ในโลกที่ SUV ไม่ได้มีไว้แค่รับ-ส่งลูก แต่กลายเป็นสนามประลองของผู้มีอันจะซิ่ง Aston Martin จึงขอแนะนำ DBX S ยกระดับความแรงมากกว่าเดิม ขยับเพดานขึ้นอีก 20 แรงม้า ด้วยชุดเทอร์โบใหม่ที่ยืม DNA มาจาก Valhalla ซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ไฟต์เตอร์ของ Aston เอง หลังจากที่ Aston ตัด DBX รุ่นพื้นฐาน 542 แรงม้าออกจากไลน์เพราะไม่มีใครอยากได้ มันเหลือแค่ DBX707 ตัวแรงที่เคยครองบัลลังก์ SUV สายโหดของค่าย แต่ตอนนี้ คำว่า “แรงพอแล้ว” ดูจะกลายเป็นสิ่งล้าสมัย เพราะ DBX S ขยับเพดานขึ้นอีก 20 แรงม้า ด้วยชุดเทอร์โบใหม่ที่ยืม DNA มาจาก Valhalla — ซูเปอร์คาร์สายพันธุ์ไฟต์เตอร์ของ Aston เอง ผลลัพธ์คือ 717 แรงม้า กับแรงบิด 900
ครั้งนี้ Panerai ไม่ได้แค่นำชื่อ Marina Militare มาปั๊มบนหน้าปัด แต่พาเราเหินฟ้าขึ้นไปกับ Aviazione Navale, หน่วยการบินของกองทัพเรืออิตาลี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ Panerai ขยับจากนาฬิกาดำน้ำสู่ aviation division ตัวเรือนของ PAM01699 ขนาด 47mm ผลิตจากไทเทเนียมเกรด 5 ขัดด้าน เบเซลหมุนทางเดียวเป็นไทเทเนียมฝังเซรามิกดำด้านเพิ่มความทนทานขั้นสูงสุด เม็ดมะยมแบบ screw-down พร้อมระบบ Crown Guard ที่หนาแน่น สะท้อนความแข็งแกร่งที่ใช้งานจริง หน้าปัดสีเขียว grainy finish ของ PAM01699 ได้แรงบันดาลใจจากเรือนไมล์ของเครื่องบินรบ เข็มหลักทรงโอเวอร์ไซซ์พ่นด้วย Grey Super-LumiNova เพื่อเรืองแสงอย่างชัดเจนในที่มืด ส่วนชุดมาร์กเกอร์ชั่วโมงถูกออกแบบให้เป็นทรงกลมทั้งหมด ยกเว้นตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่เน้นด้วยมาร์กเกอร์ทรงแท่ง (baton) ทำหน้าที่เป็นจุดนำสายตา และช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถระบุทิศทางของหน้าปัดได้ทันทีในทุกมุมมอง แม้ในสภาพแสงต่ำหรือขณะปฏิบัติภารกิจเร่งด่วน ฝั่งขวามี pusher สำหรับจับเวลาถอยหลังระดับนาทีผ่านเข็ม central chronograph minute hand
FERRARI 296 SPECIALE / SPECIALE A กับเครื่องยนต์ V6 ที่จะทำให้คุณลืม V12 ไปเลย นี่คือรถ 2 เวอร์ชันที่แตกต่างกันทั้งฟีลและฟังก์ชัน — Speciale คือคูเป้หลังคาแข็งสายเฉียบ ส่วน Speciale A (Aperta) คือเวอร์ชันเปิดประทุนหลังคาแข็งพับได้ สำหรับคนที่อยากเปิดรับเสียง V6 hybrid ให้พุ่งเข้าสองรูหูแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น ใต้ฝากระโปรงคือขุมพลังเดียวกัน — Hybrid V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร ที่อัปเกรดทุกระบบด้วยเทคโนโลยีจากไฮเปอร์คาร์ F80 ตั้งแต่ก้านสูบไทเทเนียม ลูกสูบอะลูมิเนียม ไปจนถึงระบบระบายความร้อนใหม่ที่ทำให้พลังไฟฟ้าเค้นได้ลื่นและแรงกว่าเดิม รวมกันแล้วได้ 868 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลังผ่านเกียร์ dual-clutch 8 สปีด ที่จูนใหม่ให้ดุดันขึ้นทุกจังหวะ อัตราเร่งยังคงคมเฉียบตามแบบฉบับ Maranello — 0–100 km/h ภายใน 2.8 วินาที
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก ณ Shanghai Auto Show 2025 สำหรับ ZEEKR 9X Hybrid SUV เรือธงรุ่นแรกของแบรนด์ ZEEKR การประกาศจุดเปลี่ยนสำคัญสู่ยุคใหม่ของ SUV ที่ถือเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ให้วงการ เพียงสามวันหลังจากเปิดตัว ZEEKR 009 Grand Collector’s Edition ก็ปล่อยหมัดเด็ดอีกครั้งด้วย ZEEKR 9X ที่ขโมยทุกสายตาในงานด้วยทั้งรูปลักษณ์ สมรรถนะ และความฉลาดล้ำ ZEEKR 9X ใช้ขุมพลัง Plug-in Hybrid EV ที่ผสานพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEV) เข้ากับเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 2.0T กำลังสูงสุด 205 กิโลวัตต์ได้อย่างลงตัว ขับด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร และยังสามารถทำความเร็วจาก 0–100 km/h ได้ใน 3 วินาทีเท่านั้น พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบ Dual-Chamber Air Suspension
เก็บตก ! ความล้ำของยนตกรรมระดับเปลี่ยนอนาคต ที่ทำเอาเหล่าสาวกแบรนด์ ZEEKR ผู้หลงใหลใน ZEEKR 009 (The Ultimate Luxury MPV) และ ZEEKR 7X (Luxury 5-Seater SUV) ดีใจไปพร้อมกัน ! เพราะว่างาน Bangkok International Motor Show 2025 ที่ผ่านมา ทางแบรนด์ได้ทำการ Official Announcement เปิดจองรถทั้ง 2 รุ่นอย่างเป็นทางการนี่ล่ะคือการขับรถไปบนเส้นทางของ “Imagine Beyond” ของแบรนด์ ZEEKR ในการทำให้ยนตกรรมแห่งจินตนาการ สามารถเติมเต็มความเป็นจริงให้กับทุกผู้ขับขี่ได้ ด้วยภารกิจพัฒนาเทคโนโลยีซัพพอร์ตชีวิต ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน งานนี้ UNLOCKMEN ได้มีโอกาสยลโฉมรถทั้ง 2 คันใกล้ ๆ เราอยากจะมาแชร์ความเจ๋งของ 2 รุ่นไฮไลต์ประจำบูธ ZEEKR ให้ทุกคนที่กำลังสนใจ EV CAR ตัวท็อปของแบรนด์กัน
หลายคนเคยได้ยินเรื่องเล่าว่า นาฬิกา Cartier รูปทรงที่บิดเบี้ยวเพราะไฟไหม้จากอุบัติเหตุรถยนต์ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ Jean-Jacques Cartier สร้าง Crash ออกมา หรืออีกเรื่องเล่าที่ว่ามันมาจากนาฬิกาในภาพเขียนของ Salvador Dalí “The Persistence of Memory (1931)” ฟังดูเป็นเรื่องโรแมนติกดีใช่ไหม? แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่เรื่องจริง ความจริงคือ Cartier Crash เกิดจาก “การออกแบบอย่างตั้งใจ” Jean-Jacques Cartier และดีไซน์เนอร์ Rupert Emmerson จงใจหยิบ Cartier Baignoire ดีไซน์ทรงรี (oval) ที่เรียบหรู เอามาบิดให้เบี้ยวอย่างตั้งใจกลายเป็น Cartier Crash ตาม request ของ Stewart Granger ดาราชื่อดังชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นช่วง Swinging sixties ที่มีการปฏิวัติทางวัฒนธรรมอย่างกว้างขวางในช่วงยุค ’60s – 70s พูดเหมือนง่าย แต่วิธีทำ Cartier
ในหมู่รถแข่งที่เคยแบกรหัส CSL (Coupe Sport Leichtbau) ของ BMW ไม่มีคันไหน “เกินหน้าเกินตา” รุ่นปี 1975 ที่พุ่งสู่สนามแข่ง IMSA North America ได้อีกแล้ว นี่คือ BMW 3.5 CSL GTO Batmobile สายพันธุ์โหดสุด ที่ไม่ใช่แค่ทำให้โลกรู้จัก BMW Motorsport แต่ยังสร้างตำนานให้ BMW บนแผ่นดินอเมริกาอย่างแท้จริง The Road from ETCC to IMSA แรกเริ่มเดิมที BMW 3.0 CSL ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อชิงแชมป์ European Touring Car Championship (ETCC) ในยุโรปมันครองบัลลังก์ไปแล้วตั้งแต่ปี 1973 แต่ฝั่งอเมริกา BMW ยังเป็น “ผู้มาใหม่” ที่แทบไม่มีใครรู้จัก Bob Lutz และ
“สวัสดีครับ ผมชื่อ เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม งานหลักของผมเป็นหัวหน้าสาขาอยู่ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล สาขาดนตรีสมัยนิยม อีกอาชีพหนึ่ง เราทำวงดนตรีชื่อ The Richman Toy ตำแหน่งมือเบส และอีกพาร์ทหนึ่ง เป็นงานกึ่งอดิเรกกึ่งจริงจังหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกัน คือ ร้าน Home Detailing ชื่อร้าน Darren Thompson” ก่อนจะเริ่มสัมภาษณ์ เราขอให้พี่เช่ช่วยพูดแนะนำตัวเองเพราะว่า Video Creator ของทีมกำชับว่าจะต้องมีซีนนี้ให้ได้ นั่นล่ะ คือที่มาของโปรไฟล์ยาวเหยียดของพี่เช่ในบรรทัดบนสุดของบทสัมภาษณ์นี้ และอ่านครั้งเดียวทุกคนก็จะเห็นเลยว่า Darren Thompson Home Detailing เป็นสิ่งที่ไม่เข้าพวกที่สุดในตำแหน่งทั้งหมด แต่เป็นงานอดิเรกกึ่งจริงจังที่เราได้รู้ภายหลังสัมภาษณ์จบว่า การทำ Car Detailing สะท้อนความเป็นตัวตนของเขาในพาร์ทสำคัญอย่างมากเลย UNLOCKER CLUB ตอนล่าสุด เรามุ่งหน้าสู่ศาลายา ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเอารถไปจอดที่ Darren Thompson Home Detailing ร้านล้างรถอย่างพิถีพิถัน ที่ปัจจุบันมีพนักงาน 2 คน คือ
นี่ไม่ใช่ Porsche 911 ธรรมดา แต่มันคือรถที่เกิดจากความฝันของชายคนหนึ่งที่อยากให้ 911 วิ่ง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Jan Fatthauer ชายชาวเยอรมันผู้คลั่งความเร็ว ก่อตั้งสำนักแต่งชื่อ 9ff ขึ้นในเมือง Dortmund ด้วยเป้าหมายที่จะ “สร้าง 911 ที่เร็วที่สุดในโลก” โดยใช้ Porsche 911 Turbo (996) มาโมดิฟายท้าทายขอบเขตของ “street-legal car” ที่ต้องทำความเร็วได้เกิน 400 km/h เครื่องยนต์ 3.8L Twin-Turbo Flat-Six 840 แรงม้า แรงบิด 870 Nm RWD ภายนอกชุดแต่งเสริม Aerodynamics ประกอบด้วย Carbon hood, carbon roof, rear wing แบบ Le Mans กับน้ำหนักตัวราว 1,400