจจะคอยส่งสัญญาณบอกสมองกลาย ว่าอย่าไปทำ ความกังวลเองก็จะเริ่มเข้ามาทำงานให้ต้องเครียด ลงท้ายเราเลยไม่กล้าไปต่อ หนนี้ลองใหม่ ถ้าอยากผ่านไปลองใช้คำฉบับพี่วู้ดดี้ที่บอกกับเราว่า “FUCK FEAR” วิ่งเข้าใส่มันเสียเลย เราจะใช้อดีตเอาชนะปัญหาในปัจจุบันและเรียนรู้เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่แบบวันต่อวัน ถ้าคุณผ่านมันไปได้มันจะกลายเป็นทางลัดให้คุณวิ่งเข้าเส้นชัยฉิวล้ำนำคนอื่นอย่างแน่นอน ดังนั้น อย่างลืมเอาความกลัวมาสร้างเป็นพลังกันล่ะ

ปรับโฟกัสเพื่อ UNLOCK กับอุปสรรคทั้ง 5 แล้ว ถึงเวลาที่ชาว UNLOCKMEN จะได้ไปต่อกัน ทริกเล็ก ๆ สำหรับคนที่ยังคิดว่า “เฮ้ย มันก็ยากอยู่ดี ทำไม่ได้หรอก” แค่ลองเปลี่ยนมันทีละนิดหรือหาวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองก็พอ เพราะเราไม่ได้อยากคุณวิ่งชนอย่างไร้สติ อะไรที่รู้สึกเป็นไปไม่ได้ลองหาผู้เชี่ยวชาญไว้ปรึกษา หรือขอร้องให้คนรอบข้างช่วยเป็นครั้งคราวแล้วจดจำวิธีการเหล่านั้นไว้ใช้ มันก็ทำให้คุณพัฒนาได้เช่นกันนะเพื่อนยาก!

SOURCE

Credit cover photo: https://vignette.wikia.nocookie.net

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line