ช่วงปลายปีเป็นช่วงเวลาที่สุดพิเศษและเป็นค่ำคืนที่มีความหมาย หลายคนใช้ช่วงเวลานี้ฉลองให้รางวัลตัวเองสำหรับความพยายามที่ผ่านมาตลอดทั้งปี และคงไม่มีย่านไหนจะคึกคักเหมาะกับการฉลองไปกว่าซอยทองหล่ออีกแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำบาร์ Vibe ดีที่กำลังมาแรงในทองหล่อซอย 10 นั่นคือ Gaze Cocktail Bar ซึ่งปลายปีแห่งการฉลองนี้จะพิเศษมากยิ่งขึ้นเพราะได้ทีม Bartender ดีกรีระดับแชมป์ปีล่าสุดมาช่วยกันครีเอท Iconic Drinks ค็อกเทลเมนูลับกับ SILVER KNIGHT’S SECRET ที่สร้างสรรค์โดยการใช้วัตถุดิบสุดพิเศษจาก SILVER KNIGHT ซึ่งบ่มนานกว่า 8 ปี กับแรงบันดาลใจจากช่วงเทศกาล X’mas และ New Year Party เป็นเมนูที่นำเสนอในช่วงแบบ Limited ซึ่งเราลองมาแล้วบอกเลยว่ามันพิเศษมากจริง ๆ Gaze Cocktail Bar เป็นบาร์ที่มีความน่าสนใจหลายอย่าง ทั้งบรรยากาศ การตกแต่ง ค็อกเทล รวมถึง Head Bartender มือรางวัล ซึ่ง concept ของร้านนี้มาจากเรื่องราวและความเชื่อของดวงดาวบนท้องฟ้าจากหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ชื่อร้าน Gaze ก็หมายถึงการนั่งดูดาวนั่นเอง การตกแต่งภายในร้านจึงจำลองบรรยากาศแสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าเอามาไว้บนเพดานร้าน พร้อมจอขนาดใหญ่หลังบาร์ที่นำเสนอสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ซูม่า (Zuma) ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะร่วมสมัยยอดนิยมในกรุงเทพฯ ชวนทุกท่านเฉลิมฉลองไปกับช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี กับเทศกาลคริสต์มาส และวันปีใหม่ นำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบเทสติ้งเมนูแสนอร่อยสไตล์ ‘ไดโกกุ’ ที่มีให้บริการทั้งมื้อค่ำ และมื้อสาย พร้อมแพ็คเกจเครื่องดื่มฟรีโฟลวแบบเติมได้ไม่อั้น สร้างบรรยากาศให้คึกคักด้วยเสียงเพลงสุดสนุก และประสบการณ์เคานท์ดาวน์ในวันขึ้นปีใหม่ที่จะเปิดให้บริการถึงเวลา 03:00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองจะเริ่มตั้งแต่วันเปิดไฟต้นคริสต์มาสที่ห้องอาหาร ที่จะส่องสว่างสร้างบรรยากาศของเฟสทีฟตั้งแต่ วันที่ 8 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 6 มกราคม 2567 ‘ไดโกกุ’ ลิ้มลองเทสติ้งเมนูประจำเทศกาล พร้อมแพ็คเกจไวน์แบบดื่มไม่อั้น ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2566 – 6 มกราคม 2567 ห้องอาหาร ซูม่า จะเสิร์ฟอาหารแบบเทสติ้งเมนูประจำเทศกาล ในราคา 5,600 บาทต่อท่าน ออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความสุขและการแบ่งปันผ่านเมนูไฮไลท์มากมาย อาทิ ทาร์ทาร์ปลาทูน่า เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาคาเวียร์และข้าวเกรียบ สลัดปูท้อปด้วยไข่กุ้ง กุงกังซูชิหน้าวากิวราดซอสทรัฟเฟิล ปลากะพงขาวแล่บางราดซอสยูซุและน้ำมันทรัฟเฟิล ปลาแบล็กค็อดห่อใบโอบะย่าง เนื้อวากิวระดับ
วันสุดท้ายของสัปดาห์แบบนี้ ชาว UNLOCKMEN คนไหนที่มีแพลนจะหยุดอยู่บ้าน ใช้เวลาของค่ำคืนจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ดื่มไวน์เบา ๆ สักขวดคลอเคล้าไปกับเพลง Japanese Jazz Trio ของค่าย Three Blind Mice แล้วล่ะก็ เราแนะนำให้ลองเพิ่มเนื้อหั่นเย็น Cold Cut เข้าไปในเมนูอาหารด้วย เพราะนี่คือเนื้อคู่รสชาติที่ลงตัวที่สุดกับไวน์ ถ้าอยากรู้ว่าลงตัวอย่างไร เราเอา Cool Fact มาฝากทุกคนในโพสต์นี้ เนื้อหั่นเย็นมีประวัติยาวนานตั้งแต่ช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ในตอนนั้นชาวโรมันมีวัฒนธรรมการถนอม ‘เนื้อสัตว์’ โดยการหมักใช้เกลือทาและรมควันเพื่อยืดระยะเวลาการกินออกไปนาน ๆ ที่พวกเขาต้องใส่ใจการถนอมอาหารเป็นเพราะจานหลักของแทบทุกครัวเรือนเป็นแฮมกับไส้กรอก โดยมี Cold Cut เป็นเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้นั่นเอง ข้ามเวลามาในช่วงของยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) เนื้อ Cold Cut มีบทบาทมาก ๆ เพราะการมาถึงของขุนนางแห่งอังกฤษ John Montagu หรือ Earl of Sandwich และไอเดียการคิดค้นแซนด์วิชของเขานั่นเอง และเมื่อเข้าสู่ปี
วันศุกร์ทั้งที เงินเดือนก็มีเข้าบัญชีกันแล้ว จะรีบกลับบ้านทำไม แอดอยากชวนไปผ่อนคลายด้วยดนตรี Live Jazz เคล้าเครื่องดื่มดี ๆ กันหน่อยกับ 5 Jazz Bars สายลึกบรรยากาศดีดนตรีไพเราะ เดินทางง่าย ไปคนเดียวก็ได้ ไปกับคนรู้ใจก็ยิ่งเพลินครับ Siwilai Sound Club / ซอยเจริญกรุง 36 หลังตึก Central The Original Store ชื่อ Siwilai การันตีคุณภาพความเนี้ยบของบาร์นี้ได้ดีอยู่แล้ว เป็น Jazz Bar ใหม่ภายใต้เครือ SIWILAI ที่เพิ่งเปิดสด ๆ ร้อน ๆ บรรยากาศสุดคลาสสิคแบบ timeless bar ที่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม แบ่งเป็นสองชั้น ชั้นแรกคือ Living Room สำหรับบาร์และ Live session โดดเด่นด้วยเปียโนที่ตั้งกลางร้าน เข้าถึงการบรรเลงดนตรี Jazz ได้อย่างใกล้ชิด ส่วนชั้นที่สองเป็น
ปี ค.ศ 1920 ที่เป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของบาร์ลับ หรือที่เราคุ้นเคยอย่าง “Speakeasy Bar” ซึ่งในยุคของ ค.ศ 1920 นั้นเป็นยุคที่อเมริกาห้ามขายเหล้า หรือที่เรียกว่า Prohibition ของอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่ห้ามผลิต และห้ามขายอย่างเด็ดขาด จึงเกิดเป็นยุคที่มีการลักลอบการขายเครื่องดื่มอย่างลับ ๆ แบบแอบเปิด จึงเป็นที่มาของคำว่า Speakeasy หรือแปลตรง ๆ ง่าย ๆ ว่า “ค่อย ๆ พูด” ซึ่งร้านพวกนี้จะต้องคุมเสียงไม่ให้ลูกค้าเสียงดังมากเกินไป ไม่งั้นเดี่ยวตำรวจจะมาจับเอา เล่าถึง Speakeasy ในปีค.ศ. 1920 ไปแล้ว เลยอยากชวนมารู้จัก Speakeasy Bar น้องใหม่ที่มีชื่อว่า “2463 Speakeasy” บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของโรงแรม Civic เอกมัย โดยชื่อของร้านคือปี พ.ศ. 2463 ซึ่งเท่ากับปี ค.ศ. 1920 ในการเริ่มยุคของ Speakeasy Bar นั่นเอง
ในซอยสุรวงศ์ดงเจแปน มีร้าน Izakayz เปิดอยู่มากมาย แต่หนึ่งในร้านที่แอดว่าแจ๋วไม่แพ้ใคร ทั้งรสชาติดี บรรยากาศเยี่ยม และที่สำคัญราคามิตรภาพ แอดยกให้ エビスダイニング YEBISU DINING เป็นหัวแถวในตองอู Yebisu Dining ไม่ใช่ร้านเปิดใหม่ แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยไปลอง ขนาดตัวแอดบ้านอยู่แถวนี้ยังพึ่งรู้จัก ร้านกึ่งลับตั้งอยู่บนชั้นสองของตึกแถวในซอยญาดา ตรงข้ามอาคารธนิยะ เป็นซอยแรกถ้าเข้ามาจากฝั่งถนนสีลมให้สังเกตป้ายสีขาว ๆ จะเห็นบันไดทางขึ้นอยู่ชัดเจน บรรยากาศร้านต้นตำรับญี่ปุ่น ทั้งเจ้าของร้านและพนักงานก็เป็นคนญี่ปุ่นที่พูดไทยได้ อารมณ์ดีและเป็นกันเองสุด ๆ ทำให้ร้านนี้เต็มไปด้วยลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ขึ้นมานั่งกินดื่มหลังเลิกงาน เมนูอาหารของ YEBISU แตกต่างจากร้านอื่น ไม่เน้นไก่เสียบไม้ ไม่เน้นเนื้อวัว เพราะเชี่ยวชาญด้านหมู มีตั้งแต่ซาชิมิหมูและเครื่องใน หรือใครใจไม่ถึงเหมือนเราก็แนะนำเป็นเซ็ทหมูย่างเสียบไม้ โดยเฉพาะเมนูแนะนำ Rare Grilled Poek Liver ตับหมูย่างแบบ medium rare เป็นการย่างแบบความสุกพอดี ๆ กรอบนอกนุ่มใน หอม หวาน มัน เข้ากันกับเครื่องดื่มแอลเย็น ๆ อย่างที่สุด เมนูอร่อยมากแบบนอกกระแส ที่เราขอแนะนำว่าห้ามพลาดคือ
The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) โรงแรมไลฟ์สไตล์สุดฮิปจับมือร่วมกับแบรนด์ร้านอาหารระดับโลกอย่าง Mott 32 พร้อมเปิดตัวร้านอาหารจีนชื่อดังสู่ชาวไทยกับ Mott 32 Bangkok ที่จะมานำเสนออาหารไฟน์ไดน์นิ่งสไตล์จีนโมเดิร์นโดยมุ่งเน้นถึงเรื่องความยั่งยืน คงความต้นตำรับ และการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาสอดประสานเพิ่มความโดดเด่นในแต่ละเมนู ในฐานะแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมไปถึงเรื่องการประยุกต์อาหารจีนให้มีความทันสมัยแต่คงความดั้งเดิมเอาไว้ และขึ้นชื่อด้วยการนำเสนอวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพพรีเมียมจากทั่วโลก Mott 32 ก็ได้นำแนวคิดและคงคุณภาพอันดีเลิศนี้มาใช้กับที่กรุงเทพด้วยเช่นกัน “พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ดังอย่าง The Standard โดยเฉพาะกับโรงแรมแฟล็กชิพ The Standard, Bangkok Mahanakhon ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลงตัวมาก ในการนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนชั้นเลิศคู่กับบริการที่ยอดเยี่ยม พร้อมเมนูเครื่องดื่มอันหลากหลาย ทั้งนี้พวกเรามั่นใจว่า Mott 32 Bangkok จะเป็นห้องอาหารอันดับต้นๆสำหรับนักชิมอย่างแน่นอน” คุณ Xuan Mu ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าว ดังนั้น Mott 32 Bangkok จึงพร้อมนำทัพความอร่อยมาสู่กรุงเทพครั้งแรก ซึ่งเชฟจะนำเทคนิคใหม่ๆ บวกกับสูตรลับเฉพาะที่ถูกส่งผ่านนับตั้งแต่รุ่นสู่รุ่นผสานคสามโมเดิร์นมานำเสนอและปรุงแต่งให้ออกมาเป็นมื้อที่ดีที่สุด รวมถึงเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Apple Wood Roasted
Mahasan (มหาสาร) ร้านเนื้อจองยากในตำนาน แต่รับประกันว่าคุ้มค่าความพยายามแน่นอน เนื้อรสชาติดีมาก เป็นเนื้อ Australia Wagyu ที่เสิร์ฟขนาดค่อนข้างใหญ่ ผ่านการย่างที่พิถีพิถัน ทำให้ได้ความสุกและรสชาติของเนื้อที่ยอดเยี่ยม ในราคาที่สมเหตุสมผล เมนูที่แนะนำของร้าน Mahasan (มหาสาร) แน่นอนว่าต้องเป็นเนื้อ แต่เราแนะนำเนื้อหลักทุกส่วนในเมนู จะมี Striploin, Rib Eye, Flat Iron, Tenderloin, Hanger, Chuck arm ซึ่งดีหมดทุกจาน ย่างเสิร์ฟแบบ medium rare สีสวยงาม แนะนำให้จองแบบโต๊ะใหญ่ 12 ที่ นอกจากจะจองได้ง่ายกว่า ยังได้ชิมเมนูแบบครบ ๆ ชิมให้หมดในมื้อเดียว ต้องบอกว่าดีทุกส่วน แต่สำหรับคนที่ทานได้ไม่ครบทุกเมนูจริง ๆ เราอยากแนะนำเมนูที่ไม่ควรพลาดตามนี้ครับ Beef Tongue ลิ้นวัวย่าง เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ดีมาก ๆ ทั้งการเลือกส่วนและการย่างลิ้นวิวที่กรอบนอก นุ่มใน ชีวิตนี้ไม่เคยเจอลิ้นวัวนุ่มขนาดนี้มาก่อน ใครกลัวลิ้นวัวชิ้นใหญ่ ๆ ลืมภาพนั้นไปได้เลย
หลังจากแกรนด์ โอเพนนิ่งเปิดตัวไปอย่างร้อนแรงในปี 2020 ก็ได้เวลาที่ “Playroom” (เพลย์รูม) สปีคอีซี่บาร์หรูย่านเอกมัยของ เจย์ – สายนิสา แสงสิงแก้ว จะก้าวไปอีกสเต็ปสู่บทใหม่ที่เข้มข้นและเจนจัดกว่าเดิม ซึ่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวและความหลงใหลทั้งหมดผ่านการรังสรรค์ 9 เมนูค็อกเทลใหม่ ที่รอให้เหล่าสายดริ้งค์มาดื่มด่ำใน “Playroom Chapter 2” “Playroom” ในคำจำกัดความของสปีคอีซี่บาร์แห่งนี้นั้น ดูจะเป็นให้คุณได้มากกว่าห้องนั่งเล่นธรรมดาทั่วไป เพราะที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบและครีเอทมาเพื่อเป็นห้องนั่งเล่นสุดแสนเพลย์ฟูล โดยได้แรงบันดาลใจมาจากมิสเตอร์ เกรย์ (Mr.Grey) ในภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades of Grey สำหรับทุกคนที่ต้องการมาเติมเต็มประสบการณ์สุดพิเศษ ปลดปล่อยความสนุก หรือใช้เวลาดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและเสียงเพลงท่ามกลางความเป็นส่วนตัว อัดแน่นด้วยคาแรคเตอร์เซ็กซี่แสนซุกซน ที่ทั้งดูรุ่มรวยและหรูหรา แต่กลับมีความลึกลับ น่าค้นหา ให้บรรยากาศเสมือนกำลังชมฉากโปรดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งที่เลือกใช้มู้ดแอนด์โทนของสีแดง ทอง และดำ แถมมาพร้อมกิมมิคให้เล่นสนุกมากมาย ด้วยไอเทมสุดจี๊ดเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ อาทิ โซ่ แส้ กุญแจมือ อีกทั้งตัวเคาน์เตอร์บาร์ก็ยังชวนให้นึกถึงชุดคอร์เซ็ทตั้งแต่แรกเห็น ภายใต้แสงสลัวชวนเคลิบเคลิ้ม เหมาะแก่การนั่งละเลียดค็อกเทล แชมเปญ หรือวิสกี้นุ่มๆ พลาดไม่ได้กับมุมไฮไลท์บนผนังอย่าง “You
ฉลองครบรอบ 1 ปี Contento ร้านอาหารอิตาเลียนที่ก่อตั้งโดย อู้ พหลโยธิน และ บอล ธาราภิบาล สองผู้บริหารในเครือโรงรส Dining Group พร้อมแนะนำส่วนเปิดบริการใหม่ “Contento Upstairs” ที่ให้บริการบาร์ และอาหารบนชั้น 2 ภายในงานมีการนำกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงความทรงจำของทะเลอันดามันจากเครื่องหอมคอลเลคชั่น Andaman Sails จากปัญญ์ปุริ ในการสร้างบรรยากาศให้อบอวลไปด้วยความสดชื่น พร้อมมอบความเพลิดเพลินกับซาวน์อิเล็กทรอนิคจาก DJ IYY ตลอดช่วงเวลาดื่มด่ำกับอาหารสไตล์อิตาเลียน Contento หรือ โรงสำราญ ถือกำเนิดขึ้นบนอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น 5 คูหาในย่านไชน่าทาวน์ ที่นำมาบูรณะใหม่ผ่านมุมมองและความหลงใหลในการเดินทาง และความสุขที่ได้ลิ้มรสอาหารในร้านเล็ก ๆ ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี จากการได้รับเสียงตอบรับที่ดี และเปิดให้บริการมาครบหนึ่งปี Contento พร้อมแนะนำชั้นสองของร้านกับ “Contento Upstairs” ที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างและน่าประทับใจท่ามกลางการตกแต่งด้วยของสะสมจากโรมและมิลาน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด และรูปปั้นในโทนขาวดำ โดยงานศิลปะหลากหลายชิ้นที่ถูกนำมาตกแต่งภายในร้านล้วนเป็นผลงานของ Thaivichit ศิลปินชาวไทยและ Sarah