

FASHION
adidas EQT เปิดตำนานรองเท้ารุ่นเก๋าที่ adidas เตรียมรับบทนักปั้นมือทองอีกครั้ง
By: unlockmen February 2, 2017 52111
แม้ปีที่ผ่านๆ มา adidas Originals จะได้ปั้นรองเท้ารุ่น NMD โด่งดังฮิตถล่มทลายไปทั่วโลก แบบที่ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่ ขึ้นแท่นรองเท้ารุ่นดาวค้างฟ้าเป็นที่เรียบร้อยอีกหนึ่งรุ่น แต่เนื่องจากความเกร่อของรุ่นรองเท้าที่อาจจะมีออกมามากจนเกินไป ทำให้เหล่า sneakerhead บางคนเริ่มเบื่อหน่ายกับรองเท้าที่ mass จนอยากจะหารองเท้ารุ่นใหม่ๆ มาสวมใส่เพื่อให้ตัวเองรู้สึกแตกต่างออกไปอีกครั้ง
ทำให้ adidas ต้องเริ่มปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ ในปีนี้ เพื่อที่จะยังคงครองความได้เปรียบของตัวเอง ที่กำลังถือไพ่เหนือกว่าในตลาดรองเท้าแฟชั่น เกิดเป็นไอเดียเปิดกรุของเก่า คว้ารองเท้ารุ่นเก๋าตระกูลดังมาปัดฝุ่นทำใหม่ให้ทันสมัย ด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่นเป็น EQT pack ที่ต้องบอกว่าได้รับความสนใจอย่างคาดไม่ถึงในช่วงปีที่ผ่านมา ดังนั้น adidas จึงหมายหมั้นที่จะปลุกเสกรองเท้าซีรีย์นี้ให้ฮิตบ้านเมืองแตกอีกครั้ง (เหมือนกับที่ซีรีย์นี้เคยทำได้ในปี 1990s) ด้วยศักยภาพของตัวรองเท้า บวกกับความเป็นโมเดลจากยุค 90s ที่สอดคล้องกับกระแสโหยหายวินเทจสปอร์ตแวร์ วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอนำประวัติของรองเท้า adidas EQT ตั้งแต่เกิด จนถึงยุคปัจจุบัน มาแนะนำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น
ย้อนกลับไปช่วงปี 90s adidas มีช่วงเวลาที่ค่อนข้างล้มเหลวพอสมควรในตลาดรองเท้า เพราะนอกจาก superstar และ stan smith พวกเขาก็แทบจะไม่มีรองเท้ารุ่นไหนที่เป็นเกียรติให้เชิดชูแก่วงศ์ตระกูล ไม่ว่าจะออกรองเท้ารุ่นไหนมาก็ไม่สามารถโดนใจทั้งเรื่องดีไซน์และยอดขาย พ่ายแพ้ให้กับ Nike อย่างราบคราบ จนบริษัทของเขาแทบจะล้มละลาย แต่ต้องขอขอบคุณความพยายามที่ไปตามจีบนักออกแบบมือทองอย่าง Peter Moore ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Air Jordan 1 มาร่วมทีม และหลังจากเริ่มงาน Peter Moore ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องการแสวงหาทิศทางใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในภาวะที่ตลาดรองเท้ากำลังอิ่มตัว และเต็มไปด้วยคู่แข่ง เขาจึงได้จัดการสร้างไลน์ใหม่ให้แก่บริษัทอันได้แก่ Equipment ในปี 1991
หลังจากมีไลน์ใหม่ที่ชื่อ Equipment ออกมา ในปี 1991 Peter Moore ก็ได้ออกแบบรองเท้ารุ่น EQT ให้ประจักษ์สายตาสาธารณชน นับแต่นั้นเป็นต้นมา รองเท้ารุ่นนี้ก็ได้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ของ adidas ด้วยการนำเสนอรองเท้าเพื่อการกีฬา ที่มีดีไซน์ใหม่ โลโก้ใหม่ พร้อมเทคโนโลการใช้งานที่ดีที่สุด torsion ที่สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อตอบสนองคอนเซ็ปต์ The Best of adidas และตามชื่อไลน์ Equipment ที่เปรียบเสมือนอุปกรณ์สำหรับการเล่นกีฬา ซึ่งว่ากันมันเป็นรองเท้ารุ่นที่ดีที่สุดเท่าที่ adidas เคยผลิตมา (ถ้าให้นึกภาพตาม อารมณ์คงประมาณตอนที่ adidas คิดค้นนวัตกรรม boost ได้แบบในปัจจุบัน) พวกเขาจึงกล้าทิ้งโลโก้ trefoil (ดอกบัว) สุดคลาสสิคของแบรนด์มาใช้โลโก้ใหม่ที่มีความโมเดิร์นขึ้นกว่าเดิม
adidas equipment running support 91
adidas equipment running cushion 91
adidas guidence 93
พวกเขายังได้โยงเรื่องราวของรองเท้ารุ่นนี้ด้วยว่าเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมร่วมสมัย และแสดงถึงเสรีภาพ (เพราะเป็นช่วงเวลาเดียกับที่มีการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน) ซึ่งมีการใช้สีเขียว ขาว และดำ เป็นสีหลักของซีรีย์รองเท้าตลอดช่วงเวลาที่ผลิตออกมา ก่อนรองเท้ารุ่นนี้จะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์รองเท้าไปกว่า 30 ปี จนมาถึงปี 2016 เมื่อ Nic Galway ผู้ชุบชีวิตแบรนด์ adidas ได้นำรองเท้ารุ่นนี้กลับมาลองเชิงอีกครั้งเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีเยี่ยม พวกเขาเล็งเห็นว่าน่าจะทำให้รองเท้า EQT กลายเป็นรองเท้า hype ไม้เด็ดอีกหนึ่งคู่ ทำให้พวกเขาฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีใหม่ซึ่งเป็นคู่สีที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสุดโต่งอย่าง turbo red อีกทั้งการยัดนวัตกรรมทั้งหมดที่พวกเขามีลงไป ไม่ว่าจะเป็นพื้น boost ที่นิ่ม ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์การออกกำลังกายของคนยุคใหม่มากขึ้น
adidas eqt ที่ Nic Galway ได้ทำออกมาลองขายในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา
adidas Originals EQT Support adv
adidas Originals EQT Support adv ที่จะคงความคลาสสิคด้วยดีไซน์ รูปลักษณ์ไว้ดังเดิม แต่ใส่ความเป็นโมเดิรน์ลงไปด้วยวัสดุ Knit ผสมกับ Mesh
adidas EQT support 93/17
รุ่นที่สองจะเป็น adidas EQT support 93/17 ที่เปรียบดังการผสมผสานของกาลเวลาในช่วงปี 1993 และปี 2017 ที่สำคัญคู่นี้มีการใช้ Boost เป็นพื้นรองเท้า
adidas EQT racing 91/16
คู่สุดท้าย adidas EQT racing 91/16 ที่ถูกดีไซน์ออกมาให้มีความเบากว่า ลักษณะคล้ายตัวรองท๊อปแบบ Pure boost ที่สำคัญทั้งสามรุ่นได้มีการเปลี่ยนโลโก้จาก Equipment เนื่องจาก adidas ไม่มีไลน์นี้แล้ว ให้กลับมาเป็นโลโก้ trefoil และยัดเข้าไปอยู่ภายใต้หลังคาบ้าน adidas Originals
นับว่าเป็นอีกหนึ่งรองเท้าตำนานที่ adidas ได้นำกลับมาปลุกปั้นเพื่อหวังว่าจะกลายเป็นรองเท้ารุ่นฮิตเหมือนเช่นยุค 90s ได้อีกครั้ง แต่ก็รอดูกันต่อไปว่าจะสามารถยืนระยะได้หรือเปล่า เพราะสถานการณ์ในวงการ sneakers ตอนนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากยุค 90s ที่มีทางเลือกมากมายในตลาด มิหนำซ้ำพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเนื่องจากมีทางเลือกมากกว่าเดิมเยอะ ทำให้ต้องรอดูว่า EQT จะสามารถสร้างปรากฎการณ์ได้เหมือนกับที่ NMD ทำได้ในช่วงขวบปีที่ผ่านมาหรือไม่ หากถ้าเป็นไปตามที่พวกเขาหวัง adidas EQT คงได้กลายเป็นรองเท้า Hype-level อีกหนึ่งคู่ในปีถัดๆ ไปอย่างแน่นอน