เบียร์ดีกรีแรงๆ 8 ตัว ที่เราอยากให้คุณได้ลิ้มลอง

ความใฝ่ฝันของคอเบียร์ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นการได้ลิ้มรสชาติของเบียร์ตัวใหม่ๆ ที่ตนไม่เคยได้ชิม ไม่ว่าจะเป็นเบียร์จากเยอรมัน เบลเยี่ยม อังกฤษ หรือแม้แต่เบียร์ไทย มันคงเหมือนการได้เก็บสะสมของรักของหวงไปเรื่อยๆ เหมือนได้เก็บค่าประสบการณ์ของสิ่งที่ตัวเองชอบ แน่นอนที่สุดคือต้องดื่มแต่พอดี ไม่งั้นจากสุขๆ ก็คงกลายเป็นทุกข์ไปได้อีก

วันนี้ UNLOCKMEN เลยขอเอาใจขอเบียร์กันสักหน่อย ด้วยเบียร์ดีกรีแรงๆ ที่มีค่า ABV หรือแอลกอฮอล์ที่กำลังดีงาม ไม่อ่อนจนเกินไป สำคัญคือหากินได้ง่ายตามร้านเบียร์ทั่วไป หรือแม้แต่มาร์เก็ตที่นำเข้าพวกของจากต่างประเทศ ไม่ขอเสียเวลา เราไปลิ้มรสกลมกล่อมของเบียร์แต่ละตัวกันเลย

Leffe Radieuse – 330 ml – 8.2%

Leffe แบรนด์เบียร์จากเบลเยี่ยม สำหรับตัวนี้เป็น Leffe Radieuse อยู่ใน Type ของ Belgian Strong Dark Ale มีพื้นของความเป็นเบียร์ดำ แต่ก็มีรสชาติแบบฟรุ๊ตตี้ของกล้วย ผลไม้จำพวกไซตรัสอย่างส้ม รวมไปถึงผักชีด้วย มีความเข้ม แล้วก็มีกลิ่นอายของความเป็นไวน์ผสมอยู่ ใครอยากจิบเบียร์แรงๆ แต่ฟิลชิลๆ เราแนะนำเลยค่ะ

Lion Stout – 500 ml – 8.8%

ตัวนี้ได้ลองครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน ต้องบอกว่าเป็นเบียร์ที่มีความเข้มขมจริงๆ Lion Stout เป็นเบียร์จากประเทศไม่ใกล้ไม่ไกลจากเราอย่างศรีลังกา ความรู้สึกของเราหลังชิมตัวนี้มันให้ความรู้สึกว่าเหมือนกาแฟมากๆ ไม่รู้ว่าเกิดจากส่วนผสมหลักอย่างเดนิชมอลต์หรือเปล่า ถือเป็นรสชาติที่เด็ดดวงทีเดียวค่ะ

Erdinger Pikantus – 500 ml – 7.3%

Erdinger หนุ่มๆ คอเบียร์ก็น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี Erdinger เป็นเบียร์จากเยอรมัน ตัวนี้อยู่ใน Type ของ Weizen Bock แฝงไปด้วยรสชาติของความเป็นครีมมี่ มีกลิ่นหอมๆ ของกาแฟ มอลต์ พริกไทยดำ ผสมด้วยรสชาติของกล้วยและสับปะรด มีรสสัมผัสแบบไวน์ น่าลิ้มลอง

Weihenstephaner Vitus – 500 ml – 7.7%

เบียร์อีกหนึ่งตัวจากประเทศเยอรมัน ที่ต้องบอกว่ารสชาติของเขาดีสูสีกันมากกับ Erdinger สำหรับตัว Weihenstephaner Vitus นั้น อยู่ใน Type ของ Weizen Bock เหมือนตัวด้านบน ตัวนี้มีสีสว่างๆ มีรสติดลิ้นเผ็ดๆ ของ Wheat beer ค่าของ ABV ก็กำลังดีอยู่ในเกณฑ์ที่สั่งมาดื่มสองขวดได้สบายๆ

Kwak – 330 ml – 8.4%

Kwak เบียร์ใน Type ของ Belgian Strong Pale Ale เป็นเบียร์จากประเทศเบลเยี่ยม สีของเนื้อเบียร์จะมีลักษณะอมแดงสวยงาม มีกลิ่นของความเป็นฟรุ๊ตตี้ และมอลต์ผสมอยู่ มีความขมน้อย เป็นเบียร์จากเบลเยี่ยมที่ดีงามควรค่าแก่การลิ้มลอง

Delirium Noel – 330 ml – 10%

ตัวนี้เราเคยลองแล้ว ผลปรากฎคือขวดเดียวรู้เรื่องจริงๆ ค่ะ เห็นโปรดักมีหน้าตาน่ารักอย่างนี้ รสชาติเขาก็เอาเรื่องทีเดียว ความรู้สึกแรกเหมือนดื่มซุปไก่ มีกลิ่นเตะจมูกของเบอร์รี่ แต่พอชิมไปเรื่อยๆ อร่อยเข้าท่าทีเดียว แบบนี้เข้ากับคำพูดที่ว่าของดี เขาไม่ได้ตัดสินกันที่รูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ

Gulden Draak – 330 ml – 10.5%

เบียร์ตัวนี้อยู่ใน Type ของ Strong Dark Ale มีรสชาติของความเป็นมอลต์ผสมกับความเป็นท็อฟฟี่ มีความละมุนนุ่มลิ้นแบบติดหวาน ดื่มได้เพลินจนลืมตัวว่าแอลกอฮอล์สูงทีเดียว ขวดเดียวเอาอยู่เลยสำหรับเบียร์เบลเยี่ยมตัวนี้ค่ะ

Hitachino Nest Japanese Classic Ale – 330 ml – 7.0%

Hitachino ขวดนี้จัดอยู่ใน type ของ India Pale Ale มีรสชาติของความเป็นครีมมี่อยู่ ชิมไปสักพักจะได้รสสัมผัสหวานๆ แต่แอบแฝงไปด้วยรสชาติเผ็ดๆ เป็นอีกรสชาติที่ควรลิ้มลอง ซึ่ง Hitachinoในบ้านเราก็หาดื่มได้ไม่ยาก ตามคาเฟ่ต่างๆ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีวางขายแล้วเช่นกัน

สำหรับคนที่อยากรู้ว่าจะหาชิมได้จากที่ไหนบ้าง เราแนะนำ ร้านเบียร์อย่างโอกลีตรงซอยอารีย์ หรือร้าน HOBS ที่มีหลายสาขาก็น่าจะหาดื่มได้ไม่ยาก หรือใครที่ชอบดื่มเบียร์อยู่ที่บ้านเราก็แนะนำ Villa Market ที่คุณสามารถหาซื้อเบียร์นำเข้าได้ง่ายๆ แต่ถ้าอยากจะง่ายกว่านั้นอีกเราก็แนะนำเว็บไซต์ wishbeer ที่คุณสามารถกดเลือกเบียร์ให้เขามาส่งได้ถึงหน้าบ้านของคุณเลย เรียกว่าแนะนำสถานที่เอาใจคอเบียร์กันสุดๆ แล้ว ใครลองชิมตัวไหนแล้วชอบไม่ชอบอย่างไร สามารถพูดคุยกันได้ในเพจ UNLOCKMEN นะคะ ขอให้ดื่มด่ำกับวันสบายๆ กับเบียร์ตัวโปรดค่ะ