WATCHLIST: ‘5 หนัง FEEL GOOD ปลุกใจในวันท้อแท้’ไม่ต้องเผชิญเรื่องแย่ ๆ เพียงลำพัง

เป็นปกติที่ชีวิตมีทั้งวันที่ไฟลุกโชน พาให้เราลุกขึ้นไปทำอะไรหลายอย่าง แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และวันที่ไฟนั้นมันมอดลง เราเหนื่อย เราท้อ เรามองไปข้างหน้าเหมือนกับมันไม่มีความหวัง สถานการณ์รอบข้างทำให้เราอยากยอมแพ้ต่อชีวิต

หากกำลังมีวันแบบนั้น UNLOCKMEN อยากชวนมาเติมไฟให้ลุกโชนอีกครั้งกับ 5 หนัง Feel Good ที่จะช่วยให้ก้าวผ่านวันแย่ ๆ ไปกับหนังที่เราคัดมาให้

ลิสต์นี้ไม่ได้เป็นการจัดอันดับหนังดีใจดวงใจ ไม่ต้องน้อยใจว่าทำไมถึงไม่มีเรื่องโปรดของคุณ เพราะนี่คือการแลกเปลี่ยนหนังกันดู เหมือนเพื่อนคุยกันเท่านั้นเอง อย่าได้โวยวายกันไปว่าหนังแนวนี้ต้องอันนี้เท่านั้น ย้ำอีกที ว่านี่ไม่ใช่การจัดอันดับ

Almost Famous (2000)

Director : Cameron Crowe

หนัง Coming of age ที่ไม่ได้ราบรื่นสวยงามเท่าไหร่นัก เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่หลงเข้ามาในวังวนของเพลงร็อกแอนด์โรล จนคันไม้คันมืออยากจะเขียนข่าวดนตรี จับพลัดจับผลูได้เขียนให้กับนิตยสาร Rolling Stone g เรื่องการตามติดชีวิตนักดนตรีกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการติดต่องานนี้ทั้งหมดนั้นผ่านทางโทรศัพท์ สกู๊ปข่าวนี้จึงอยู่ในมือของเด็กหนุ่ม 15  ปีเท่านั้น

จากเพลงร็อกแอนด์โรลที่เขาหลงใหล พอได้มาใช้ชีวิตกับพวกเขาในการทำสกู๊ปจริง ๆ ทำให้เราได้เห็นนักดนตรีในดวงใจของพวกเขาในหลายด้าน ด้านการเป็นนักดนตรีบนเวที ด้านมืดหลังเวทีที่น้อยคนจะได้เห็น ทั้งหมดนี้ทำให้เขากลายเป็นเด็กหนุ่มที่ต้องมาเห็นอะไรเกินวัยของเขาไปมาก มาดูกันว่าเขาจะสามารถ Handle เรื่องราวนี้ให้จบลงได้ยังไง

The Help (2011)

Director : Tate Taylor

หนัง Feel Good ในตำนานกับเรื่องราวชีวิตของสาวใช้ผิวสีในอเมริกา ยุคที่ชนชั้นยังเกาะแก่นอยู่ในโครงสร้างทางสังคม Aibileen Clark (Viola Davis) สาวใช้ผิวสีที่มีเจ้านายเป็นคนผิวขาวมานานหลายปี และสาวผิวดำคนอื่น ก็มักจะถูกจ้างในหน้าที่ของแม่บ้านเช่นกัน จึงเกิดเป็นสมาคมแม่บ้านผิวสีแบบย่อม ๆ ขึ้นมา

Minny Jackson (Octavia Spencer) สาวใช้ตัวแสบ เป็นคนมีปากเสียงมากกว่า Aibileen สังเกตได้จากการนินทาเจ้านายอย่างออกรส เรื่องราวปวดร้าว เจ็บใจ ปนไปกับวีรกรรมแสบ ๆ ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราว ด้วยความช่วยเหลือของ Skeeter Phelan (Emma Stone) สาวโสดที่ไม่ปล่อยให้สังคมครอบงำความคิดของเธอ ออกมาเป็นหนังสือที่จะรวบรวมเรื่องของชีวิตสาวใช้ผิวสีเอาไว้แบบ Impact ต่อความรู้สึกไม่น้อยเลย

Whiplash (2014)

Director : Damien Chazelle

แม้หนังจะเนื้อหาหนักหน่วง แต่บทสรุปของมันจะช่วยปลุกไฟให้เราได้แบบเต็มเหนี่ยว Fletcher (J.K. Simmons) อาจารย์มหากาฬแห่งวงแจ๊ส ได้สะดุดตาเข้ากับอะไรบางอย่างที่ส่องประกายวิบวับอยู่ข้างในตัวของ Andrew (Miles Teller) เด็กหนุ่มวัยเพียง 19 ปี ที่แบกเอาความฝันของเขาอย่างการเป็นมือกลองระดับโลกมาที่วงแจ๊สนี้

แต่ถ้า Fletcher เป็นครูผู้โอบอ้อมอารีคงไม่สนุก เขามีวิธีเจียระไนเด็กที่เขาเห็นแววได้อย่างดุดัน ชนิดที่เลือดตกยางออกก็มีมาแล้ว แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดความฝันของ Andrew ได้ มาดูกันว่าความฝันและความสามารถของ Andrew จะเอาชนะใจ Fletcher สุดเหี้ยมได้หรือไม่

The Intern (2015)

Director : Nancy Meyers

เมื่ออายุอยู่ในวัยเกษียณแล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะหมดไฟจนทำงานต่อไม่ได้ เรื่องราวของ Jules (Anne Hathaway) สาวเจ้าของแบรนด์แฟชั่นออนไลน์ที่รับ Ben (Robert De Niro) ที่สมัครงานในโครงการ Intern ของเธอ

เมื่อ Ben เข้ามาแล้ว ก็ไม่เหนือความคาดหมายของคนอื่นสักเท่าไหร่ เขาเป็นคน Low-Tech รักการทำงานด้วยระบบ Manual  แต่ข้อดีของเขาคือยืดหยุ่นและไม่ปิดกั้นสิ่งใหม่ ๆ ทำให้เขาเข้ากับหนุ่มสาวในออฟฟิศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเจ้านายสาวอย่าง Jules ที่ค้นพบว่าชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมาตลอดของเธอ ยังคงต้องพึ่งอะไรที่มาจากความใส่ใจของมนุษย์ด้วยกันอยู่

Seabiscuit (2003)

Director : Gary Ross

เรื่องราวของชายสามคนที่ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างหวังนัก ทุกคนต่างมีเรื่องผิดหวังของตัวเองแบกมาอยู่เต็มบ่า จนโชคชะตาพาให้พวกเขามาอยู่ด้วยกันในภารกิจปั้นม้ารองอย่างเจ้า Seabiscuit ให้กลายเป็นม้ามืดที่วิ่งเข้าเส้นชัยอย่างสง่างาม ไม่ใช่แค่เจ้า Seabiscuit ที่เป็นม้ารองมาตลอดชีวิตเท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสามเองก็ด้วยที่เป็นเหมือนม้ารองที่โหยหาชัยชนะให้ตัวเองสักครั้งในชีวิต และการแข่งขันครั้งนี้จะทำให้พวกเขาทั้งสามรวมทั้ง Seabiscuit ได้กลายเป็นผู้ชนะบ้างสักครั้ง ซึ่งระหว่างทางนั้นก็ไม่ได้ง่ายและราบรื่นสักเท่าไหร่นัก มาดูกันว่ากว่าจะกลายเป็นผู้ชนะ ม้ารองอย่างพวกเขาต้องเจออะไรมาบ้าง

ลองเลือกสักเรื่องที่ถูกใจ ดูจบแล้วหวังว่าไฟจะลุกโชนในตัวทุกคนอีกครั้ง ด้วยความรู้สึก Feel Good ที่พลุ่งพล่านออกมา