Lexus Hoverboard ลอยได้ แต่ไม่ได้เอาไว้ใช้ในชีวิตจริง

ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายคนคงได้ตื่นเต้นกับ Skateboard ลอยได้ของ Lexus (Lexus Hoverboard) ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้จะเป็นจริงในอนาคต ว่านี่จะเปลี่ยนโฉมการเดินทางของมนุษย์อย่างใหญ่หลวง แต่จากข้อมูลที่เราไปค้นคว้ามาเพิ่มเติม อาจจะต้องบอกว่า ไม่ใช่ครับ มันยังไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงขนาดนั้น และมันยังไม่ได้จะมาเปลี่ยนแปลงโลกอนาคตให้เกิดขึ้นในเร็ววัน

เหตุผลที่เราหยิบเรื่องนี้มาพูด มีอยู่หลายสาเหตุ ข้อแรก Hoverboard อันนี้ไม่ใช่สิ่งที่ Lexus ตั้งทีมผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ด้านผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการจ้าง Advertising Agency ให้ทำ “Amazing in Motion” campaign ที่มี Hoverboard ลอยได้เป็น 1 ในนั้น เพื่อให้เป็น viral campaign และ Advertising Agency ก็ไปจ้างทีมวิจัยที่ Germany ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ ให้คิดค้นสิ่งที่สามารถตอบโจทย์การถ่ายทำได้ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก พอจะเห็นภาพความแตกต่างไหมครับ? แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสที่คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจเจ้า Hoverboard นี้อย่างล้นหลาม ก็อาจจะเป็นไปได้ ถ้า Lexus จะใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งคนข้างนอกที่อาจจะได้  Know-How ไปปรับใช้กับเทคโนโลยีต่างๆ

ถ้าผลิต Hoverboard ได้จริง จะเปลี่ยนแปลงโลกมนุษย์ได้หรือยัง? คำตอบคือยังครับ ถ้าดูจากคลิปวีดีโอที่เราเห็นนัก skateboard ใช้ Lexus Hoverboard ลอยไปลอยมาบนสนามซีเมนต์ที่มีเนินกระโดด (Ramp) เหมือนสนามสำหรับเล่น skateboard ทั่วไป แต่จริงๆแล้วสนามที่เห็นเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาสำหรับใช้ถ่ายทำเท่านั้น โดยการใช้ไม้ประกอบและทาสีให้ดูเหมือนซีเมนต์โดยมีแม่เหล็กเคลือบเอาไว้อีกชั้นนึง เพื่อให้ Hoverboard ที่ลอยได้ด้วยการใช้ Nitrogen เหลวทำความเย็น -180 องศากับ Superconductors หรือตัวนำยิ่งยวด ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยาด้านฟิสิกส์ ทำให้ผลักกับแม่เหล็ก และลอยค้างในอากาศได้ในเวลาจำกัด อย่างในกรณี hoverboard อันนี้จะลอยได้ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ถ้าเจออากาศเมืองไทยอาจจะหมดเร็วกว่านั้น ดังนั้นถ้าจะใช้งานจริงๆ ยังติดเรื่องการหาไนโตรเจนเหลวที่มีราคาสูงและปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เราคิดว่าความเป็นจริงยังค่อนข้างจะห่างไกล แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ ​Lexus ก็ได้ภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการขับเคลื่อนไปโดยไม่ต้องสงสัย แต่นั่นคือในมุมของการทำ Viral clip ไม่ใช่ในแง่ของเทคโนโลยีก้าวกระโดดหรือการก้าวไปสู่โลกอนาคตเหมือนอย่างในหนัง Back to The Future II ครับ