Life

6 ท่านอนมาตรฐาน กับผลลัพธ์สุขภาพที่แตกต่างกันออกไป

By: Thada August 15, 2017

หลายคนอาจจะคิดว่าการนอนหลับให้เต็มที่ก็เป็นสิ่งที่เพียงพอต่อการพักผ่อนแล้ว แต่จริง ๆ แล้วในรายละเอียดของการนอนก็มีปัจจัยส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างเช่น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมชื่อดังเคยส่งนักวิจัยเพื่อไปวิเคราะห์การหลับนอนของนักเตะ ซึ่งต้องให้เหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคนที่ต่างกันออกไป และนั้นก็ส่งผลให้นักบอลของเขามีคุณภาพการนอนที่ดีเยี่ยม

แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเราอาจจะไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น แต่อย่างน้อยควรจะรับรู้ว่า ท่วงท่าการนอนแต่ละท่ามันส่งผลอย่างไรกับตัวเราบ้างก็พอ

ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำสรุปงานวิจัยที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการนอน ได้ศึกษาผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน จากการนอนท่ามาตรฐาน 6 ท่าว่าได้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง

ท่านอนคว่ำ (The Freefall)

ท่านอนที่คว่ำตัวแล้วหันหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง มีข้อดีคือจะช่วยย่อยอาหารหากก่อนนอนจัดมื้อหนักมาก่อนที่จะเข้านอน แต่ก็ไม่ควรคว่ำหน้า เพราะเข้าหมอนเพราะเคยมีกรณีนอนคว่ำหน้า และหายใจไม่ออกขณะหลับจนเสียชีวิตมาแล้ว

ท่านอนตะแคงเด็กทารก (The Fetus)

ท่านอนตะแคงข้างแล้วขดตัวลักษณะคล้ายเด็กทารก ซึ่งเป็นท่าที่พบได้มากในคนทั่วไป ตำแหน่งที่เหมาะสมคือขดตัวไปด้านขวา เพราะหากขดไปด้านซ้ายจะทำให้เกิดโรคเครียด กับการกดทับอวัยวะสำคัญ อาทิ ตับ กระเพาะ ปอด

ท่านอนตะแคงเหยียดตัวตรงแขนแนบลำตัว (The Log)

การนอนในตำแหน่งท่าตะแคงเหยียดตัวตัวนั้น จะช่วยให้กระดูกสันหลังตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ประสบกับอาการปวดหลัง

ท่านอนตะแคงเหยียดแขนออก (The Yearner)

คล้าย ๆ กับท่านอน The Log เพียงแต่ท่านี้ผู้นอนจะยืดแขนไปด้านหน้า โดยข้อดีคือจะช่วยบรรเทาปัญหากรดไหลย้อน และการหยุดหายใจขณะหลับได้ แต่ถ้าหากเกิดนอนท่านี้แล้วยังมีปัญหาแนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ท่านอนหงาย (The Soldier)

ท่านอนหงายซึ่งเป็นท่ามาตรฐานทั่วไปที่หลายคนอาจจะคิดว่าดีที่สุด ซึ่งแท้จริงแล้วการนอนในท่านี้อาจก่อให้เกิดการนอนกรนหายใจลำบาก จนเป็นเหตุให้ตื่นกลางดึก และนอนไม่ได้คุณภาพตามมา

ท่านอนหงายกางแขนขึ้น (The Starfish)

ท่านอนหงายเหยียดแขนออกลักษณะเหมือนปลาดาว จะคล้ายกับการนอนหงายธรรมดา เพราะมีแนวโน้มที่จะนอนกรน และมีปัญหาในขณะนอนหลับ จนทำให้ตื่นมาและรู้สึกปวดหัวในตอนเช้า

นี่ก็เป็นประโยชน์ และข้อเสียสำหรับการนอนแต่ละท่า ซึ่งอันที่จริงแล้วการนอนที่ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด คือการเปลี่ยนท่านอนไปเรื่อย ๆ

โดยทั่วไปคนเราจะนอนหลับคืนละประมาณ 3-4 รอบ แบ่งเป็นการนอนหลับสนิท และฝันสลับกันไป ในขณะที่เราฝันกล้ามเนื้อจะอ่อนแรง ทำให้หายใจลำบาก หรือเกิดภาวะผีอำ คือวางแขนกดทับอยู่บนทรวงอกจนหายใจขัด แต่ไม่สามารถยกแขนออกได้

ดังนั้นทุกครั้งที่เรารู้สึกตัว เมื่อผ่านภาวะฝันไปแล้วในแต่ละรอบ ก็ควรที่จะเปลี่ยนท่านอนจากท่าเดิมเป็นอีกท่าหนึ่งที่สบายขึ้น ไม่ควรปล่อยให้แขนขาชาเนื่องจากถูกทับจนขาดเลือด หรือไม่ได้ขยับตลอดทั้งคืน

source

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line