ใครมีโอกาสแวะเวียนไปย่านทองหล่อซอย 9 คงต้องคุ้นตากับอาคารสีฟ้าเด่นตระหง่านอยู่ต้นซอย แต่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าภายในอาคารสีสันสดใสแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของร้าน LA DOTTA แหล่งรวมเมนูพาสต้าชั้นยอด ที่คงความสดใหม่ พร้อมวัตถุดิบคุณภาพ และการขั้นตอนการปรุงแบบดั้งเดิม เหมือนส่งตรงจากอิตาลีวาร์ปมาเสิร์ฟขึ้นโต๊ะที่เมืองไทยกันเลยทีเดียว โดยร้าน Passta Bar สีฟ้า ซึ่งนำเอาชื่อเล่นของเมือง Bologna ที่มีความความว่า ‘ผู้รอบรู้’ มาตั้งเป็นชื่อร้านแห่งนี้ เกิดขึ้นจากไอเดียของคุณโชติพงษ์ และ คุณเด็บบี้ ลีนุตพงษ์ สองสามีภรรยาที่หลงใหลอาหารอิตาเลียน ผู้อยู่เบื้องหลังร้านดังอย่าง Vesper (บาร์คุณภาพลำดับที่ 11 ของเอเชียจากเวที Asia’s 50 Best Bars 2020) และ il Fumo Charcoal & Cocktail ร้านอาหาร Fine Dining สไตล์อิตาเลียนและโปรตุเกสบนถนนพระราม4 ที่อยากทำร้านอาหารที่มีเมนูพาสต้าเป็นตัวชูโรง เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสเสน่ห์ของเมนูเส้นจากอิตาเลียนเมนูนี้ในแนวทางที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งร้าน LA DOTTA มีคอนเซ็ปต์ในการหยิบเอา ‘พาสต้า’ เมนูอิตาเลียนที่ทุกคนรู้จักกันดีมานำเสนอในแบบฉบับอิตาเลียนขนานแท้ ผสานไปกับเทคนิคร่วมสมัยของเชฟรุ่นใหม่ ให้ได้ลิ้มลองภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง
ManUp สัปดาห์นี้เป็นการอัพสกิลเมนูเบสิกที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง ‘ข้าวผัด’ แต่จะผัดข้าวยังไงให้ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจไม่จำเจ? บอกเลยว่าต้องลองเมนู ‘ข้าวผัดมันเนื้อ’ ข้าวผัดพริกเผาจีนหอม ๆ คลุกเคล้าเนื้อสันคอหั่นเต๋าย่างขนาดกำลังเคี้ยว ท็อปด้วยสเต็กสันคอชิ้นหนามันเนื้อฉ่ำแตกซ่านทุกคำที่กัดเข้าไป โปะหน้าอีกรอบด้วยไข่ดาวกรอบ ๆ ไข่แดงเยิ้ม ๆ เรียกได้ว่าทั้งหมดทั้งมวลในจานนี้มันคือสวรรค์ดี ๆ ที่รอเดินทางเข้าปากเท่านั้นเอง งานนี้ใครอยากทำข้าวผัดฟิน ๆ กรุ่นกลิ่นสเต็กชั้นดี รีบเตรียมวัตถุดิบ แล้วลงมือทำตามขั้นตอนได้เลย ส่วนผสม วัตถุดิบและเครื่องปรุงข้าวผัด ▪️เนื้อ Chuck (เนื้อส่วนสันคอ) หั่นเต๋า 50 กรัม ▪️ข้าวสวย 130g (แนะนำเป็นข้าวเก่าหุงแล้วแช่เย็นทิ้งไว้ 1 คืน) ▪️ซอสถั่วเหลือง 20 กรัม ▪️น้ำปลาเล็กน้อย ▪️ซอสหอยนางรม 30 กรัม ▪️น้ำพริกเผาจีน 45 กรัม ▪️กระเทียมฝานหรือสับ 15 กรัม ▪️พริก 15 กรัม ▪️ไข่ไก่ 1 ฟอง
เมื่อพูดถึงสเต็กเนื้อ เมนูนี้น่าจะติดอยู่ในลิสต์อาหารโปรดอันดับต้น ๆ ของใครหลายคน เรียกได้ว่าชื่นชอบจนถึงกับต้องมาลองทำกินเองที่บ้าน แน่นอนว่ามีทั้งประสบความสำเร็จอร่อยถูกใจ หรืออาจจะเฟลจนไม่กล้าเปิดเตาแสดงฝีมือกันอีกต่อไป สำหรับใครที่ยังไม่มั่นใจในฝีมือทำสเต็กของตัวเอง คอลัมน์ ManUP อยากชวนให้ลุกขึ้นมาอัพสกิลการลงครัวอีกครั้งกับ Filet mignon with Pomme Puree เมนูสเต็กเนื้อสันในฉ่ำ ๆ เคียงคู่กับมันบดเนื้อเนียนนุ่ม รสกลมกล่อม เอาไว้ทำกินที่บ้าน หรือโชว์ฝีมือเซอร์ไพรส์คนพิเศษก็เท่ไม่หยอก งานนี้ส่วนผสมและขั้นตอนวิธีทำจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย ส่วนผสม สเต็ก เนื้อ Tenderloin 300 กรัม น้ำมันมะกอก 30 กรัม เนย 40 กรัม กระเทียม 2 -3 กลีบ ใบ Thyme / Rosemary เกลือ พริกไทยดำ มันบด มันฝรั่ง 100 กรัม นมสด 30 กรัม เนย 50
หลังจากรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการให้สามารถออกไปนั่งทานอาหารที่ร้านได้อีกครา เชื่อว่าหลายคนที่คิดถึงบรรยากาศ การชิลล์เอ้าท์ กินดื่มพูดคุยกับครอบครัวเพื่อนฝูง คงจะออกไปตามเก็บร้านอาหารโปรดร้านต่าง ๆ ที่ห่างหายไม่ได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยือนเป็นเวลานานหลายเดือน และในวันนี้เราก็จะขอชวนทุกคนออกไปทานข้าวนอกบ้านให้หายคิดถึง ด้วยการมุ่งหน้าไปยังร้าน Charm Eatery and Bar สาขาซอยสาทร 12 ร้านอาหารไทยแท้สืบทอดตำรับมาจากรสมือคุณย่า ผสานอาหารฟิวชั่นที่เป็นส่วนผสมของอาหารไทยและอาหารตะวันตกได้อย่างลงตัว ซึ่งเราเชื่อว่าร้านนี้ต้องหนึ่งร้านโปรดในดวงใจของชาว UNLOCKMEN หลายคนเช่นกัน CHARM EATERY and BAR เริ่มต้นย่างเท้าเข้าร้าน ก็ได้พบกับบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเองที่คุ้นเคย กับความอบอุ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ผสานความเท่ด้วยผนังปูนเปลือย และแน่นอนว่าเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนที่โดดเด่นอยู่หน้าร้านทำให้อาการคอแห้งโหยหาเครื่องดื่มเย็น ๆ มันกำเริบ แต่วันนี้ยังมีอีกหลายที่ต้องไปต่อ เลยจัดเป็นน้ำแตงโมปั่นเย็น ๆ มาดื่มดับกระหายไปก่อน ระหว่างรออาหารที่สั่งไปประมาณ 3 เมนู เราไม่พลาดที่จะเดินขึ้นไปชั้น 2 ของร้าน เพื่อขอเก็บภาพกลุ่มโคมไฟที่ทิ้งตัวไล่ระดับดิ่งตรงลงมาบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในมุมสวย ๆ ที่มีมากมายภายในร้าน หลังจากแอบไปเก็บภาพร้านมานิดหน่อย ก็ได้เวลาที่ 3 เมนูของวันนี้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ เริ่มต้นมื้อด้วย ‘พาสต้าไส้กรอกอีสาน’ เมนูฟิวชั่นที่มาพร้อมความอร่อยดั้งเดิมของเส้นสปาเก็ตตี้ผัดกับกระเทียม, โหระพา
“ไวน์คือบทกวีที่ถูกบรรจุลงสู่ขวด” เป็นคำที่นักเขียนชาวสก็อตติชอย่าง Robert Louis Stevenson เคยกล่าวเอาไว้ ซึ่ง UNLOCKMEN ว่านี่ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินความจริงแต่อย่างใด เพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มอันเต็มไปด้วยความซับซ้อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดชวนให้ผู้ชายอย่างเราเข้าไปสัมผัส นอกจากนั้นวัฒนธรรมแห่งการดื่มไวน์ได้กลายเป็นศิลปะการลองลิ้มชิมรสสุดคลาสสิกที่ผู้ชายคูล ๆ ทุกคนไม่ควรพลาด การรู้เรื่องไวน์ประดับตัวไว้จึงเป็นทั้งการยกความเท่ของผู้ชายอย่างเราให้สูงขึ้นไปอีกระดับ แถมยังช่วยให้เราเข้าสังคมแห่งการดื่มไวน์ได้อย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้น ผู้ชายแมน ๆ คนไหนที่เคยคิดไว้ว่าการดื่มไวน์นั้นยากแสนยาก วันนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะการได้รู้จักเครื่องดื่มแห่งความลุ่มลึกมีระดับอย่างไวน์จะทำให้เราติดใจจนบอกได้เลยว่ามันคุ้มค่าที่จะลิ้มลองบทกวีบรรจุขวดให้ลึกซึ้ง ถ้าพร้อมจะดำดิ่งไปกับความคลาสสิกในโลกของไวน์แล้ว UNLOCK WINE 101 ที่เก็บเรื่องไวน์พื้นฐานให้ครบถ้วนทุกเม็ดก็พร้อมจะปลดล็อกศักยภาพการสัมผัสไวน์ให้คุณถึงที่แล้วเช่นกัน สำหรับมือใหม่ที่ยังกล้า ๆ กลัว ๆ การเริ่มต้นนับหนึ่งในโลกของไวน์จะเป็นไปอย่างราบรื่น มีระดับและไม่ซับซ้อน ถ้าเราเริ่มจากพื้นฐานของไวน์กันก่อน โดยคำถามสุดเบสิคที่เราควรรู้ก็คือ “ไวน์คืออะไร?” นอกจากความงดงามคล้ายบทกวีแล้ว ไวน์คือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการหมักของน้ำองุ่นที่ได้จากผลองุ่นสด ๆ นั่นเอง โดยแต่ละท้องที่ก็จะมีกระบวนการผลิตแตกต่างกันไปตามสไตล์ที่แต่ละท้องถิ่นกำหนดขึ้น ถ้าในหัวผู้ชายอย่างเรายังนึกออกแค่ไวน์แดงกับไวน์ขาวก็ไม่ต้องห่วงไป ครั้งนี้เราจะพามาทำความเข้าใจไวน์ 3 ประเภทที่แบ่งตามเทคนิคการผลิตให้เข้าใจแจ่มแจ้งกันไปเลย เริ่มต้นกันที่ Still Wine เป็นไวน์ที่ไม่มีฟอง หรือพูดง่าย ๆ คือไม่มีการอัดก๊าซ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 8-15% Still Wine แบ่งออกเป็นไวน์ได้อีก
Rare BKK เปิดประสบการณ์เชฟเทเบิลแห่งใหม่ล่าสุด บนถนนนครไชยศรี โดยได้แรงบันดาลใจจากอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิก ผสานวัตถุดิบชั้นเลิศจากญี่ปุ่น ภายใต้ฝีมือการสร้างสรรค์ของ เชฟแบม – ธนโชติ ดลชลัยย์กร ในบรรยากาศแบบอบอุ่นเป็นกันเอง ร้าน Rare BKK มุ่งเน้นไปที่การคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ชั้นเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ทรัฟเฟิล จากอิตาลี, กุ้ง Langoustine จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เนื้อวากิว A5 จากเมืองมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึง อูนิ (Uni) และ ล็อบสเตอร์ ผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารอย่างละเมียดละไมมารังสรรค์เมนูอันสดใหม่และรสชาติที่น่าจดจำ ภายในร้านตกแต่งในสไตล์เรียบง่ายสบายตา ด้วยจำนวนโต๊ะประมาณ 10 ที่นั่ง ในบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง มีห้องครัวแบบเปิดที่ทุกท่านสามารถรับชมการปรุงอาหารของทีมเชฟได้ จุดเด่นที่สำคัญของร้านคือเมนูที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ตามฤดูกาล ด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่สดใหม่ ผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารที่เชฟแบมและทีมได้จัดเตรียมไว้ให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศในบรรยากาศอันอบอุ่นและเป็นกันเอง หลังจากการเปิดร้านแบบซอฟท์โอเพนนิ่งเป็นเวลา 6 เดือน Rare BKK มีความพร้อมที่จะนำเสนอซิกเนเจอร์คอร์สเมนูใหม่ “French Fine” ประจำฤดูกาล โดยอาหารทั้ง 10 คอร์ส ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิก
ท่ามกลางความวุ่นวายของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน การให้รางวัลกับตัวเองด้วยออกไปพบกับโลกที่เราทุกคนสามารถเลือกดื่มด่ำไปกับรูปแบบชีวิตที่พิถีพิถัน ถือเป็นการพักผ่อนชาร์จพลังให้ชีวิตด้วยอีกขั้นของไลฟ์สไตล์ซึ่งเราขอนิยามด้วยคำว่า ‘Live High’ การมีความสุขกับสิ่งที่ใช่ซึ่งช่วยเติมเต็มวิถีชีวิตยุค New Normal ให้มีความสุข เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ในทุก ๆ วัน และในวันนี้ UNLOCKMEN ร่วมกับ YAMAHA Grand Filano Hybrid จะชวนผู้อ่านทุกท่านออกไปค้นพบพิกัดเติมความสุขกับสิ่งที่ใช่ในวิถี ‘Live High’ ใช้ชีวิตอย่างมีคลาสกับ 3 กิจกรรม จาก 3 สถานที่ไม่ใกล้ ไม่ไกล สามารถจัดโปรแกรม One Day Trip มีเวลาว่างแค่วันเดียวก็สามารถออกไป ‘Live High’ ได้ครบทุกโลเคชั่น เพราะแต่ละที่นั้นล้วนแล้วแต่หลบซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร รอให้ทุกคนได้ไปสัมผัสช่วงเวลาแห่งความสุขสุดพิถีพิถันด้วยตัวเอง สำหรับพิกัดใช้ชีวิตแบบ ‘Live High’ ที่แรก คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การเริ่มต้นวันใหม่ภายใต้บรรยากาศดี ๆ ที่ The Hub Cafe and Eatery คาเฟ่เรือนกระจกที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยพระรามเก้า 41 ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโมเดิร์นชั้นเดียว หลังคาทรงจั่วประกอบแผ่นไม้สีเข้มเข้ากับกระจกบานใหญ่
“เบอร์เกอร์บ้าอะไร ใช้เวลาทำตั้ง 20 นาที แถมรับลูกค้าแค่วันละ 4-5 คนต่อวัน” “มันติสท์อะไรของมันวะ กับอีแค่เบอร์เกอร์เนี่ย ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย” “ให้ตีราคาเองเหรอ จะจ่ายกี่บาทก็ได้ดิ งั้นขอกินฟรีได้ปะ !?” นอกจากอารมณ์อยากรู้อยากลองลิ้มรสแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเสียงร่ำลือว่ามันถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกมุมหนึ่งในโลกไซเบอร์นั้นเต็มไปด้วยคอมเม้นต์ และบทสนทนาทำนองเดียวกับคำพูดข้างต้นที่เราหยิบยกมา ซึ่งก็คือ Reaction เชิง Negative ของใครอีกหลายคนที่เพิ่งเคยรู้จักหรือเคยได้ยินคำบอกเล่าของคนอื่นต่อ ๆ กันมา เกี่ยวกับร้านเบอร์เกอร์ร้านหนึ่ง ที่เคยสร้างปรากฏการณ์คิวเต็มยาวตลอดปีมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่เราเชื่อว่าหากใครมีโอกาสได้สัมผัสการนำเอาอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างแฮมเบอร์เกอร์มายกระดับให้กลายเป็นงานคราฟต์สุดพิถีพิถันภายในร้าน HomeBurg โปรเจกต์ทดลองของหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อย่าง ‘ไทกิ – รัตนพงศ์ ทสึโบตะ’ คงจะได้คลายข้อสงสัยต่าง ๆ นา ๆ ที่เคยมีต่อเมนูเบอร์เกอร์โคตรอินดี้ที่ยากจะเข้าใจ ว่ามันแตกต่าง และสามารถสร้างความตราตึงให้กับผู้ที่ลิ้มลองได้อย่างไร เพราะถึงแม้ในปัจจุบันเขาจะหยุดโปรเจกต์ Homeburg ไป และกำลังมุ่งมั่นกับการนำเสนอเมนูเบอร์เกอร์สไตล์ไทกิให้เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมภายใต้แบรนด์ Bun Meet & Cheese แต่รสสัมผัสอันยอดเยี่ยม รวมถึงประสบการณ์การรับประทานที่แปลกใหม่ซึ่งมาจากฝีมือของไทกิโดยตรงเหมือนเมื่อครั้งที่ทำร้าน Homeburg ก็ยังคงเป็นที่เฝ้ารออยู่เสมอ และคอลัมน์ The Real
สุดสัปดาห์มาถึง พร้อมบรรยากาศวันลอยกระทงของปี 2020 ที่ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมพอดิบพอดี ถึงหลายปีที่ผ่านมาเราจะออกไปลอยหรือไม่ลอยกระทงบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้ดื่มด่ำบรรยากาศริมแม่น้ำนั้นช่วยเยียวยาหัวใจที่เหนื่อยล้าจากการงานมาทั้งสัปดาห์ได้อยู่หมัด โดยเฉพาะคืนลอยกระทงที่พระจันทร์สว่างนวล มีแสงเทียนจากกระทงวิบไหวให้เราได้ผ่อนคลาย อย่ามัวนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ลองดู 5 บาร์ที่เราอยากชวนไปรู้จัก รับรองว่าลมแม่น้ำ แสงจันทร์สะท้อนคลื่น และกลิ่นเฉพาะของเจ้าพระยาจะช่วยปลอบโยนหัวใจและร่างกายแสนเหนื่อยล้าได้แน่นอน Samsara Bar ถ้าจะมีสักพื้นที่ในเมืองหลวงอันวุ่นวายแห่งนี้ที่เป็นเหมือนสถานที่พักใจ สถานที่ที่เวลาเดินช้าลง และทำให้เราได้อยู่กับแต่ละวินาทีตรงหน้าอย่างเต็มอิ่มที่สุด เราขอยกให้ Samsara Bar เป็นหนึ่งในสถานที่นั่น การที่ที่ตั้งบาร์ซ่อนตัวอยู่ในซอกซอยที่ต้องเดินผ่านอู่ซ่อมรถเข้ามา ยิ่งทำให้เหมือนเราได้เดินทางเข้าไปสู่อีกโลก พร้อมกับที่บรรยากาศของ Samsara Bar อยู่ชิดแม่น้ำเจ้าพระยาในระดับที่ได้ยินเสียงคลื่นแม่น้ำซัดฝั่งทุกครั้งที่เรือแล่นผ่าน ชวนให้หัวใจสงบอย่างประหลาด ที่นี่บริการเครื่องดื่มหลายประเภท รวมถึงอาหารที่พอกินแบบหอมปากหอมคอ (ถ้าไม่อิ่ม เดินไปกินต่อที่เยาวราชได้อย่างอิ่มหนำ) ที่สำคัญในร้านมีแมวคอยเดินนวยนาดเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย ใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่เวลาเดินช้าลง ห้ามพลาด Location: 1612 ถนน ทรงวาด แขวง สัมพันธวงศ์ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร Open: 5.00 pm – 12.00 am
สำหรับคอกาแฟทั้งหลายคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากาแฟนั้นเปรียบได้ดั่งน้ำอมฤตที่ช่วยรีเฟรชความสดชื่นในชีวิตแต่ละวันได้เป็นอย่างดี ทำให้ร้านคาเฟ่และกาแฟดี ๆ สักแก้ว กลายเป็นสิ่งที่หลายคนขาดไม่ได้ และในชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้ร้านคาเฟ่สไตล์ Grab & Go จึงทยอยกันออกมาเปิดมากขึ้น แต่หนึ่งในนั้นกลับมีอยู่ร้านหนึ่งที่แตกต่าง คือร้านกาแฟร้านนี้ที่นำเสนอเมนูกาแฟในรูปแบบใหม่ ฉีกขนบกาแฟแบบเดิม ๆ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านตลาดน้อย ปากซอยเจริญกรุง 31 และร้านที่เรากำลังพูดถึงพร้อมพาชาว UNLOCKMEN ทุกท่านไปรู้จักก็คือร้าน ‘ENVIES CAFE’ ร้านนี้นี่เอง ที่มาที่ไปของ ENVIES CAFE @เจริญกรุง ในยุคออนไลน์ 4.0 แบบนี้ นอกจากจะมีกาแฟดี ๆ แล้ว ร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งเก๋ ๆ ก็มักจะมาคู่กับรูปภาพสวย ๆ เสมอ จึงกล่าวได้ว่า แฟชั่นกับร้านคาเฟ่ เป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้เลย นั่นเป็นไอเดียตั้งต้นของ คุณ ณัฐดนัย อัมพรเรืองรอง เจ้าของร้าน ENVIES CAFE ที่เชื่อว่าแฟชั่นกับร้านคาเฟ่จะเป็น Trendy ในอนาคตอย่างแน่นอน จึงเปิดเป็นร้านกาแฟร้านนี้ขึ้นมา ถือเป็น Second line ของเจ้าตัวเอง