World
G.O.A.T SHOES AUCTIONS : ส่องราคาประมูลรองเท้าที่ถูกใส่แข่งจริงโดย MICHAEL JORDAN
By: SPLESS October 22, 2018 124497
ถ้าพูดถึงชื่อของ Michael Jordan ผู้ชายหลายคนรู้จักเขาในฐานะนักบาสเกตบอลในตำนาน อีกส่วนน่าจะรู้จักมาจากแบรนด์รองเท้าอย่าง AIR JORDAN ซึ่งความยิ่งใหญ่ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยฝีมือและฝีเท้าในสนามที่หาตัวเปรียบได้ยาก ถึงแม้ทุกวันนี้เขาจะวางมือไปนานแล้วก็ตามแต่เรื่องราวของเขาก็ยังถูกพูดถึงเสมอ ไม่ใช่แค่นั้นเพราะอะไรก็ตามที่ตัว MJ ได้สัมผัสก็จะคงมูลค่ามีราคาเสมอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน นั่นก็คือรองเท้าที่ MJ เคยใส่ลงแข่งขันและถูกนำมาจัดประมูลให้ Sneakerhead ตัวจริงสะสมกัน มาดูกันว่าแต่ละคู่หน้าตาเป็นยังไงและราคาของมันไปไกลแค่ไหนกันแล้ว
รองเท้าจากแมตช์ที่ทำให้ Michael Jordan ดูเหมือนยอดมนุษย์ ย้อนกลับไปในการแข่งขัน NBA รอบ FINAL ปี 1997 เกม 5 ระหว่าง Chicago Bulls และ Utah Jazz ทั้งสองเสมอกันอยู่ 2 ต่อ 2 เกม ถ้าใครขึ้นนำเกมต่อไปก่อนจะมีโอกาสได้แชมป์สูงมาก ปรากฏว่าก่อนเริ่มเกมในวันนั้น Michael Jordan ดันไม่สบายขึ้นมากะทันหัน แต่ก็ยังฝืนลงทำการแข่งขันในสภาพอิดโรยตลอด 4 ควอเตอร์ ทำไป 38 แต้มพาบลูส์พลิกชนะด้วยสกอร์ 90-88 หลังเกมเค้ายื่นรองเท้า AIR JORDAN 12 พร้อมลายเซ็นให้กับเด็กที่ดูแลความเรียบร้อยของสนาม (Ball Boys) ชื่อ Preston Truman และบอกให้ชื่นใจว่า “They’re yours” ต่อมามันถูกนำออกประมูลโดยเริ่มต้นในราคา $5,000 USD สุดท้ายมันถูกขายออกไปด้วยราคาถึง 104,765 USD หรือประมาณ 3.4 ล้านบาทเลยทีเดียว
ปี 1984 ฤดูกาลแรกใน NBA ของ Michael Jordan ตอนนั้นเขาเซ็นสัญญากับ NIKE เป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 2.5 ล้านเหรียญ แต่ทว่าเมื่อเปิดฤดูกาลรองเท้า AIR JORDAN ตัวแรกยังผลิตไม่เสร็จเรียบร้อยดี เขาเลยเลือกรองเท้า NIKE air ships สีขาว-แดงมาใส่แข่งแก้ขัด ก่อนที่ต่อมารองเท้าคู่นี้จะถูกมอบให้กับ Ball Boy ของสโมสร LA Lakers โดยคู่นี้มีรายละเอียดตรงที่ไซส์ถูกตัดเฉพาะสำหรับ Michael Jordan เท่านั้น รองเท้าข้างซ้ายจะเป็นไซส์ 13 ส่วนด้านขวาจะเป็นไซส์ 13 ครึ่ง มันถูกประมูลไปด้วยราคา 71,553 USD หรือประมาณ 2,300,000 บาท ในฐานะตำนานแรกเริ่มก่อนที่ NIKE AIR JORDAN 1 จะถือกำเนิดขึ้นบนโลก
Olympic Games ปี 1984 สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ และเป็นครั้งแรกที่ Michael Jordan ได้เล่นให้บ้านเกิดของตัวเองต่อหน้าแฟน ๆ แต่ตอนนั้นตัวเขายังไม่ได้เล่นใน NBA และมีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น รองเท้าคู่ที่เขาใส่ลงแข่งคือ CONVERSE FastBreaks สีขาว-ดำ เป็นแมตช์ระหว่าง USA-SPAIN และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาใส่รองเท้าจากแบรนด์ Converse เพราะเวลาต่อมาเขาได้เซ็นสัญญากับ NIKE จนเกิดเป็น Air Jordan จนถึงปัจจุบัน
Converse FastBreaks คู่นี้ถูกมอบให้กับ Ball Boys ที่เป็นลูกชายของผู้เล่นคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาในปี 2017 มันถูกประมูลไปในราคา 190,373 USD หรือประมาณ 6.2 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นรองเท้าของ Michael Jordan แพงที่สุดในโลกเรียบร้อย
รองเท้าของ Michael Jordan ในช่วงปี 1992 ซึ่งเป็น PRIME TIME ของอาชีพเลยก็ว่าได้เขาสวม AIR JORDAN 7 “Cardinal” ลงแข่งกับ Utah Jazz และเอาชนะไป 96-92 เรื่องมาเกิดขึ้นเอาตอนก่อนแข่งขณะที่ Alex Rodriguez อดีต Ball boys กำลังนั่งทำความสะอาดของอยู่ในห้องล็อกเกอร์ตามหน้าที่ แต่หูของเขาดันไปได้ยิน Michael Jordan พูดว่าต้องการตั๋วเข้าชมการแข่งขันของแมตท์ดังกล่าว ซึ่งขายเกลี้ยงไปแล้วให้กับเพื่อนของเขาทั้ง 2 คน Alex เลยเสนอบัตรสองใบของตัวเขาเองให้โดยไม่ต้องการเงินตอบแทน ซึ่งพอจบเกม MJ ก็เลือกจะมอบรองเท้าคู่นี้เพื่อแทนน้ำใจแถมแจกลายเซ็นใส่ไปทั้งสองข้างให้ด้วย ต่อมามันถูกนำออกประมูลในเว็บไซต์ SCPauctions เริ่มที่ราคา 3,000 USD สุดท้ายก็จบด้วยตัวเลข 29,299 USD หรือ 950,000 บาท
รองเท้าคู่ล่าสุดที่ถูกเปิดเผยว่าเป็นของ Michael Jordan ถูกนำออกประมูลแบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มันเริ่มมาจากวันที่ 30 มกราคมปี 1988 เกมระหว่าง Chicago Bulls พบกับ New York Knicks จู่ ๆ ระหว่างแข่งขันมีคนเห็นว่า Jordan เปลี่ยนรองเท้าประจำตัวอย่าง AIR Jordan 2 Low ออก และใส่ NIKE Air alpha force คู่นี้ทำการแข่งขันแทน
ต่อมาเกิดข่าวลือหนาหูว่าตัว MJ มีปัญหาไม่พอใจทีมออกแบบของ NIKE จึงใส่รองเท้าคู่อื่นลงแข่ง โดย NIKE AIR ALPHA FORCE คู่นี้กำลังอยู่ในช่วง Bid ถ้าสนใจไปดูได้ในเว็บไซต์ steinersports โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,000 USD ซึ่งตอนนี้เหลือเวลาประมาณ 20 วันก่อนปิดประมูล ใครสนใจจะลองไปเสี่ยงดวงดูก็ได้ หรือท่านไหนจะรอดูราคาจบว่าอยู่ที่เท่าไหร่ยังไงเราจะรายงานให้รู้แน่นอน
ทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะยังคงมีรองเท้า Game Worn ของ JORDAN อีกหลายคู่ที่ไม่ถูกเปิดเผยสู่ตลาด อีกเหตุผลหนึ่งคือไอเทมในตำนานเหล่านี้ใช่ว่าจะได้กันมาง่าย ๆ สำหรับบางคน คุณค่าของเรื่องราวที่มากับรองเท้าเอามาหักลบเป็นมูลค่าและเหมาะจะเก็บสะสมเอาไว้มากกว่า แถมยังการันตีได้ว่าระยะเวลาจะช่วยดันให้ราคาเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ อีกต่างหาก งานนี้มีแต่ได้กับได้