“บทความนี้เราจะไม่บอกว่า Three Man Down เป็นใคร, มารวมตัวกันได้อย่างไร, หรือพยายามพูดถึงอดีตที่เคยผ่านมาของวงมากนัก เพราะทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้ว .. แต่เราจะมาพูดถึงอนาคตและเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากวงประสบความสำเร็จในวงการดนตรีไปแล้ว .. เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้ และพวกเขาเองก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเป็นอย่างไร” ปีที่ 12 ของ Three Man Down เด็กหนุ่มทั้ง 4 คน กิต (กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์), เต (เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค), ตูน (พีรพล เอี่ยมจำรัส) และ เส็ง (วิศรุต ปฐมสิริไพศาล) บอกว่าพวกเขาชอบที่จะเปรียบการเดินทางของตัวเอง เป็นเหมือนกับการผจญภัยของลูกเรือโจรสลัดหมวกฟางใน One Piece และการปล่อยอัลบั้มที่ 3 ซึ่งทำให้วงเติบโตยิ่งกว่าที่ผ่านมา ชื่อ lll (อ่านว่า “ทรี-แมน-ดาวน์”) ก็เพิ่งจะเป็นการเดินทางมาถึงช่วงต้นของเรื่องเท่านั้น ! ถ้าเป็นในมังงะ พวกเขาบอกว่าตัวเองเพิ่งนำเรือผ่านเข้าสู่แกรนด์ไลน์มาเมื่อไม่นานนี้เอง UNLOCKER CLUB ตอนล่าสุด UNLOCKMEN พาไปคุยกับวงดนตรีร็อกตัวแทนของยุคสมัยนี้ ในหัวข้อ
ชาว UNLOCKER มองเห็นวิวในเมืองใหญ่แบบไหนในปี 2025 แต่วิวของเมืองใหญ่ที่เราเห็นในเวลานี้ มันกำลังคึกคักไปด้วยอะดรีนาลีนเอเนอร์จี้จากการเกิดของ ‘City Run Club’ ที่คอยสร้างความคึกคักในทุกคืนวันธรรมดาของเมืองใหญ่ พร้อมกับเปลี่ยนให้ Weekend Moment ณ ตอนเช้าเฮลตี้แบบสุด ๆ ไปเลย เทรนด์การวิ่งที่กำลังเป็น Activity Of The Town ไปทั่วโลกตอนนี้ ก่อเกิด Fashion Runner ชุด OOTD ที่สนุกเกิดขึ้นมากมาย และท่ามกลางแบรนด์ใหญ่ที่เรารู้จักกันมาโดยตลอด มี Alternative Brand เกิดขึ้น และหนึ่งในนั้นที่แตกต่างจากคนอื่นมาก ๆ คือแบรนด์จากฝรั่งเศษชื่อ Satisfy แบรนด์ที่สไตล์ลิ่งจัดที่สุดในช่วงเวลานี้ นี่ล่ะที่เราอยากป้ายยา Brand Story เพราะไปอ่านเรื่องราวเขามาแล้วสนุกมาก ! “ชื่อ Satisfy เกิดขึ้นในตอนที่ผมฟังเพลง How You Satisfy Me ของ Sonic Boom คำนี้ล่ะ
อูยยย ! ตั้งแต่เห็นดีไซน์ของ Studio Underd0g ครั้งแรกก็ใจสั่นมาก ยิ่งหาข้อมูลได้เห็น Art Direction ของเขาจากช่องทางโซเชียล FACEBOOK / INSTAGRAM ก็ยิ่งรัก “If not now, then when?” คือปรัชญาก่อตั้งแบรนด์นาฬิกาอังกฤษไซส์เล็กของ Richard Benc ที่อยากทำอะไรก็เอาเหอะเอาให้สนุกละกันนะ พอดีช่วงนี้เรากำลังหานาฬิกาข้อมือใส่แต่ไม่อยากซ้ำกับคนอื่นเท่าไหร่ จนไปเจอแบรนด์ชื่อ Studio Underd0g สตูดิโอระดับ Microbrand Watch Brand ที่สื่อทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ เพราะตกใจในแอคเคาต์ IG คนตาม 75k (ซึ่งไม่ได้เยอะมากถ้าเทียบกับแบรนด์อื่น) แล้วมี Wacth Nerd อย่าง John Mayer ตามอยู่ด้วย อะ ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ แล้วตัวของ Richard Benc ดีไซน์เนอร์/คนก่อตั้งแบรนด์ คนตามหลักสองพัน ก็ Underdog สมชื่อ !
ทุกคนครับ ! เราไปเจอรองเท้าแบรนด์นี้จากอัลกอริทึ่มของ IG ที่ทำงานดีเกินว่ะ ชื่อแบรนด์ Reproduction Of Found สารภาพว่าไม่รู้จักแบรนด์มาก่อน (ตอนแรกนึกว่า Adidas Samba ด้วยซ้ำ) แต่ถูกใจจัด ก็เลยทำการรีเสิร์ชข้อมูลมาป้ายยาชาว UNLOCKER กัน พบเจอว่านี่คือแบรนด์รองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจาก Military Trainers Shoes ช่วงยุค 1980s ที่ต่อยอดแรงบันดาลใจนั้นให้กลายเป็นรองเท้าพรีเมียมของคนในยุคปัจจุบัน BACK INTO 2016 SOLDIER ! จากแรงบันดาลใจของ Military Trainers Shoes สู่รองเท้าแห่งการ FIND OUT Reproduction Of Found เป็นรองเท้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่เริ่มต้นในปี 2016 ซึ่งตั้งแต่ Day1 เลยนะ แบรนด์หมุนเลนส์โฟกัสให้ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Military Trainers Shoes หรือ รองเท้าฝึกสำหรับทหารซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าสำหรับฝึกของทหารในหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพัฒนารองเท้าที่ดีที่สุดของตัวเอง แบรนด์เลยมีรองเท้าที่ระบุแรงบันดาลใจทางการทหารในรุ่นนั้น
ใต้ฝากระโปรงของ X5 คันนี้ มีเครื่องยนต์ V12 จาก Le Mans ซ่อนอยู่ นี่คือ BMW X5 Le Mans รถ SUV ที่ถูกใช้เป็นสนามทดลองโชว์พลังงานดิบสุดของวิศวกรรม Motorsport “ถ้าเราเอาเครื่อง Le Mans ไปใส่ SUV ล่ะ มันจะเป็นยังไง?” โปรเจกต์นี้เริ่มต้นในปี 1999 – BMW เพิ่งชนะ Le Mans 24h ด้วยรถแข่ง BMW V12 LMR ที่พัฒนาโดยร่วมมือกับ Williams F1 ก่อนจะเปิดตัว X5 production รุ่นแรกที่ Frankfurt Motor Show และเพียง 6 เดือนถัดมา พวกเขาก็เปิดตัว X5 Le Mans ที่
MK vs สุกี้ตี๋น้อย – ในวันที่อาณาจักรสุกี้รุ่นใหญ่ที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งแบบไม่มีใครกล้าท้าชน ประกาศเปิดเกมบุฟเฟต์ 299 บาททั่วประเทศ วัดใจกันแบบหม้อต่อหม้อ เสียงสั่นสะเทือนในวงการก็เริ่มขึ้นทันที ไม่ใช่เพราะราคาน่าตกใจ แต่เพราะมันคือสัญญาณการเปลี่ยนเกมที่ชัดเจนที่สุดในรอบหลายปี สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การประกาศของ MK ก็คือการตอบโต้อย่างรวดเร็วจาก “สุกี้ตี๋น้อย” ที่ลั่นหม้อสวนทันทีด้วยโปรโมชั่นบุฟเฟต์ 199 บาท แม้จะลดราคาลงไม่เยอะมาก แต่ก็โดนใจกระตุ้นความคุ้มค่าให้กลุ่มลูกค้าตามหลัก odd price strategy เบื้องหลัง Price war ของหม้อที่เดือดดาลนี้ มีตัวเลขที่ร้อนพอๆ กันซ่อนอยู่ ฝั่ง MK ยังคงเป็นองค์กรใหญ่ที่มีรายได้รวมในปี 2567 กว่า 15,809 ล้านบาท แม้จะลดลงจากปีก่อนหน้า แต่ก็ยังทำกำไรสุทธิได้ถึง 1,441 ล้านบาท เป็นเงินที่มากพอจะลองกลยุทธ์ ทดสอบโมเดล มีเวลาให้หายใจได้อีกหลายรอบ มีธุรกิจในเครือช่วยกระจายความเสี่ยง แต่สิ่งที่สังเกตได้ชัดคือ momentum เริ่มชะลอตัว ผลกำไรในไตรมาสแรกปี 2568 ที่ 234 ล้านบาท ลดลงถึง 32%
ทุกวันนี้ชื่อสำนัก Top Secret ของ Smokey Nagata คงไม่แปลกหูสำหรับคนไทย เพราะบ้านเรามีร่างทองของทีมคุณเบียร์ ใบหยก เกือบจะครบตำนาน ไม่ว่าจะเป็น S15, GT-R รวมถึง Supra แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสที่รถที่อาจจะบ้าที่สุดของเขา: Top Secret Supra V12 ในโลกของ 2JZ ที่ใครก็ใช้กัน มีไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าดึงหัวใจมันออก แล้วใส่ V12 ลงไปแทน Smokey วางเครื่อง 1GZ-FE V12 จาก Toyota Century ยัด Twin Turbo HKS GT2835 สองลูกเข้าไปเต็มข้อ พ่วงกับ Getrag 6-speed จับคู่คลัตช์ ORC พร้อม LSD ระบบ dry-sump และ ECU จาก HKS F-Con ช่วยควบคุมทุกอย่างแบบแม่นยำ
เพราะเสน่ห์ของ JDM มันมากกว่าความเป็นยานพาหนะ แต่คือเรื่องราวของ Culture & Style รวมถึงความคลั่งไคล้ในทุกรายละเอียด จนทำให้ใครหลายคนพร้อมทุ่มสุดตัว เพื่อให้รถคันเก่ง “หล่อแท้แบบต้นตำรับญี่ปุ่น” แต่จะหล่อทั้งที ต้องเลือกให้ถูกที่ เพราะอู่ทั่วไปอาจไม่เข้าใจถึงจิตวิญญาณแห่ง JDM ได้ถึงแก่น วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับอู่เฉพาะทางสำหรับ JDM Lover ขนานแท้ ที่เข้าอกเข้าใจในรถญี่ปุ่นแบบเข้าเส้น จะเป็นที่ไหนบ้างไปดูกัน 🇯🇵🔥 เริ่มต้นกันที่สำนัก JBOZA GARAGE โดย ‘ช่างเจ’ อดีตเด็กอู่ซิ่งที่เก็บเกี่ยวความรู้ความชำนาญทุกกระบวนท่า มาเปิดกิจการที่เชี่ยวชาญด้านการวางเครื่องตระกูล B, K, SR, RB, JZ ฯลฯ รวมไปถึงจูนกล่อง ทำระบบไฟ ระบบน้ำมัน ช่วงล่าง เบรก ครบวงจร บนพื้นฐานแนวคิดเรื่อง Performance Balance ไม่ใช่แค่แรง แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับไปซื้อกาแฟปากซอยได้สบาย ๆ / ขึ้นเขาไม่ต้องลุ้น / ลง Track ได้
ในปี 1974 ชายชื่อ Count Gregorio Rossi di Montelera (ทายาทตระกูล Martini & Rossi ผู้สนับสนุน Porsche แข่ง Le Mans) ได้รับรถแข่ง Porsche 917K สีเงินเมทัลลิกคันหนึ่งจากโรงงานที่ Zuffenhausen เป็นรถที่สร้างเพื่อลงสนามแข่งเท่านั้น ไม่มีไฟเลี้ยว ไม่มีทะเบียน ไม่มีแอร์ เสียงท่อ Le Mans ดังกระหึ่มตลอดทาง แน่นอนว่ามันไม่สามารถขับบนถนนได้ แต่ Count Rossi อยากจะขับกลับบ้าน เลยตัดสินใจขับ Porsche 917K คันนั้นจากโรงงาน Zuffenhausen เยอรมนี ข้ามประเทศไปถึง Paris ด้วยถนนสาธารณะ แน่นอนว่าทุกคนที่ได้เห็นต่างต้องหันมองตามกันหมด กลายเป็นตำนานที่ทั้งผู้คนและ Porsche ต่างไม่เคยลืมโมเมนต์นั้น 50 ปีต่อมา Porsche อยากรำลึกเหตุการณ์นี้อีกครั้ง โดยเอารถแข่งระดับ 963 Le