Life

ตรวจยีนพิเศษในตัวคุณ:’ไม่ชอบกินผัก’ไม่ใช่ข้อเสีย แต่อาจเป็น’Super-taster’ก็ได้

By: PSYCAT March 27, 2017

เบียร์แก้วเดียวกันเคยสงสัยไหมว่าทำไมเรากินแล้วรู้สึกว่ามันขมเหลือเกิน ในขณะที่เพื่อนที่นั่งข้าง ๆ อาจกระดกเอา ๆ ได้หน้าตาเฉย หรือผักสดจานนั้นที่เราพยายามฝืนกินอย่างไรก็ไม่เคยกินได้หมด แต่บางคนกลับกินได้ครั้งละหลาย ๆ จาน

นอกจากสภาพแวดล้อมการเติบโตแล้ว ‘ความไม่ชอบกินผัก’อาจไม่ใช่แค่เรื่องรสนิยมความชอบอย่างที่เราเคยคิดอีกต่อไป อย่ามัวแต่โทษตัวเองอย่างเดียว เพราะนี่อาจหมายถึงการที่เรามียีนที่แตกต่างจากคนอื่นทำให้เป็นคนที่มีต่อมรับรู้รสชาติแบบ’Super-taster’ต่างหากล่ะ

17-03-26-supertaster-003

‘Super-taster’เมื่อคุณรับรู้รสชาติได้ดีกว่าคนอื่น

“พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” สไปเดอร์แมนเคยพูดไว้อย่างนั้น ใครจะรู้ว่าบางทีการเกิดมาพร้อมกับยีนที่ไม่เหมือนใครบางชนิดก็อาจทำให้เรารับรู้ชาติอาหารได้มากกว่าคนทั่วไป และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรากินผักได้น้อยกว่าคนทั่วไปด้วย

‘Super-taster’คือกลุ่มคนที่รับรู้รสชาติอาหารได้ดีกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะรสขม นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่เวลาเรากินผักแล้ว เรารู้สึกว่ามันขมมาก ในขณะที่บางคนอาจจะรู้สึกขมปกติ หรือบางคนแทบจะไม่รู้สึกขมเลย

ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงา เพราะบนโลกใบนี้มีคนที่ไวต่อการรับรู้รสชาติอาหารอยู่ราว ๆ 20% ในขณะที่คนอีก 30% เป็น ‘non-taster’ที่แทบจะไม่สามารถรับรสชาติขมได้เลย และอีก 50% ที่เป็น’medium-taster’ซึ่งสามารถรับรสชาติขมได้ในระดับกลาง ๆ

หากคุณคือ 1 ใน 20% ของคนบนโลกที่เป็น’Super-taster’ ก็อย่าน้อยใจไปที่กินผักได้น้อยกว่าคนอื่น (และมีแนวโน้มว่าจะไม่ชอบดื่มกาแฟขม ๆ ด้วย) เพราะอย่างน้อยคนที่เป็น ‘Super-taster’ ก็มีแนวโน้มที่จะมีรูปร่างที่ดีกว่า เพราะเราไม่ชอบรสชาติของอาหารที่ก่อให้เกิดไขมันหลาย ๆ ชนิด และมีโอกาสรับรู้ถึงสารพิษหลายประเภทที่มีรสขมได้ดีกว่าคนทั่วไป ใครที่ยังไม่ชัวร์ว่าเราไม่ชอบกินผักเฉย ๆ หรือเป็น ‘Super-taster’กับเขาด้วยลองเข้าไปทำการทดสอบที่นี่

17-03-26-supertaster-004

วิธีกินผักแบบชาว’Super-taster’

ถึงเราจะกินผักแล้วขมกว่าคนอื่นก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีวิธีทำให้เรากินผักได้มากขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมการกินจากคนรอบข้างมีส่วนช่วยทำให้เรากินผักได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอ นี่คือวิธีกินผักแบบชาว’Super-taster’

1.เริ่มจากผักชิ้นเล็ก ๆ กับอาหารที่ชอบคำโต ๆ

แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะเริ่มทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน การทำในสิ่งเล็ก ๆ อย่างการกินผักคำเล็ก ๆ คู่กับอาหารที่เราชอบที่สุดในมื้อนั้น ๆ คำโต ๆ จะช่วยให้เราโฟกัสไปที่รสชาติอาหารที่เราชอบจนลืมไปเลยว่าในหนึ่งคำนั้นมีผักซ่อนอยู่ด้วย ถึงจะปริมาณไม่มาก แต่ถ้าสม่ำเสมอ ก็ดีกว่าไม่กินผักเลย

2.ปรุงรสชาติกลบความขม

ของใกล้ตัวอย่างพริกไทยที่มี piperine เป็นส่วนประกอบ จะช่วยเป็นเครื่องล่อรสขมไปจากผักที่เราเกลียด เนื่องจากพริกไทยจะไปกระตุ้นการรับรู้รสชาติความเผ็ดร้อนมาแทนที่ แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นพริกไทยอีก เครื่องเทศอื่น ๆ ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนก็ช่วยได้เช่นกัน

3.ผักไม่ได้มีแต่รสขม ลองหาผักที่มีรสชาติอื่นทดแทน

ถ้ารู้ตัวว่ายังไงก็ฝืนกินผักได้ไม่มาก ถึงจะรู้ว่ามันมีประโยชน์มากแค่ไหนก็ตาม ก็เพิ่มปริมาณผักที่รสชาติไม่ขมแทน ไม่ว่าจะเป็นถั่วชนิดต่าง ๆ แครอท ข้าวโพด บีทรูท ฟักทอง ผักกาดหอม หรือมะเขือเทศ ผักเหล่านี้ก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน

4.ใช้เวลาทำอาหารให้สั้นที่สุด

นอกจาก ‘Super-taster’ จะรับรู้รสขมได้มากแล้ว การช่วยลดกลิ่นที่มาจากการปรุงอาหารก็จะช่วยให้เรารู้สึกแย่กับผักจานตรงหน้าน้อยลงด้วย ดังนั้นจะทำอาหารจานผักครั้งหน้าลองเลือกวิธีจัดการมันในเวลาที่สั้นที่สุด เช่น การใส่ไมโครเวฟ หรือถ้าจะต้ม ก็ต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วค่อยใส่ผักลงไป เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซที่จะทำให้ผักมีกลิ่นไม่พึงประสงค์มากขึ้น

17-03-26-supertaster-002

การไม่ชอบกินผัก ก็ไม่ต่างจากนิสัยที่เราคิดว่าเป็นจุดด้อยของตัวเราเรื่องอื่น ๆ ถ้ามัวแต่คิดว่ามันไม่ดี แต่เราเป็นของเราแบบนี้ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร เราอาจไม่มีวันเอาชนะมันได้เลย ที่สำคัญถ้าลองทบทวน หาข้อมูลเพิ่มเติม เราก็อาจยิ่งรู้ว่าบางทีข้อด้อยที่เราคิดอาจไม่ใช่แค่ข้อด้อยเสมอไป จากคนไม่ชอบกินผักแต่อย่างน้อยต่อมรับรู้รสชาติเราก็ไวกว่าคนอื่น ยิ่งเราหาเรื่องราวดี ๆ ในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดีในตัวเองเจอ เราก็จะยิ่งหาทางอยู่ร่วมกับมันอย่างแข็งแกร่งได้ไวมากขึ้นเท่านั้น

SOURCE1,SOURCE2,SOURCE3

 

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line