Life

7 พฤติกรรมคนเมา ที่คุณต้องเคยปวดหัวเพราะเพื่อนมาแล้ว

By: unlockmen April 27, 2015

เชื่อว่าเรื่องปาร์ตี้มันคงไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งในสมัยนี้ด้วยแล้ว เรียนกันหนัก ทำงานกันเหนื่อย ตกเย็นก็ไม่พ้นต้องไปคลายเครียดสังสรรค์กันซักหน่อย จากตอนแรกอาจจะแค่จิบๆ คิดไว้ว่าดื่มแค่พอหายเครียด แต่พอเครื่องเข้าจังหวะไปแล้วเรียบร้อย ใครก็ห้ามไม่อยู่ เพราะฉะนั้นเวลาผับหรือสถานบันเทิงปิดแล้ว ไม่แปลกที่หันไปทางไหนก็มักเห็นแต่คนเมากันเต็มไปหมด

หลายๆคนคงรู้ว่าการไปกินเหล้ากับเพื่อนเป็นเรื่องที่ปฏิเสธยาก ความจริงก็อยากจะนอนอยู่บ้านพักผ่อนพักกายาเสียบ้าง แต่ใจหนึ่งมันก็อยากจะออกไปเริงร่าไปเที่ยวหาความสำราญสักหน่อยให้เรื่องเครียดๆ มันหายไป ซึ่งอย่างน้อยเคสแบบนี้ก็เป็นเราเองที่จะตัดสินใจได้ว่าจะไปหรือไม่ไป แต่บางกรณีนั้นถือเป็นไฟลท์บังคับ เมื่อเพื่อนเรามันดันมีเรื่องทุกข์ใจ ปัญหาความรักต่างๆ นาๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจพิทักษ์เพื่อนให้หายเศร้า ถ้าไปเที่ยวแบบปกติมันก็ดีอยู่หรอก ถ้าเพื่อนเราคนนั้นมันไม่เกิดเมาขึ้นมา สร้างปัญหาให้เราต้องคอยดูแล

และนี้เอง ที่ทำให้วันนี้ UNLOCKMEN ขอหยิบยก 7 พฤติกรรมคนเมาของเพื่อน ที่คุณต้องเคยปวดหัวกันมาบ้างแล้ว มาดูกันเลยว่าคุณเคยผ่านศึกข้อไหนมาแล้วบ้าง

  1. สายเมาแล้วทิ้งตัว

01

เคยไหมครับ ตอนเข้ามาก็เดินด้วยกันมาได้ดีๆ กินไปสักพัก ก็เกิดกลายเป็นคนหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นมาเฉยๆ พอยิ่งกินก็ยิ่งหมดแรง  แต่ปัญหามันจะเกิดก็เมื่อผับปิดแล้วนี้แหละ ก่อนไฟเปิดก็เห็นยังเต้นได้อยู่ดีๆ พอไฟเปิดเท่านั้นทิ้งตัวทันที เป็นปัญหาให้บรรดาเพื่อนๆไม่มากก็น้อยต้องคอยหามออกมา แล้วที่สำคัญคือทิ้งตัวเหมือนไปเหนื่อยอะไรมา หิ้วกันสองข้างก็ไม่ไหว ต้องคอยกระซิบบอกว่า “อย่าทิ้งตัวๆ” พอบอกก็ฮึดแรงสู้ขึ้นมาหน่อยแต่สักพักก็ทิ้งตัวอีกแล้ว มีเพื่อนแบบนี้คนเดียวก็ยังพอรับไหว แบกกันไปได้ แต่ลองจินตนาการว่าถ้าเราไปกันสามคน แล้วเพื่อนอีกสองคนเมาแล้วทิ้งตัวสิครับ เป็นผม ผมจะทิ้งตัวตาม ไม่กลับบ้านแล้ว หาหมอนนอนนี้เลยแล้วกัน

  1. สายเมาแล้วชวนต่อ

02

ตอนก่อนออกมาก็สัญญากันแล้วว่ามาแป๊ปเดียวนะ มาเป็นเพื่อนเฉยๆ ดื่มกินกันพอประมาณก็กลับ มันก็ให้คำสัญญาซะเป็นมั่นเป็นหมายว่าไม่นานแน่นอน กินแป๊ปเดียวก็กลับ พรุ่งนี้เช้ากูก็มีงานเหมือนกัน เรียกได้ว่าพูดจนเราเชื่อใจ ก็โอเค สรุปตกลงใจไปด้วย แต่พอเหล้าเริ่มเข้าปาก ผ่านไปสองชั่วโมงก็แล้ว สามชั่วโมงก็แล้ว พูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมกลับ ไอ้เราจะกลับก่อนก็เดี๋ยวจะหาว่าทิ้งเพื่อน ก็ต้องเลยตามเลยไปก่อน พอผับปิด จิตใจเราก็แสนมีความสุข ถ้าไม่มีคนใดคนหนึ่งในกลุ่มที่เมาไปแล้วเรียบร้อย จะชิงพูดขึ้นมาเสมอว่า “ไปต่อกันเถอะ” ผมว่าใครที่เตรียมตัวจะกลับบ้านได้ยินคำนี้เข้าก็ต้องช็อค คนสายนี้น่ากลัวมากๆครับ เมาแล้วจะไม่ยอมกลับบ้าน ต้องไปต่อให้ได้ ถ้าเพื่อนคนอื่นๆช่วยกันห้ามก็ดีไป แต่ถ้าจังหวะนั้นทุกคนเห็นดีเห็นงามไปด้วยแล้วล่ะก็ คงเป็นเราคนเดียวที่ต้องทุกข์ แล้วกัดฟันหอบสังขารไปปฏิบัติภารกิจเพื่อนแท้ต่อ

  1. สายเมาแล้วหัวเราะ

03

ความจริงแล้วถ้าเราเห็นเพื่อนอารมณ์ดี มันก็มีความสุขไปด้วยนะครับ เหมือนกับเพลงของแดนบีมที่ร้องว่า เห็นเพื่อนสนุก ชั้นยิ่งสุข โฮวะโฮ้ แต่บางทีความสุขมันต้องมีขอบเขตกันบ้างว่าไหม ผมรับรองว่าทุกคนต้องมีเพื่อนสายนี้ คือเมื่อเหล้าเริ่มเข้าปากเมื่อไหร่ก็ตั้งต้นอารมณ์ดีเมื่อนั้น จนไปถึงจุดๆหนึ่งที่เขาไม่สามารถอดกลั้นความมีความสุขของตัวเองได้อีกต่อไป บุคคลเหล่านี้จะพูดไปขำไปครับ หรืออยู่ดีๆก็หัวเราะขึ้นมาไม่มีสาเหตุ และถ้าไปจนถึงขั้นแอ้ดว้านซ์แล้ว เขาเหล่านี้จะเริ่มชี้ชวนให้เราดูสิ่งต่างๆแล้วขำโชว์เรา ยิ่งเมื่อผับปิดแล้วเราต้องออกมายืนรอรถแท็กซี่หน้าผับกันเพื่อกลับบ้านแล้ว เชื่อว่าสายนี้จะสร้างความอับอายให้เราได้ในระดับหนึ่งทีเดียวแหละครับ

  1. สายเมาแล้วคิดถึงแฟนเก่า

04

หากเป็นเพื่อนกันแล้วมันต้องแชร์กันได้ทุกเรื่องครับ ไม่ว่าจะเรื่องชีวิต การเรียน หน้าที่การงาน และที่สำคัญคือเรื่องความรัก และเรื่องความรักนี้เองก็มักจะเป็นเหตุผลใหญ่ๆให้เราต้องมีปาร์ตี้กัน เรียกได้ว่าถ้าเพื่อนเฮิร์ทมา ก็ต้องพาไปพยาบาลกันด่วนๆ จะปล่อยให้เพื่อนเหงาหงอยอยู่ห้องไม่ได้ เผลอๆเกิดฆ่าตัวตายขึ้นมา เป็นเราอีกที่จะผิดบาปไปตลอดชีวิต สายนี้มาแนวเรียบง่ายครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน คือเมื่อเมาเมื่อไหร่ จะเริ่มต้นเล่าเรื่องแฟนเก่าทันทีให้เราฟัง ถึงมันจะรู้อยู่แล้วว่าเรารู้อยู่แล้ว(งงไหมครับ) มันก็จะเล่าครับ ที่สำคัญคือจะเล่าละเอียดมากๆ เล่าจนเราจำได้เหมือนให้เราเก็บไปไว้สอบ สิ่งที่เพื่อนแท้ควรทำต่อสายนี้คือแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวครับ แล้วคอยปลอบคอยพยักหน้าเหมือนว่า เออ กูเข้าใจ

  1. สายเมาแล้วพูดวนซ้ำๆ

05

ความจริงสายนี้เป็นสายที่ไม่มีพิษภัยอะไรเลยครับ นอกจากสร้างความรำคาญให้เราเล็กน้อย ผมว่าทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์ถูกเพื่อนที่เมาแล้วขอให้พาไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง เช่น ไปห้องน้ำ ไปเอาของที่รถ ไปนั่งพัก เป็นต้น ดังนั้นสายนี้จึงออกแนวเป็นสายย้ำคิดย้ำทำครับ เช่น หากเรากำลังพาเขาไปห้องน้ำ เขาก็จะหันมาพูดวนกับเราซ้ำๆว่า “กูจะไปห้องน้ำ” ทั้งๆที่เรากำลังพาเขาเดินไปห้องน้ำอยู่ พอเราตอบไปว่านี้ไง กำลังพาไปห้องน้ำ สายนี้ก็จะเงียบไปเหมือนเข้าใจแล้ว แต่พอสักพักก็จะหันมาใหม่แล้วบอกว่า “พากูไปห้องน้ำหน่อย” นั้นเองที่ทำให้เรารู้ว่าเขาไม่ได้เข้าใจ ก็อย่างที่บอกครับ สายนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากทำเป็นเออๆ ออๆ ก็พอครับ แค่นี้ก็หมดปัญหาไป

  1. สายเมาแล้วโทรศัพท์

Displeased woman talking on phone in studio, (B&W)

สายนี้เป็นเรียกได้ว่าเป็นสายของจอมวางแผนครับ เพราะจากผลการวิจัยแล้ว ผู้ที่โทรศัพมักใช้การเมาเป็นการอ้างเหตุผลเพื่อจุดประสงค์ให้การโทรศัพท์ลุล่วง ทุกคนอาจจะเคยเจอกันมาแล้วกับเพื่อนที่เมาปุ้บเผลอไม่ได้ โทรศัพท์ใหญ่เลย เรียกได้ว่ามีความเมาแล้วมีความกล้าขึ้นมาทันทีครับ ดังนั้นวันนี้เรามีแนวทางใหม่มานำเสนอกัน ต่อไปนี้ถ้าเพื่อนใครเมาแล้วอยากโทรศัพท์ ให้เรารีบกดเบอร์ให้เลยครับ ถ้ามันเห็นเราเอาจริงขนาดนี้แล้ว ต้องมีชะงักกันบ้างแหละ ตกลงตามนี้นะครับ

  1. สายเมาแล้วถามหาทรัพย์สิน

07

และและก็มาถึงสายสุดท้าย ไม่แปลกหรอกครับ ของๆ ใคร ใครก็รัก ทรัพย์ของใคร ใครก็หวง ยิ่งบางคนสิ่งของเครื่องใช้ไม่ได้ซื้อมาถูกๆ ถึงจะซื้อมาตอนเซลล์ก็ยังไม่ถูกอยู่ดีนะครับจะบอกให้ ดังนั้นถ้าใครจะห่วงหรือหวงสิ่งของ ของเขาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นั่นคือที่มาของสายนี้นั้นเองครับ สายเมาแล้วถามหาทรัพย์สิน สายนี้จะแปลกนิดๆครับ ออกแนวอัลไซเมอร์ พอเหล้าเข้าปากปุ้บ จะเริ่มพารานอยด์กลัวของหาย จะเริ่มจากคอยจับกระเป๋าตังหรือมือถือของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นพอเมาเมื่อไหร่ก็ได้เรื่องให้เพื่อนทันทีครับ พวกเขาและเธอเหล่านั้นจะคอยถามหาของเรื่อยๆว่า กระเป๋ากูล่ะ? โทรศัพท์กูล่ะ? พอเราตอบไปว่าเก็บรักษาไว้ให้อย่างดีแล้วก็จะสงบไป แต่สักพักก็จะเริ่มถามใหม่ โทรศัพท์กูล่ะ? กระเป๋ากูล่ะ? สิ่งที่เพื่อนอย่างเราๆทำได้คือแค่ทนไปครับ ตอบๆเขาและเธอไปเถอะ เรียกได้ว่าตามใจคนเมาไปแล้วกัน

ดังนั้นหากใครว่ารู้ตัวว่าเป็นหนึ่งในสายเหล่านี้ คราวหน้าถ้าออกไปแฮงค์เอ้าท์เมื่อไหร่ก็เพลาๆปริมาณบ้างนะครับ ถือซะว่าเห็นใจเพื่อน

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line