EVENT

ไม่ใช่แค่เทศกาลคนฮิป แต่มันมีอะไรที่มากกว่า! รู้จัก Wonderfruit ให้มากขึ้น ก่อนเทศกาลความสุขจะกลับมาอีกครั้งปลายปีนี้

By: NTman November 1, 2017

เมื่อพูดถึง Wonderfruit คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเทศกาลดนตรีเจ๋ง ๆ งานที่มีแต่เหล่าฮิปสเตอร์ ผู้คนที่แต่งตัวชิค ๆ คูล ๆ รวมถึงเซเลบตบเท้ากันมาเพียบ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น!

เพราะตอนนี้ Wonderfruit กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลที่หลาย ๆ คนถึงกับต้องปักหมุดเอาไว้ ว่าจะต้องหาโอกาสมาเยือนสักครั้งในชีวิต (ขนาดนั้นเลยจริง ๆ)

แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเหล่านั้นอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์การเป็น Wonderer นอกจากดนตรี และ ความเท่ ความฮิปของบรรยากาศ และผู้เข้าร่วมงานแล้วยังมีเสน่ห์อะไรน่าค้นหาอีก ในวันนี้ UNLOCKMEN จะมาคลายข้อสงสัย กับกิจกรรมและประสบการณ์ที่จะได้สัมผัส เมื่อคุณมาเป็น Wonderer เดินเตร็ดเตร่ใน Wonderfruit ดินแดนความสุขแห่งนี้

ได้เสพงานศิลป์

เสพศิลป์กับกลิ่นอายของศิลปะที่อบอวลไปทั่วทั้งงาน นอกจากจะได้เห็นงานแสดงศิลปะเคลื่อนที่จากสไตล์การแต่งตัวอันจัดจ้านของเหล่า Wonderer  แล้ว ยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะหลายรูปแบบอยู่ทั่วทั้งงาน ซึ่งบางชิ้นเราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมและสนุกกับมันได้ ถือเป็นการสร้างให้เกิดประสบการณ์ร่วมกับงานศิลปะเหล่านั้นมากกว่าการเสพด้วยตา หรือแค่ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ได้ทำกิจกรรมเยอะแยะ

มั่นใจได้ว่าตลอด 24 ชั่วโมงที่ Wonderfruit จะไม่มีช่วงเวลาว่างปล่อยให้คุณเกิดความรู้สึก “ไม่รู้จะทำอะไร” “เบื่อจัง” ได้อย่างแน่นอน ด้วยกิจกรรมที่อัดแน่นตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง ที่คิดขึ้นมาเพื่อรองรับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์แน่นอนว่าได้ทั้งความสนุก ความรู้ และได้เพื่อนใหม่ในงานนี้ชัวร์

ได้ครุ่นคิด

นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับเสียงดนตรี แฟชั่น งานศิลปะ และกิจกรรมอีกเยอะแยะมากมาย ที่ Wonderfruit ก็ยังมีพาร์ทที่ปล่อยให้ได้ใช้เวลาไปกับนักพูดนักคิดนักสร้างสรรค์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งมาพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจกับเราถึงที่นี่อย่างใกล้ชิด ให้คุณได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในบรรยากาศผ่อนคลาย ถ้าคุณสนใจเรื่องราวของการขับเคลื่อนสังคม สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศที่ยั่งยืน ก็สามารถมาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้ ณ จุด ๆ นี้

ได้รักษ์โลก

จากที่เราได้มีโอกาสไปเยือน Wonderfruit อยู่เสมอ ทำให้กล้าพูดได้เต็มปาก พิมพ์ได้เต็มนิ้วเลยว่า Wonderfruit เป็นงานที่รักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อมมาก ๆ กับความใส่ใจตั้งแต่จุดเล็ก ๆ เช่น ไม่ให้นำพลาสติกเข้างาน สนับสนุนให้ใช้กระบอกน้ำส่วนตัว ให้ทุกร้านอาหารใช้ภาชนะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไปจนถึงจุดใหญ่ ๆ อย่างการใช้วัสดุรีไซเคิลสร้างและตกแต่งทั้งเวทีและงานศิลปะ

นอกจากนี้ในงานครั้งที่ผ่านมายังมีการจำหน่ายเครื่องดื่มพิเศษ “Mangrove Drink” ซึ่งทุก ๆ แก้วที่ขายได้จะเท่ากับจำนวนต้นไม้ที่ Wonderfruit จะนำไปปลูกคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ป่าชายเลนฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งใน Thor Heyerdahl Climate Park ประเทศเมียนมาร์ เป็นจำนวนกว่า 1,000 ต้น เป็นการชดเชยการปล่อยคาร์บอนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในงานนั่นเอง เรียกได้ว่าแทบทุกอณูที่คุณเห็นในงานถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นมิตรและรักษ์โลกสุด ๆ

รู้แบบนี้แล้ว ใครที่อยากไปสัมผัสประสบการณ์ที่มากกว่าแค่ดนตรี และความเท่ความฮิปของผู้คน โปรดเตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อม เพราะได้เวลาที่ Wonderfruit จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 14 – 17 ธันวาคม ที่ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา โดยสามารถซื้อตั๋วได้ทาง http://wonderfruit.co/tickets/

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line