

DESIGN
OMEGA SEAMASTER RAILMASTER 2025 – THE RETURN OF THE RAILMASTER
By: Chaipohn May 26, 2025 235149
ถ้าพูดถึงชื่อ OMEGA คนส่วนใหญ่อาจนึกถึง Moonwatch ที่พาเราเหยียบดวงจันทร์ หรือ Seamaster ที่อยู่บนข้อมือสายลับ 007 แต่ในเงาของตำนานเหล่านั้น ยังมีอีกหนึ่งเรือนเวลาที่หลายคนอาจไม่คุ้นหูมากเท่าไหร่ แต่กลับฝังแน่นอยู่ในใจของนักสะสมตัวจริง – The OMEGA Railmaster จุดกำเนิดจากปี 1957 พร้อม ๆ กับรุ่นพี่ร่วมสายเลือดในตระกูล ‘Professional Trilogy’ เกิดมาเพื่ออยู่บนข้อมือของวิศวกร ช่างไฟฟ้า และนักฟิสิกส์ที่ต้องทำงานท่ามกลางสนามแม่เหล็กแรงสูง เช่น ในโรงงานผลิตไฟฟ้า หรือสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งสนามแม่เหล็กพวกนี้สามารถรบกวนกลไกนาฬิกาได้อย่างรุนแรง
ในยุคนั้นนาฬิกาแบบ anti-magnetic ถือเป็นของล้ำสมัย Railmaster รุ่นแรก (Ref. CK2914) สามารถทนสนามแม่เหล็กได้สูงถึง 1,000 Gauss ซึ่งนับว่าเยอะมากในยุคนั้น และถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Rolex Milgauss ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน
ปี 2025 คือการกลับมาของ Seamaster Railmaster พร้อมดีไซน์ใหม่สองเวอร์ชันที่แม้จะไม่ใช่ตัวยอดนิยมแบบ Speedmaster หรือ Seamaster แต่ก็ถือเป็น fan service ของแท้สำหรับคนที่อยู่ลึกในฐานะนักสะสมรุ่นลึกของ OMEGA
ตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตร หนา 12.4 มิลลิเมตร และระยะ lug-to-lug 44.9 มม. คือสัดส่วนที่บาลานซ์พอดีระหว่าง vintage และ modern fitting เหมาะทั้งข้อมือจริงจังและสาย daily wear
รุ่นแรกมากับหน้าปัดสีเทาไล่เฉดแบบ gradient พร้อม Super-LumiNova สีขาว และเข็มวินาทีกลาง (center seconds) ที่ให้ vibe แบบ stealth tool watch สำหรับคนที่อยู่เบื้องหลังแต่ always in control. ส่วนรุ่นที่สองคือหน้าปัดน้ำตาล beige/brown dial พร้อมเข็ม sub-dial ที่ 6 นาฬิกา และ vintage lume สุดคลาสสิก
ทั้งสองรุ่นใช้กลไก calibre 8806 (center seconds) และ 8804 (small seconds) เครื่อง in-house Co-Axial Master Chronometer ระดับ METAS-certified สำรองพลังงาน 55 ชั่วโมง พร้อมการต้านสนามแม่เหล็กสูงถึง 15,000 gauss ซึ่งมากกว่ารุ่นดั้งเดิมปี 1957 ถึง 15 เท่า
OMEGA Railmaster ตัวเรือนเลือกใช้ผิวด้านข้างแบบขัดลายเส้น (brushed flanks) แทนการขัดเงาทั้งเรือนแบบ Aqua Terra ช่อง date window ถูกตัดออกไปเพื่อรักษา balance และฟังก์ชันตามคอนเซปต์เดิมเอาไว้ สายเลือกได้ทั้ง strap หนังและสาย steel แบบใหม่
แม้ว่า railway narrative จะไม่ได้มีพลังโรแมนติกเท่าการขึ้นดวงจันทร์ แต่นี่คือนาฬิกาที่พูดภาษาเดียวกับคนที่เข้าใจว่าอะไรคือคุณค่าของความแม่นยำ ความเรียบง่าย และความ “understated” แบบ OMEGA