

World
8 เรื่องน่าหงุดหงิดที่เราต้องเจอบนโลกออนไลน์
By: unlockmen December 28, 2015 22049
ในโลกปัจจุบันของพวกเรา เราได้ใช้เวลากว่า 50 เปอร์เซ็นไปกับการท่องโลกออนไลน์ เพื่ออัพเดทข่าวสาร ติดต่อสนทนา หรือแม้แต่ช๊อปปิ้ง สิ่งนี้เรียกได้ว่ามันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำไปโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง แต่ข้อดีของโลกออนไลน์ก็คือมันมีความเร็ว ใหม่ ทำให้เราทันทุกเหตุการณ์ความเป็นไปบนโลก
แต่ก็มีอีกที่ว่าของบางอย่างที่มาให้เราเสพในโลกออนไลน์เป็นเหมือนสิ่งกวนใจทำให้เราเสียเวลาเล่น ซึ่งมันเป็นเรื่องน่าเบื่อที่เราต้องเคยเจอะเจออย่างแน่นอนแม้ว่า เราจะพยายามหลีกเลี่ยงมันแค่ไหน วันนี้เราเลยขอนำสิ่งที่สิ่งที่น่าหงุดหงิดบนโลกออนไลน์ ที่บางทีมันเยอะเกินไปจนเราโคตรจะเบื่อมันเลย
Travel Trip Fever
ขอบคุณภาพเปรียบเทียบจาก TeeShutterB
ในที่นี้เราไม่ได้กล่าวโทษเว็บใดๆหรือกระแสรีวิวการท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ อยากจะขอบใจพวกเขาด้วยซ้ำ ที่ทำให้รู้ว่าเมืองไทยมีที่สวยๆ อีกเยอะ แต่ในขณะเดียวกันมันก็หลีกเลี่ยงผลเสียเป็นลูกโซ่ที่มักจะตามมาเมื่อมีคนรู้จักที่ท่องเที่ยวใดที่หนึ่งเยอะๆ การทำลายวงจรธรรมชาติความสวยงาม เพราะไม่ว่าจะเป็น ภูทับเบิก เชียงคาน หรือเกาะและทะเลอีกหลายที่ ก็ต้องสูญเสียเอกลักษณ์ และธรรมชาติไปเพราะนักท่องเที่ยวเข้าไปเยอะเกินไป จนเกิดเป็นแหล่งขุมทรัพย์ให้พวกนายทุนเข้าไปสร้างที่ทางต่างๆ จนทำให้สถานที่นั้นพังลงไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวทุกคน แต่เป็นนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่มักง่ายทิ้งขยะ ขีดเขียนสัญลักษณ์ในที่ต้องห้าม เดินเหยียบปะการัง และอื่นๆอีกมากมายที่ไปทำลายวงจรธรรมชาติถาวรโดยไม่รู้ตัว แต่ปัจจัยหลักน่าจะเกิดจากนายทุนที่เห็นอะไรติดลมก็จะเฮกันไป ลักลอบ ใช้กำลัง ใช้อำนาจในการบุกรุกหากำไรโดยไม่สนใจสิ่งอื่น ที่แย่คือการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบางคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ อำนวยความสะดวกให้นายทุนเหล่านี้
ทางออกนั้นไม่ยากเลย เช่นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ให้เยอะเกินไปจนเกินพื้นที่จะรับได้ ซึ่งพื้นที่ในที่นี้ถ้าจะมีการขยาย เจ้าหน้าที่ควรจะออกมาควบคุมเป็นจุดๆไป และควรบาลานซ์ระหว่างธรรมชาติที่เป็นอยู่กับเพิ่มขึ้นของที่พักและร้านค้าให้ดี มันน่าเสียดายเหลือเกินที่เราเห็นการตักตวงโดยมองแค่ระยะสั้นของหลายๆคน จนสุดท้ายที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นก็เสื่อมความนิยมไปในที่สุด
กระทู้ขยะ
พวกนี้มันใช้คำโปรย หรือรูปภาพ ที่เกินจริงๆ ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคงจะเป็นเรื่องของดาราหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ที่มีกระทู้ออกมาอัพเดทข่าวลวงต่างๆ นานา ว่าเขาเสียชีวิตบ้าง หายแล้วบาง ไม่เว้นวัน เราก็ไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่มองในมุมของคนที่รัก และเป็นห่วงคุณ ปอ ทฤษฎี จริง เขาต้องมารู้สึกอย่างไรที่ต้องมาเจอกระทู้ขยะที่สร้างข่าวลวงเพื่อให้เรียกยอดคลิกแบบนี้ และล่าสุดมันก็กลับมาอีกแล้วกับข่ายปลอมเรื่องเจมส์ จิ ว่าประสบอุบัติเหตุ คนแบบนี้เราแน่ใจมากว่ามันไม่มีทางเจริญได้ไม่ว่าชาตินี้ชาติหน้าแน่นอนครับ
Pop-up Banner
เราเข้าใจว่าเว็บไซต์อยู่ได้ด้วยโฆษณา Banner แต่พอมันเด้งขึ้นมารอบแรกเราก็รับรู้ถึงโฆษณาแล้วที่คุณจะขายของแล้ว ไม่ต้องวิ่งตามเวลาที่เราเลื่อนเม้าขึ้นหรือลงหลอก มันเวียนหัว แต่ที่หนักกว่าคือจะสร้างไอ้ตัว x มาทำไมหลายๆตัวให้เรา งง เล่น พอกดผิดคราวนี้เด้งไปหน้าไหนก็ไม่รู้กว่าจะกลับมาหน้าเดิมก็เสียอารมณ์แล้ว
สรุปง่ายๆว่า การโฆษณาไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่การยัดเยียดให้ดู การหลอกล่อให้กด บังคับให้ดู ต้องดูให้จบก่อนนะ มันคนละเรื่องกัน ยิ่งทำคนจะยิ่งเกลียดแบรนด์นั้นๆไปเลยซะด้วยซ้ำ
ชวนทำงานผ่านเน็ต
“ไม่ทราบว่าคุณมีเวลาสัก 2-3 ชม ต่อวันไหม เราจะชวนมาทำงานที่ไม่ต้องเหนื่อยแต่รับผลตอบแทนสูง” เนี่ยคือคำโฆษณาที่ทุกคนล้วนจะต้องเจอใน Facebook โดยเริ่มแรกพวกนี้มักจะใช้โปรไฟล์รูปที่ Add Friend เรามาเป็นคนหน้าตาดีๆ ดูเป็นคนดี เราก็นึกว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับเรา แต่สุดท้ายก็ลากเราเข้ากรุ๊ปขายของอะไรก็ไม่รู้ แถมแชร์ในสิ่งที่เราไม่ต้องการบนหน้า wall ของเราอีก เนี่ยมันถือวิสาสะชัดๆ
เชิญชวนเล่นเกมส์ออนไลน์
ในปีนี้ไม่ว่าจะเป็น Cookie run เกมเศรษฐี เราล้วนเคยเจอมาทั้งหมดแล้วบางคนเป็นคนที่เราอยากคุย ไอ้เราก็นึกว่าเขาทักมา แอบดีใจสุดท้ายส่งมาชวนเล่นเกมส์สะงั้น แต่ถ้าส่งมาตอนกลางวันเรายังพอให้อภัย แต่กับบางคนส่งมารัวๆ ทั้งคืน อยากจะถามคุณๆ ว่าไม่เกรงใจคนจะหลับจะนอนหรือไงครับ
แอดมาขายของ
วันนี้สงสัยจะเป็นวันนี้มีสาวๆสวยๆ แอดมาด้วยความเป็นชายชาตรี และเป็นมิตรจะไม่กดรับได้อย่างไร แต่มันเริ่มตะหงิดตรงที่ทำไมรูปของเธอดูมี น้อย และวันเดือนปีเกิดก็ดูไม่ค่อยสัมพันธ์ สรุปกดรับแอดปุ๊ป มาอย่างมาขายของให้เราไม่ว่าจะเป็นยาเพิ่มสมมรรถชายบ้าง ครีมบ้าง ยาลดความอ้วนบ้าง สรุปแล้วเรามีปัญหาแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม เขาถึงแอดมาขาย Fail ไปเลยทีเดียว
คนไทยอ่านภาษาวันละ 8 บรรทัด
มันคือเรื่องจริงๆ ที่เราเจอบ่อยๆ บนหน้า Page ขายของ โดยส่วนใหญ่คนเรามักลงของที่จะขายพร้อมราคา และลายละเอียด แต่บางคนมีวิธีการ เรียงประโยคต่างกันออกไป แต่เขาก็ให้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว มักจะมีคนเขามาถามราคาเท่าไหร่ หรือข้อลายละเอียดหน่อย อยากจะบอกว่าคุณพี่ไม่อ่านดูดีๆ ละครับเขาเขียนไว้หมดแล้ว
Spam ข้อความลูกโซ่
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่คิดค้นเพราะมันมีตั้งแต่สมัยเป็นจดหมาย จนมาเป็นเมล์ และอีกเรื่อยๆ ต่อมา โดยในข้อความมักเขียนว่าถ้าคุณไม่ส่งต่อจะต้องโดนสาป หรือมีอันเป็นไป แต่ลองคิดดูถ้าคุณไม่โพสในที่สาธารณะ หรือ Wall คนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ อันนี้คุณจะโดนด่าทอ สาปส่ง มากกว่าที่โดนจาก Spam ข้อความลูกโซ่แน่นอน
สิ่งที่เรากล่าวมาทั้งหมดล้วนแต่เป็นที่สิ่งที่น่าปวดหัว และน่าหงุดหงิดที่เราคิดว่าคงต้องเจอมันอยู่ทุกวัน และในอนาคตอีกต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน เพราะพฤติกรรมการท่องโลกออนไลน์ นั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างทีวีไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับคนยุคปัจจุบัน ยังไงซะเราก็ควรทำใจ เพราะยังไงก็หนีมันไม่พ้น ไม่ใช่แค่บ้านเรา แต่มันเป็นแบบนี้ทั่วโลกจริงๆครับ