Life

Koinophobia: เมื่อชีวิตที่แสนธรรมดาทำให้เรารู้สึกแย่ กลัว และโดดเดี่ยว

By: unlockmen September 17, 2021

เวลาเปิดไอจี หรือ ดูเฟสบุ๊ค เรามักจะได้เห็นเรื่องราวดี ๆ ของเพื่อน และเปรียบเทียบตัวเองกับพวกเขาอยู่เสมอ บางทีเราอาจรู้สึกอิจฉาเพื่อนที่ได้ไปเที่ยว หรือ ประสบความสำเร็จในชีวิต ในขณะที่เรากำลังนั่งทำงานอย่างหลังขดหลังแข็งตั้งแต่เช้ายันเย็นทุกวัน บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าเพื่อนของเราห่างไกลออกไป หรือ เริ่มอยู่คนละโลกกับเรามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเราเริ่มเกิดความโดดเดี่ยว และทุกข์ใจตามมา

เมื่อชีวิตที่แสนธรรมดากำลังทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกทิ้ง รู้สึกกำลังไล่ตามหลังคนอื่นอยู่ หรือ รู้สึกไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น เราก็เริ่มก็เริ่มกลัวการใช้ชีวิตของตัวเอง และพยายามทำในสิ่งที่เราเชื่อว่าจะทำให้ตัวเองเป็นคนพิเศษมากขึ้น เช่น ทำตามความคาดหวังของคนอื่น จู้จี้จุกจิก หรือ เป็น perfectionist ทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิต หรือ พยายามเอาชนะคนอื่นในทุก ฯลฯ แต่พอทำไปได้สักพัก เรากลับยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม เพราะเราฝืนตัวเองไปไกลจนกู่ไม่กลับ

เราเรียกอาการกลัวชีวิตที่แสนธรรมดานี้ว่า ‘Koinophobia’ ซึ่งบางสิ่งที่เราทำเพื่อเอาชนะความกลัวก็สามารถกลับมาทำลายชีวิตของเราได้เหมือนกัน อย่างการเป็น perfectionist ก็อาจทำให้เราทำงานช้าลงจนส่งงานไม่ทันเดดไลน์ หรือ ทำให้โลกหมุนรอบตัวเรามากขึ้น จนเราหัวแข็งและฟังคนอื่นน้อยลง สุดท้ายก็ไม่มีใครอยากคบกับเราในที่สุด

หากคุณกำลังกลัวชีวิตที่แสนธรรมดาของตัวเอง และความกลัวนั้นทำให้คุณรู้สึกแย่ รู้สึกเครียด หรือ ได้รับความทรมานจากมัน ข่าวดี คือ มันมีสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อก้าวข้ามความกลัวของตัวเอง และกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ซึ่งเราจะแนะนำต่อไป

 

ตอบให้ชัดว่า “ทำไมถึงอยากเป็นคนพิเศษ?”

คำว่า “คนพิเศษ” ของแต่ละคนมักมีความหมายไม่เหมือนกัน คนหนึ่งอาจมองว่าคนพิเศษ คือ “คนที่ทำทุกเรื่องได้ดีและสามารถพึ่งพาได้ในทุกเรื่อง” ในขณะที่อีกคนหนึ่งอาจมองว่าคนพิเศษ คือ “คนที่ได้รับการยอมรับและความสนใจจากคนอื่นอยู่เสมอ” ก็ได้ ความหมายของคนพิเศษจึงไม่ใช่เรื่องที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่ประสบการณ์และทัศนคติของแต่ละคน เรามักนิยามคำว่าคนพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง และต้องการเป็นคนพิเศษด้วยเหตุผลบางอย่าง ถ้าหากเราค้นพบสาเหตุเหล่านั้น เราจะเอาชนะความกลัวของตัวเองได้

สำหรับเรื่องนี้การตั้งคำถามช่วยเราได้

  • ทำไมถึงอยากเป็นคนพิเศษ ?
  • ถูกสั่งสอนหรือปลูกฝังเรื่อง ‘ความธรรมดา’ มาอย่างไรบ้าง ?
  • ความหมายของ ‘ธรรมดา’ คือ ?

คำถามเหล่านี้มักทำให้เราค้นพบต้นตอของความกลัว เช่น ทำตามความคาดหวังที่สูงเกินไปจนเป็นนิสัย หรือ คิดไปเองว่าเพื่อนจะคบเราก็ต่อเมื่อเรามีฐานะมากกว่าหรือเท่ากับพวกเขา เป็นต้น สุดท้ายเมื่อเราค้นพบสาเหตุหรือความเชื่อผิด ๆ ของตัวเองแล้ว ให้ทำการตรวจสอบความเป็นจริงของพวกมัน เช่น ดูว่าความเชื่อหรือความคาดหวังเหล่านั้นมีหลักฐานมาสนับสนุน หรือ มีความเป็นจริงมากเพียงใด หากพบว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่เราคิดไปเอง และไม่ตรงกับโลกความจริง เราก็จะเลิกคิดถึงมันไปได้เอง


เลิกทำตามคนอื่นทุกเรื่อง

โลกโซเชียลมีเดียทำให้เราสนใจและทำตามคนอื่นบ่อยขึ้น เช่น เวลาเห็นแฟชั่นไหนกำลังเป็นเทรนด์ เรามักหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ตามเทรนด์กัน หรือ เวลาเห็นคนไปเที่ยวที่ไหนกันเยอะ เราอาจจะอยากไปตามรอยที่เที่ยวชื่อดังเหมือนคนอื่นบ้าง แม้การทำตามกระแสจะทำให้เรากลายเป็นคนพิเศษ และได้รับความสนใจจากคนอื่นมากขึ้น แต่มันก็ทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเองได้เหมือนกัน เพราะเราไม่ได้ชอบทุกอย่างที่เป็นเทรนด์อยู่บนโลกออนไลน์ บางเทรนอาจทำให้เราฝืนธรรมชาติและความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน สุดท้ายการวิ่งตามกระแสก็ทำให้เราเป็นทุกข์กับชีวิตได้ในที่สุด

ถ้าคุณกำลังทรมานกับการวิ่งไล่ตามคนอื่น และเริ่มสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นทุกวัน ให้จำไว้ว่า ”สิ่งที่น่าสนใจจะน่าสนใจน้อยลงเมื่อคนทำสิ่งนั้นกันเยอะ” เมื่อเราทำตามความชอบของตัวเองมากขึ้น เราจะกลายเป็นคนพิเศษมากขึ้นแน่นอน แม้สุดท้ายเราจะได้รับการยอมรับน้อยลง หรือ สูญเสียเพื่อนไปบ้าง แต่เราจะพบว่าการเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด พิเศษที่สุด และมีความสุขที่สุด


เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

นอกจากจะทำให้เราเห็นคนอื่นบ่อยขึ้นแล้ว โซเชียลยังทำให้เราชอบเปรียบเทียบกับคนอื่นอีกด้วย เรามักคิดว่าชีวิตของคนอื่นดีกว่าตัวเอง เพราะเราเห็นโซเชียลของพวกเขามีแต่เรื่องดี ๆ แต่ในความเป็นจริง ชีวิตของพวกเขาอาจไม่แตกต่างอะไรจากเรา แต่พวกเขาเลือกแค่สิ่งดี ๆ มาลงโซเชียลเท่านั้นเอง การมองว่าพวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเสมอไป ชีวิตที่ดีเริ่มต้นได้จากการไม่มองสิ่งที่อยู่บนโซเชียลว่าเป็นจริงทั้งหมด เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และรู้จักคัดเลือกคนที่เราควรให้ความสนใจ ถ้าเรารู้สึกว่าการเห็นฟีดของเพื่อนหรือเพจไหนทำให้เรารู้สึกแย่หรือเกิดความกลัว เราก็ควรเลิกติดตาม หรือ ปิดการมองเห็นฟีดของพวกเขาไป


คัดเลือกความต้องการของตัวเอง

ความต้องการของมนุษย์ดูจะมีไม่สิ้นสุด พอเราบรรลุเป้าหมายหนึ่งแล้ว เราก็เกิดเป้าหมายใหม่แทบจะทันที บางคนพอได้โทรศัพท์เครื่องใหม่มาแล้ว ก็อยากเก็บเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ดีกว่าอีก หรือ นักธุรกิจบางคนที่ตั้งกำไรเป้าหมายสูงขึ้นทุกปี แม้ความต้องการใหม่ ๆ จะทำให้เราไม่หยุดนิ่ง และพยายามทำสิ่งใหม่อยู่เรื่อย ๆ แต่ ถ้าเราเอาแต่วิ่งไล่ตามความต้องการเหล่านั้นโดยไม่รู้จักหยุดพัก หรือ ให้เวลาตัวเองได้เอนจอยกับความสำเร็จที่ได้รับมา มันก็ทำให้เรารู้สึกเหนื่อย และหมดแรงในการใช้ชีวิตได้เหมือนกัน

เราไม่จำเป็นต้องคว้าทุกความต้องการของเราเสมอไป เพราะบางอย่างอาจเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบ หรือ สิ่งที่เราคิดไปเองว่าจะทำให้เราพิเศษกว่าคนอื่นก็ได้ เราควรรู้จักยับยั้งชั่งใจ และให้เวลาตัวเองพิจารณาว่าความต้องการเหล่านั้นจำเป็นต่อชีวิตของเราจริงหรือไม่


รู้จักขอบคุณเรื่องรอบตัว

การรู้จักขอบคุณสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะการขอบคุณตัวเอง จะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น เพราะมันจะทำให้เราโฟกัสแต่สิ่งดี ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว และสนใจสิ่งที่เราคิดว่าขาดน้อยลง เราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น และเป็นทุกข์จากความต้องการของตัวเองน้อยลง นอกจากนี้มันอาจทำให้เรามองเห็นคุณค่าและความพิเศษในตัวเองมากขึ้นด้วย สุดท้ายเราก็จะเลิกพยายามทำตัวเองให้พิเศษ และมีความกลัวน้อยลงในที่สุด ลองคิดถึงทุกเรื่องที่เราอยากขอบคุณ เช่น พ่อแม่ คนรอบตัว ตัวเราเอง หรือแม้แต่สิ่งของที่เรามีความผูกพันทางใจ แล้วเราจะมองโลกเปลี่ยนไปแน่นอน

มนุษย์ทุกคนมีความกลัว แต่ละคนมีความกลัวมากน้อยแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าคุณจะได้รับผลกระทบจาก Koinophobia มากแค่ไหน ก็ไม่ควรเก็บซ่อนความกลัวของตัวเองไว้ในใจเป็นเวลานาน เพราะมันจะทำให้เกิดอาการเก็บกด และนำปัญหาด้านจิตใจตามมาอีกมากมาย หากทำตามวิธีที่เราแนะนำแล้วไม่ได้ผล เราขอแนะนำให้ลองปรึกษาคนที่ไว้ใจ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์ หรือ นักบำบัด จะดีกว่า


Appendix: 1 / 23

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line