Work

ไม่รู้ว่าอยากทำอะไรไม่ได้แปลว่าไม่มี! ตอบ 6 คำถามนี้เพื่อฉุดตัวเองขึ้นจากความว่างเปล่า

By: anonymK February 28, 2018

“โตไปไม่โกง” อาจเป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่สังคมตามหา แต่พวกเราชาว UNLOCKMEN ล่ะ ?​ เราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าโตไปอะไรใช่ อะไรไม่ใช่ อยากเป็นอะไร หรืองานที่กำลังทำอยู่ทุกวันนี้ใช่ความฝันของเราแล้วหรือยัง ? ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับการเป็นตัวเอง เราอยากให้ทุกคนที่อาจกำลังสับสนได้มีโอกาสใช้ชีวิตแบบ YOLO ในสิ่งที่ตัวเองต้องการกับเขาสักครั้ง จากการเริ่มต้นถามตัวเองตาม 6 วิธีนี้

 

1. ปลุกความขี้อิจฉาในตัว

อ่านแล้วอย่างเพิ่งร้องว่าไร้สาระ บางครั้งผู้ชายอย่างเรามองว่าความขี้อิจฉามันเป็นเรื่องหยุมหยิม ดูไม่แมนและเป็น loser เลยพยายามมองข้าม แต่มันอาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลให้นั่งแน่นิ่งหาคำตอบของความชอบไม่เจอ เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ อย่างตอนนี้ ทดลองใช้สัญชาติญาณดิบด้านมืดมาค้นหาตัวตนกันบ้าง

ตัวอย่างคำถามกระตุ้นความทรงจำ : “เฮ้ย! แม่งกูอยากจะเป็นอย่างนั้นบ้าง ทำไมโชคดีจังวะ ?” “ทำบุญด้วยอะไรวะ แฟนมันโคตรสวยเลย”

ถ้าปลายทางคำตอบคือดารานักแสดงรวย ๆ เป็นทนาย เป็นทหาร เป็นนักการเมือง หรืออาชีพอะไรก็ตามที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเราไม่มีวันจะอยากเป็นแบบนั้น ขุดมันให้ลึกลงไปอีกหน่อยเพราะคำตอบบางทีมันก็ไม่ได้อยู่แค่ผิว ๆ แต่อาจต่อยอดไปเจอต้นตออย่างอื่น เช่น อิจฉาช่วงเวลาทำงานยืดหยุ่นของมัน อิจฉาที่ได้ใกล้ชิดสาว ๆ ตลอด อิจฉาที่มันได้ไปเที่ยวตลอด หาคนไว้ให้อิจฉาสัก 3-5 คน ความถี่ความซ้ำที่เจอจะเริ่มบอกแล้วล่ะว่าอยากจะทำอะไร หรือได้งานแบบไหนไว้ตอบโจทย์

 

2. เพิ่มฝันจากหน่วยกิตที่ชอบ

จะงงไหม ? ถ้าเราบอกคุณว่าเราจะโยนเงินให้คุณสักก้อน เอาแบบมากพอจะไปเรียนเสริมอะไรก็ได้สักอย่าง โดยไม่ต้องไปนั่งคิดถึงอนาคตว่าสิ่งที่เรียนนั้นจะใช้ได้ไหม แล้วให้คุณตอบตามตรงว่าคุณอยากเรียนอะไร นั่นแหละคือวิธีสะกดรอยไปให้เจอว่าสิ่งที่ใช่ของคุณคืออะไร!

ทำไมต้องถามเรื่องเรียน ? เหตุผลมันง่ายมากเพราะในความเป็นจริงแล้ว การเรียนมันคือการให้คุณทำงานแบบฟรี ๆ ดังนั้น ถ้าคุณพอใจกับเรื่องไหนก็แสดงว่าทางนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่คุณชอบและแฮปปี้กับมันได้ไม่ว่ามันจะใช้เวลามากกว่าชีวิตแบบ nine to five หรือเปล่าก็ตามที

 

3. ลิสต์ 3 คนสุดปลื้มขึ้นมา

ข้อนี้จะต่างจากข้อแรก เพราะข้อแรกอารมณ์เราจะเข้าข่ายอยู่ด้านลบมากกว่าบวก เพื่อสร้างความสมดุลเราจะให้คุณลองเลือกคนสามคนในลิสต์คนที่คุณปลื้มขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะเป็นไอดอลของคุณในด้านไหน กีฬา การเงิน ฯลฯ แต่หลังจากเลือกมาแล้วช่วยถามต่อไปอีกด้วยว่า “ทำไมนายถึงได้ปลื้มพวกเขาออกหน้าออกตา หรือเป็นแฟนคลับที่คอยออกโรงปกป้องไม่ให้คนรอบข้างมาแหยมมายุ่ง

หลังจากรู้แล้วว่าทำไมเราจะรู้ตัวเองอีกนิดว่าที่จริงแล้วเรามีค่านิยมหรือชื่นชอบอะไร ของพวกนี้แหละที่มีคุณค่ามากพอจะมาปั้นต่อให้เป็น passion

 

4. บวกกันสักที กระแทกกรอบวันวานที่เคยทำไม่ได้

เราจะไม่ถามว่าตอนนี้ชาว UNLOCKMEN อายุเท่าไหร่กันแล้ว แต่ถ้ากำลังตามหาเป้าหมายหรือสิ่งที่รักในชีวิตนี้อยู่ ลองย้อนกลับไปในวันวานกันหน่อย มันต้องมีสักช่วงวัยนึงของเราที่โดนห้าม! ไม่ว่าจะแม่ไม่ให้เล่นดนตรี พ่อไม่ให้เรียนศิลปะ คนข้างบ้านตะโกนด่าตอนเราฟังเพลงร็อก จนเราต้องยอมแพ้ล้มเลิกไป ถึงเวลาแล้วดึงมันกลับมาซะเพื่อคลายปมและเติมความรู้สึกที่เคยแหว่งวิ่นไปให้เต็ม

 

5. โม้ให้ตัวเองฟังหน่อย

อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่าไปทำแบบนี้! แต่ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียว ถึงเวลางัดเอามาพูดเพื่อเร่งให้ตัวเองเข้าใกล้สิ่งที่ต้องการจริง ๆ กับเขาสักที อาจจะลองเปิดประโยคเด็ดที่โม้ไม่สุดก็ได้ถ้ายังกังวล เช่น ตั้งแต่เกิดมาเราทำเคยได้รางวัลอะไรติดตัวกับเขามาบ้างวะ ? ตอนอยู่ในวงเหล้าเราสร้างความสนุกให้เพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่า ? ค้นหาพรสวรรค์ตัวเองไปเรื่อย ๆ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ให้เอาออกมาโม้ คนแก่ชม หมามองตามอะไรก็พูดออกมาให้ตัวเองได้ยินดัง ๆ

ทำวนไปให้ครบสัก 10 ข้อ หล้งเจอข้อดีในตัวเอง ถัดมาต้องต่อยอดมันด้วย มันต้องดีขึ้นกว่านี้แล้วรับรองว่าจะพาไปเจออะไรดี ๆ อย่างอื่นต่อไปได้แน่

 

6. ฝันว่ารวย หนี้หาย รายจ่ายเท่าขี้ฝุ่น

ความเป็นมหาเศรษฐีรวยล้นฟ้ากับไฟฝันมันมาคู่กัน เหมือนที่มีคนเคยบอกว่ายามสงครามสงบศิลปะจะเฟื่องฟู เพราะพอปัจจัยความกังวลโดนกลบเราจะหันมาเติมเต็มเรื่องอื่น ๆ แทน เพื่อปลุกฝันที่ยังหลับอยู่เราอยากให้คุณลองหันมาจินตนาการฟุ้ง ๆ กันสักแปป ฝันกลางวันว่า “ถ้าผมรวย…” แบบไม่ต้องเครียดเรื่องเงินเดือนชนเดือน ไม่ต้องทำงานอีกทั้งชีวิตก็อยู่ได้สบาย เราจะยังอยากทำอะไรอีก จุดกำเนิดของความต้องการที่ไร้ข้อจำกัดผูกพัน งานประจำไม่ทำเงินพวกนี้คือสิ่งที่นายต้องหวงแหนไว้ให้มาก และเติมมันให้เต็มสูบ

“ความจำเป็นในวันที่ไม่จำเป็นคือสมการบอกความฝันที่แท้จริง”

 

น่าจะเริ่มรู้สึกฮึกเหิม เร่ิมรู้สึกไปถูกทางกันบ้างแล้ว แต่หลังจากได้กุญแจเป็นความฝันที่เข้ากับตัวเราแล้วแบบไม่ต้องลุ้นก็ต้องหันมาลงมือทำด้วย เพราะนอกจากเรื่องการไม่รู้ว่าตัวเองต้องการจะเป็นหนึ่งในสำรวจที่เราพบว่าคนส่วนใหญ่อยากรู้แล้ว ความฝันที่ตกชั้นไปเพราะไม่ลงมือยังเป็นอีกสิ่งที่เราเจอบ่อยด้วย เพื่อให้เราเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้สุดในทางที่ใช่อย่าลืมทำทั้ง 2 อย่างนะ สู้เขานะชาว UNLOCKMEN !

 

SOURCE

anonymK
WRITER: anonymK
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line