ตาวิเศษเห็นคนขี้โม้นะ “7 ผู้นำระดับโลก” ที่พูดโกหกคำโต

วันนี้คือวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เป็นวันอังคารธรรมดา ๆ วันหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อนเชื่อว่านี่คือวันที่คนไทยหลายคนคงจำกันได้ดี เป็นวันที่มีรถถังและทหารขวักไขว่เต็มท้องถนน แน่นอนว่ามันคือวันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทำการรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน
แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”

ภายหลังการรัฐประหาร ทุกครั้งที่เปิดโทรทัศน์หรือรับสื่อใด ๆ ก็ตามเรามักจะได้ยินเพลง ๆ นี้ดังขึ้นมาเสมอ จนกระทั่งผ่านมาแล้ว 4 ปี ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” นี่คือขอเวลาเท่าไรกันแน่ หรือว่าเมื่อไหร่ที่ความชัดเจนในการปฏิรูปบ้านเมืองจะออกมาให้เห็น ซึ่งคงไม่มีใครจะรู้ดีเท่ากับเจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนลงมือทำงานอยู่ในขณะนี้ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นแบบ Happy Ending

งั้นเรามาย้อนดูกันดีกว่าว่าเคยมีผู้นำเผด็จการทหารคนไหนเคยผิดคำพูดอะไรไว้บ้าง ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นเพียงการรวบรวมทางสถิติที่มีจารึกไว้เท่านั้น ไม่มีใครเกี่ยวข้องกัน ไม่ได้หมายความว่าทุกคนถูกหรือผิดใด ๆ ครับ

Bashar al-Assad

Bashar al-Assad คือประธานาธิบดีแห่งซีเรีย ซึ่งได้รับตำแหน่งจากการสืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดาของเขา Hafez al-Assad ซึ่งปกครองซีเรียมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี เขาเกี่ยวข้องกับการปราบปรามและการล้อมปราบทางทหารต่อผู้ชุมนุมอาหรับสปริง จนนำสู่สงครามกลางเมืองซีเรีย สหรัฐ สหภาพยุโรปและส่วนใหญ่ของสันนิบาตอาหรับจึงเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี การสอบสวนโดยสหประชาติรายงานหลักฐานบ่งชี้ว่าอะซัดเกี่ยวพันกับอาชญากรรมสงคราม ในเดือนมิถุนายน 2557 อะซัดอยู่ในรายชื่อคำฟ้องคดีอาญาอุกฉกรรจ์อาชญากรรมสงครามของเจ้าหน้าที่รัฐและกบฏที่มอบให้กับศาลอาญาระหว่างประเทศ

เมื่อปี 2011  Bashar al-Assad เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ไม่มีรัฐบาลไหนฆ่าประชาชนของตัวเองหรอกนอกจากรัฐบาลที่นำโดยคนบ้า”

แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าปัจจุบันซีเรียกลายเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก Bashar al-Assad ใช้อาวุธเคมีสังหารผู้คนในประเทศไปกว่า 300,000 คนและทำให้ประชาชนอีกกว่า 9 ล้านคนต้องอพยพหนีออกจากปรเะเทศ

แค่คนแรกก็โกหกคำโตเสียแล้ว

Kim Jong-il

ถ้ารวมคำโกหกท่านผู้นำทั้ง 3 รุ่นแห่งเกาหลีเหนือมาตีพิมพ์ใส่หนังสือคงยาวพอ ๆ กับแฮรี่ พอตเตอร์ทั้ง 7 ภาค แต่ UNLOCKMEN ขอเลือกคำโกหกของ Kim Jong-il บิดาของ Kim Jong Un ผู้นำคนปัจจุบันของเกาหลีเหนือที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากัน

ครั้งหนึ่ง Kim Jong-il เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมตกเป็นเป้าหมายของการวิจารณ์จากทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่ผมทำทุกอย่างตามแนวทางที่ถูกต้อง”

แต่ในความเป็นจริงในยุคที่ Kim Jong-il มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ นานา ทั้งการประหารชีวิต ผู้คนนับแสนโดนกักขังและใช้แรงงานอย่างสาหัส

Ho Chi Minh

Ho Chi Minh คือวีรบุรุษแห่งประเทศเวียดนาม ถึงขนาดมีการนำชื่อของเขาไปตั้งเป็นชื่อเมือง เขาเป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อการประกาศอิสรภาพของเวียดนาม

ทุกอย่างดูเหมือนจะขาวสะอาด ดูเป็นบุคคลที่สมควรยกย่อง แต่น้อยคนจะรู้ว่าว่า  Ho Chi Minh ก็เคยโกหกคำโตกับเขาด้วยเหมือนกัน ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าคุณฆ่าคนของเรา 10 คน เราจะฆ่าคนของคุณ 1 คน แล้วในท้ายที่สุดคุณจะรู้ว่าการฆ่ากันนั้นมันน่าเหนื่อยหน่ายและไร้สาระสิ้นดี”

แต่ความจริงแล้วในการปฏิรูปการเกษตรในเวียดนามนั้นชาวบ้านเจ้าของที่ดินหลายคนถูกประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณีผิดกับคำที่วีรบุรุษแห่งเวียดนามคนนี้เคยพูดไว้อย่างสิ้นเชิง

Idi Amin

Forest Whitaker

เขาคือผู้นำเผด็จการทหารและประธานาธิบดีแห่งประเทศยูกันดา ว่ากันว่าเขาคือจอมวายร้ายเผด็จการที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ทวีปแอฟริกา และนั่นก็อาจเป็นคำพูดที่ไม่ผิดเท่าไรนัก เพราะ Amin ปกครองประเทศของเขาด้วยแนวคิดเผ่าพันธุ์นิยม มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไร้ซึ่งสิทธิมนุษยชน  ข้อมูลจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนคาดว่ามีผู้เสียชีวิตในขณะที่อามินดำรงตำแหน่งประมาณ 100,000 ถึง 500,000 คน เลยทีเดียว

Amin คือปีศาจในคราบมนุษย์อย่างไม่มีใครกังขา แต่ใครจะเชื่อว่าครั้งหนึ่งชายคนนี้เคยพูดว่า “ผมคือฮีโร่แห่งทวีปแอฟริกา”

ประวัติและความชั่วร้ายของ Amin เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ The Last King of Scotland โดยมี Forest Whitaker รับบทเป็น Idi Amin และก็ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ว่า Idi Amin นั้นเป็นคนยังไงก็หามาดูกันได้เลย

Adolf Hitler

ถ้าจะพูดว่า Adolf Hitler คือผู้นำเผด็จการที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาลก็คงไม่ผิดเท่าไรนัก เพราะเขาคือผู้นำกองทัพนาซีเยอรมันที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหนึ่งในผู้นำฝ่ายอักษะทำการสู้รบกับฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ ซึ่งถ้าประวัติศาสตร์กลับด้านและฝ่ายอักษะเป็นผู้ชนะในคราวนั้นก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าโลกทุกวันนี้จะเป็นอย่างไร

“คนที่อยากมีชีวิต จงให้พวกเขาสู้ และคนที่ไม่ต่อสู้ก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่” นี่คือสิ่งที่ Adolf Hitler  เคยพูดเอาไว้ แต่ในประโยคนี้คงไม่ได้หมายความรวมไปถึงชาวยิวนับล้านชีวิตที่เขาสังหารไป เพราะไม่ว่าชาวยิวเหล่านั้นจะต่อสู้และอยากมีชีวิตต่อมากเพียงไร พวกเขาก็ไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้อยู่ดี

Pol Pot

คนต่อมาไม่ใช่ใครที่ไหน อดีตผู้นำบ้านใกล้เรือนเคียงของเรานี่เอง Pol Pot คืออดีตผู้นำกองทัพเขมรแดง และหลังจากกองทัพของเขายึดครองกรุงพนมเปญได้ Pol Pot ก็ขึ้นเป็นผู้นำของประเทศกัมพูชา รัฐบาลของเขาได้เคลื่อนย้ายประชากรจำนวนมากไปยังชนบทให้ทำงานในนารวม และบังคับใช้แรงงาน ช่วงที่ Pol Pot ปกครองประเทศถือว่าเป็นยุคที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์กัมพูชา เกิดการสังหารหมู่ ใช้แรงงานอย่างหนัก รวมถึงการแพทย์ที่ย่ำแย่จนผู้คนล้มตายไปกว่า 1-3 ล้านคนหรือคิดเป็น 25% ของประเทศเลยทีเดียว

“ผมอยากให้คุณรู้ว่าทุกสิ่งที่ผมทำผมทำเพื่อประเทศชาติ” ครั้งหนึ่ง Pol Pot เคยพูดเอาไว้ ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล

กลับมาดูที่บ้านเรา สำหรับท่านผู้นำของเรานั้น อาจจะมีการพูดหรือการกระทำที่เรียกว่าเข้าข่ายการผิดคำพูดบ้างนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าเบาที่สุดในนี้ เนื่องจากท่านเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ไม่รู้เอาเรื่องอะไรมาพูด ไร้สาระสิ้นดีเลยเรื่องปฏิวัติรัฐประหาร” เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันนี้ผ่านไปได้ 4 ปีแล้ว Roadmap การเลือกตั้ง หรือทิศทางในการปฏิรูปบ้านเมืองให้ดีขึ้นหลาย ๆ อย่างอาจจะยังมองไม่ค่อยเห็นเป็นรูปร่าง แถมยังพ่วงปัญหาน่าแคลงใจเพิ่มขึ้นบนหลังไว้อีกไม่น้อย แต่อย่างที่เราบอก คงไม่มีใครรู้เรื่องราว เหตุผลที่แท้จริงมากกว่าคนที่อยู่ข้างใน

เพราะเราคงรู้ดีกันอยู่แล้วว่าในโลกนี้มีเรื่องความลับขั้นสุดยอด เรื่องราวที่อธิบายไม่ได้อยู่มาก เอาเป็นว่า เวลาได้ยินอะไรจากสื่อมา ก็ฟังหูไว้หูไว้หน่อยจะดีกว่า หรือจะไว้ทั้ง 2 หูเลยก็ไม่ว่ากัน

Source 1/Source 2/Source 3