Life

Do You Wake Up ANGRY ? : ตื่นนอนอย่างดุร้าย!! จิตคลั่งอย่างกับสัตว์ป่า ปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขถ้าไม่อยากให้ชีวิตพัง

By: HYENA December 7, 2017

ว่ากันว่า การตื่นนอนมาในยามเช้าด้วยความรู้สึกสดชื่น สดใส จิตใจเบิกบานนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำให้ชีวิตของเราตลอดทั้งวันนั้นดีขึ้นได้ ฟังดูแล้วจะว่าไปก็มีเหตุผล เพราะคนเราเมื่อทำอะไรด้วยความสุขกายสบายใจทุกอย่างมันก็ออกมาดีทั้งนั้น แต่สำหรับบางคนการตื่นนอนขึ้นมาด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาอย่างที่ว่า มันช่างเป็นเรื่องที่ยากซะเหลือเกิน

เพราะใช่ว่าทุกคนจะตื่นมาแล้วจะแฮปปี้มีความสุขเสมอไปซะที่ไหน ในเมื่อมีคนจำนวนไม่น้อยเลย ที่พอลืมตาตื่นมาปุ๊บ ก็รู้สึกหงุดหงิดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ ทำหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรอยู่ตลอดเวลาอยู่ด้วยเช่นกัน บางคนถึงขั้นที่คนรอบข้าง หรือคนใกล้ตัวรู้กันดีว่า เวลาคนคนนี้เพิ่งตื่น หรือเวลาที่เขานอนอยู่ อย่าได้คิดที่จะไปเซ้าซี้กวนใจ หรือทำอะไรให้เขาตื่นเป็นอันขาด เพราะไม่อย่างงั้นล่ะก็ ถ้ามันลืมตามารับรองได้ว่ามีภาพกีฬามันส์ ๆ ให้เห็นอย่างแน่นอน

ปัญหานี้ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แค่ปัญหาเล็ก ๆ ธรรมดา เพราะไหนมันจะกระทบกับเรื่องของเวลาที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะถ้าหากนอนลืมตื่นเกินเวลา ก็ไม่มีใครกล้าไปปลุกกลัวโดนไล่ด่าออกมาอีก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ไม่กล้าเข้าใกล้ หรือคุณจะเป็นฝ่ายที่ชอบตื่นมาอาละวาด

วันนี้ เราจะมาดูพร้อม ๆ กันว่า อะไรเป็นสาเหตุให้บางคน ตื่นนอนมาด้วยความเกรี้ยวกราดดุดันได้ขนาดนั้น พร้อมวิธีแก้ไขให้ทุก ๆ เช้าที่คุณตื่นมา มีอารมณ์ที่เบิกบานแจ่มใส น่าเข้าใกล้มากกว่าเดิมมาให้อีกด้วย

Why do we feel angry when we wake up?

ก่อนอื่นให้คุณลองจับสังเกตอาการตัวเอง หรือคนใกล้ชิดของคุณดูก่อนเป็นอันดับแรกว่า ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา คุณหรือเขามีความรู้สึกโกรธจนสามารถที่จะลุกมาสาวหมัด หรือจิกหน้าใครก็ตามได้ในทันทีเลยหรือไม่

สาเหตุหลักของการที่คนบางคนตื่นมาพร้อมกับอาการเหมือนคนบ้า เดือดเป็นฟืนเป็นไฟพร้อมจะไล่งับทุกคนที่เข้าใกล้ก็คือ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ และคุณภาพของการนอนที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญ

เมื่อร่างกาย และจิตใจเหนื่อยล้า เป็นธรรมดาที่ร่างกายจะต้องใช้เวลาพักผ่อนที่ยาวนานในการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเอง แต่การนอนหลับหลังจากอาการเหนื่อยล้าสะสมอย่างหนักนั้น อาจจะทำให้หลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่า นอนอยู่ในท่าที่ไม่สบาย สถานที่นอนเป็นอย่างไร และนอนไปนานแค่ไหนหลังจากที่ตาปิดลง

สิ่งเหล่านี้อาจทำให้การตื่นนอนเต็มไปด้วยความรู้สึกในทางลบ หงุดหงิด โมโหร้าย เนื่องจากความไม่สบายตัว ซึ่งถ้าถามว่า ทำไมนอนที่เดียวกัน นอนพร้อมกัน เราไม่เป็นแต่เขาเป็น

คำตอบก็คือ ความรู้สึกสบายตัวสบายใจของคนเรานั้น มีความแตกต่างกันมากมาย ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น คุณอาจจะนอนเปิดแอร์ที่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศา แล้วรู้สึกสบาย แต่ในขณะที่อีกฝ่ายนอนเหงื่อไหลพลิกไปพลิกมากลางดึกแต่ไม่มีใครรู้ตัวก็ได้เช่นกัน

อีกปัจจัยที่ก่อให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้ก็คือ การนอนกรน ถ้าหากคุณรู้ว่า คุณ หรือคนใกล้ตัวเป็นคนนอนกรน ความเป็นไปได้ที่คุณจะตื่นมาพร้อมกับความหงุดหงิดเนื่องจากการนอนหลับไม่สนิท ทำให้พักผ่อนไม่เต็มที่นั้น จะมีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

ดังนั้น อย่างมองข้ามปัญหาการนอนกรนที่หลายคนมักพูดว่า ที่กรนก็เพราะเหนื่อย แต่ไม่ค่อยมีใครคิดว่า บางทีที่เราเหนื่อยในแต่ละวัน ก็เพราะนอนกรน ร่างกายจึงพักผ่อนไม่เพียงพอ

What will happen during the day?

ชีวิตคนเราในแต่ละวันไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะเจอกับสิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่ง่ายอยู่ตลอดทุกวัน ดังนั้น การที่คุณตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกหงุดหงิด,โมโห จะยิ่งทวีคูณไปกันใหญ่

คนรอบข้างอาจจะมองว่าคุณเป็นคนหงุดหงิดง่าย ใจร้อน และความอดทนต่ำ ในขณะที่ตัวคุณเองก็รู้สึกว่า ทำไมชีวิตของคุณมันเหนื่อย มันถึงมีแต่เรื่องบ้าระห่ำกระหน่ำเข้ามาอยู่ตลอดเวลา เพราะนอกจากความไม่สบายตัวแล้ว การนอนไม่พอของคนเรายังเรียกความทรงจำเก่า ๆ ที่ไม่ดีล่าสุดกลับคืนมาอีกด้วย

ดังนั้น ถ้าหากเมื่อวานคุณเจอเรื่องหนัก ๆ มาแล้วยังพักผ่อนไม่พอ แถมช่วงเวลาที่คุณได้นอนยังไม่มีประสิทธิภาพอีกล่ะก็ เป็นใครก็ต้องรู้สึกหงุดหงิดโมโหตั้งแต่ไก่โห่เป็นธรรมดา

What happened during your sleep?

ที่เราบอกไปในตอนแรกว่า ความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาที่ถึงแม้ฝันร้ายตื่นมาก็สามารถปรับอารมณ์ให้เข้าที่ได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่สำหรับบางคน ความฝันมันส่งผลต่อความรู้สึก ความทรงจำ และความเหนื่อยล้าโดยตรง

หลังจากที่ร่างกายเหนื่อยล้า และต้องการการพักผ่อน แต่คุณไม่สามารถนำร่างกายไปอยู่ในที่ที่มีประสิทธิภาพ หรือพึงพอใจมากที่สุดได้ บวกกับระยะเวลาการนอนที่ไม่มากเพียงพอ ร่างกาย และสมองที่ยังคงทำงานตลอดเวลา จึงทำให้หงุดหงิดได้ง่ายกว่าตอนที่นอนหลับสนิทเต็มที่ จนร่างกายเริ่มฟื้นตัวกลับมาจากความเหนื่อยล้าที่ค้างสะสม

ซึ่งถ้าหากคุณอยากรู้ว่า สมองของคุณได้พักมากน้อยแค่ไหน หรือได้พักหรือไม่นั้น คุณสามารถสังเกตได้ด้วยการลองคิดดูว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณฝันหรือไม่ ถ้าฝัน แล้วคุณฝันว่าอะไร? ถ้าหากว่าคุณตอบได้ แสดงว่า สมองของคุณยังคงทำงานอยู่ จึงทำให้คุณมีการจดจำความฝันได้ แล้วเมื่อไหร่กัน สมองของคุณได้พักผ่อน? คำตอบก็คือ ไม่มี

ดังนั้น เมื่อสมอง ร่างกาย และจิตใจ ไม่สามารถแบ่งแยก และรับรู้เรื่องของวันเวลา หรือความจริงกับความฝันได้ว่าอะไรเป็นอะไร ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากความฝันก็อาจจะตกค้างอยู่ในจิตใจ และส่งผลให้เกิดอารมณ์ต่าง ๆ ขึ้นได้ รวมไปถึงความโกรธที่มีปัจจัยอื่น ๆ รออยู่เป็นทุนเดิมซ้ำเติมเข้าไปอีก จนกลายเป็นว่า ทุกวันที่ลืมตาตื่นมารู้สึกโมโหอะไรมาแบบไร้สาเหตุ

What you can do about it?

ต้องบอกว่า มันแก้ไขไม่ได้ง่าย ๆ หรืออาจจะไม่ได้เลย ถ้าหากคุณไม่รู้ถึงสาเหตุ และที่มาของปัญหานี้อย่างแท้จริง แต่วันนี้เราเชื่อว่าเมื่อคุณได้อ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะสามารถวิเคราะห์ถึงต้นตอของปัญหาดังกล่าวได้อย่างชัดเจน

เช่น ถ้าหากเป็นเรื่องของเวลาพักผ่อนที่น้อยเกินไป วิธีแก้ไขก็คือ การเพิ่มเวลาการนอนของคุณให้มากขึ้น ถ้าปัญหาเกิดจากความไม่สบายตัว ก็ให้คุณจัดการที่นอน แล้วและร่างกายของคุณให้อยู่ในแบบที่คุณรู้สึกว่าเหมาะสมที่สุดก่อน เช่นเดียวเดียวกับปัญหาอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้การตื่นนอนทุกวันกลายเป็นช็อตมันส์ ๆ สำหรับคนรอบข้างที่ไม่มีใครจะสามารถจัดการมันได้นอกจากตัวคุณเอง

ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกว่า การนอนหลับ และการตื่นนอนของคุณเริ่มกลายเป็นปัญหาที่กระทบกับการใช้ชีวิตแล้วล่ะก็

เราขอแนะนำให้รีบหาทางแก้ไข เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้มันอาจจะกลายเป็นปัญหาทับซ้อนตามมา จนคุณรู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยปัญหา คราวนี้จะยิ่งไปกันใหญ่

ถ้าคุณอยากจะทำงานให้หนัก ทำงานให้ดี เต็มที่ได้กับทุก ๆ อย่างที่คุณทำ คุณก็ควรที่จะหันกลับไปโฟกัสที่สุขภาพร่างกายคุณก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าหากร่างกายของคุณไม่มีประสิทธิภาพมากพอแล้ว เชื่อเถอะว่า คุณไม่มีพลังพอที่จะทำอะไรได้เต็มที่ และทำได้ดีอย่างแน่นอน

SOURCE

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line