HOVERSURF HOVERBIKE S3 2019 บินสู่จุดหมายอย่างมีสไตล์ ไม่ต้องใช้ใบอนุญาต

เทคโนโลยี Drone สามารถ Spin ไปใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์ นอกจากเรื่องถ่ายภาพ การเข้าถึงทางการแพทย์ ในด้านการคมนาคมก็นำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้กันอย่างจริงจัง เราเห็นวิวัฒนาการของ Flying Taxi จากหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เอาจริงด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น EVTOL ของ Rolls-Royce รวมถึง Airbus x Audi Flying Taxi ไปจนถึง Uber แต่ทั้งหมดนี้ถูกนับเป็นยานพาหนะรูปแบบใหม่ ต้องใช้ใบอนุญาตที่จริงจังและยุ่งยาก ซึ่งใครเบื่อที่จะรอ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ HOVERSURF HOVERBIKE S3 2019 ยานพาหนะ Lightweight คล้าย Drone ที่ใช้เดินทางได้ ไม่ต้องพึ่งใบอนุญาตจาก FAA

ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับ HOVERSURF HOVERBIKE ยานพาหนะหน้าตาคล้ายกับในภาพยนตร์ Sci-Fi เป็น Drone แบบ Single-Seater ผลิตจากตัวถัง Carbon Fiber หลายประเภท นำมารวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นชิ้นเดียว ทำให้มีความแข็งแกร่ง หนาแน่น ทนทาน ขนาดตัวถังออกแบบมาให้ยกเข้าออกขนาดประตูบ้านมาตรฐานได้สบาย ๆ

ด้วยน้ำหนักตัวเบาเพียง 114 kg. จึงสามารถใส่แบตเตอรี่แบบ LiNiMnCoO2 – Lithium manganese nickel ความจุ 12.3 kWn เพิ่มเข้าไปได้มากขึ้น ซึ่งเป็นแบตเตอรี่สเปคสูงสุด มีความเสถียรในการจ่ายไฟแม่นยำเพื่อป้องกันอาการไฟตกระหว่างบิน ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมง สามารถบินได้นาน 40 นาทีในการบังคับแบบ Drone Mode และบินได้ 10-25 นาทีสำหรับการขึ้นไปขี่จริง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและน้ำหนักคนนั่งด้วย

การบินควบคุมได้ง่ายด้วย Joystick Flight System หุ้มหนังแท้ 2 ข้าง มี Information Display พร้อมปุ่มฟังก์ชันควบคุมการบินครบถ้วนทั้ง Auto-take-off (AT), Auto-Landing (AL), Alt Hold, Manual, RC control มีระบบตรวจสอบสภาพอากาศรอบข้างด้วย all-weather LiDAR ระยะบินปลอดภัยที่แนะนำคือ 5 เมตรจากพื้นดิน แต่ถ้าใจถึงก็เพิ่มระยะได้ตามที่ต้องการ สามารถบินได้เร็วสูงสุด 96 km/h  ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้เงื่อนไขของ FAA (Federal Aviation Administration) ที่ไม่ต้องใช้ใบอนุญาตในการขับขี่ให้ยุ่งยาก

ถึงแม้จะไม่อันตราย แต่ HOVERBIKE ก็ขนระบบความปลอดภัยมาเพียบพร้อมด้วยทั้งแบบ Electronic (emergency landing, sound and visual warning system, anti-interference screening), Mechanical (kill switch) และ Passive (embedded deformation zones, power fences, and protective elements for the pilot from carbon with reinforcement).

ถือว่าเป็น Gadget ที่ล้ำหน้ามากจริง ๆ แน่นอนว่าการจะเป็นเจ้าของ HOVERSURF HOVERBIKE S3 2019 ย่อมไม่ง่าย เพราะผลิตแบบ Limited Edition พร้อมป้ายราคามหาโหดถึง $150,000 (5 ล้านบาท) และต้องวางมัดจำล่วงหน้า $10,000 (330,000 บาท) แล้วก็รออีกประมาณ 2 – 6 เดือน ถึงจะได้เป็นเจ้าของ ใครเงินถึงเตรียมสั่งซื้อ ก็อย่าลืมฝึกฝนการใช้งานให้คล่องแคล่วก่อนบินด้วยนะครับ ถ้าสนใจก็พุ่งเข้าไปโอนเงินได้เลยที่ Hoversurf.com