Business

CONVERSATION WITH ปิ๊น CARNIVAL กับความกล้าที่จะเสี่ยงดูสักครั้ง จนเกิดเป็นแบรนด์ CARNIVAL

By: Thada July 9, 2018

หากพูดถึงร้านสนีกเกอร์และสตรีทแวร์ที่มาแรงสุด ๆ ในบ้านเรา คงจะไม่มีใครกล้าปฎิเสธอีกแล้วว่า Carnival Store คือเบอร์หนึ่งในปัจจุบัน เนื่องจากช่วงขวบปีที่ผ่านมา การได้ Nike Tier Zero และ adidas consortium ล้วนเป็นเครื่องตอกย้ำชั้นดี โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ คงจะหนีไม่พ้นหัวเรือใหญ่ คุณปิ๊น-อนุพงศ์ คุตติกุล ที่ปลุกปั้นแบรนด์ขึ้นมาเมื่อ 8 ปีก่อน จนกลายมาเป็นร้าน Multi-Fashion แถวหน้าของเอเชีย

ซึ่งวันนี้ UNLOCKMEN ได้รับเกียรติจากคุณปิ๊นให้เดินทางไปพูดคุยเกี่ยวกับแง่คิด พร้อมทั้งประสบการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเป็นนักสะสมรวมถึงหลักการณ์บริหาร ถึงออฟฟิศของ Carnival ที่ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์การค้า สยามสแควร์ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจถึงผู้อ่านทุกคน

A PART OF COLLECTOR
อยากทราบเรื่องราวของคุณปิ๊นก่อนที่จะมาเริ่มทำ Carnival

ปิ๊น Carnival : คือในวัยเด็กก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เหมือนกับเรารู้ตัวว่าชอบที่จะค้าขาย บางทีก็ซื้อโน่นนี่มาขายบ้าง เวลาบ้าอะไรก็จะบ้าเป็นพัก ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร จนจุดเริ่มต้นคือตอนที่ผมได้ไปเรียนปริญญาโทที่อังกฤษกับเพื่อนอีก 2 คน พอเราไปอยู่ที่นั่นปุ๊ป มันเป็นการเปิดโลก จนรู้ตัวเองว่าสนใจเรื่องของรองเท้า ชอบรองเท้า และก็ซื้อรองเท้าเยอะมาก ๆ

อะไรคือเสน่ห์ของ Sneaker ที่ทำให้คุณปิ๊นมาหลงใหลได้

ปิ๊น Carnival : อย่างแรกคือผมมองว่ารองเท้ามันเป็นของที่อยู่คู่กับผู้ชาย เหมือนคนสะสมยีนส์ สะสมเสื้อยืด รองเท้ามันก็เป็นอีกไอเทมหนึ่งที่ค่อนข้างโดดเด่น ซึ่งผมคิดว่ารองเท้าคือจุดสำคัญที่สุดในการแต่งตัว ผมจะแต่งตัวจากรองเท้าขึ้นมาก่อนเสมอ แล้วค่อยเป็นเสื้อผ้าชิ้นอื่น และรองเท้ามีเสน่ห์ตรงที่มันมีเรื่องราว ทุกคู่มีที่มาที่ไปว่ามันถูกออกแบบมาจากอะไร คนออกแบบหยิบเอาแรงบันดาลใจของศิลปะ ของคน ของแบรนด์มาเล่าเรื่อง เพราะฉะนั้นเวลาเราซื้อรองเท้าคู่หนึ่ง เราสามารถซึมซับเรื่องราวของมันได้ว่าคู่นี้มันมาจากอะไร แล้วเราชอบเรื่องราวเหล่านั้นหรือเปล่า

ยังจำรองเท้าคู่แรกที่ซื้อได้มั้ย

ปิ๊น Carnival : จำไม่ค่อยจะได้แต่คิดว่าจะเป็น Converse All Star เพราะว่าสมัยก่อนก็คือเหมือนกับมันเป็นรองเท้าที่หาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย เราก็ซื้อ Converse ตั้งแต่เด็ก ๆ

แล้วปัจจุบันพอจะนับได้มั้ยว่าตอนนี้ตัวเองมีรองเท้ากี่คู่

ปิ๊น Carnival : จริง ๆ ก็น่าจะประมาณ 500 กว่าคู่ แต่ไม่ได้นับเป๊ะ ๆ ว่าเท่าไหร่

คุณปิ๊นเองก็เป็นนักสะสมรองเท้า อยากถามว่าเป็น Collector สไตล์ไหน

ปิ๊น Carnival : จริง ๆ มันไม่มีรูปแบบที่ตายตัวนะว่า Collector จะต้องเป็นแบบไหนยังไง หรือมีกี่แบบ แต่ว่ามันก็แบ่งได้ว่าคุณเก็บเฉพาะรุ่น Series นี้นะ Brand นี้ Brand ใด Brand หนึ่ง อย่างเช่นเก็บ Nike Air max คนนี้เก็บ Air Jordan คนนี้เก็บ Converse ทั้งหมด แต่สำหรับตัวผมเองผมเก็บรุ่นที่ผมชอบ ไม่จำกัด Brand ไม่จำกัด Series ไม่จำกัดรุ่น เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องเก็บรุ่นที่แพง เราก็จะเก็บเฉพาะรองเท้ารุ่นที่เราชอบจริง ๆ  รุ่นที่มันมีเรื่องราวที่มันโดนใจเรา หรือสำคัญที่สุด มันเป็นสไตล์เดียวกับเรา ที่เราใส่ได้มั่นใจว่าใส่แล้วมันแต่งตัวออกมาเข้ากับตัวเรา

ถ้าให้คุณปิ๊นบอกถึงคนที่เขาไม่รู้ตัวเอง สะสมไปเรื่อย ช่วยให้ข้อคิดกับพวกเขาหน่อย

ปิ๊น Carnival : จริง ๆ แต่ละคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ถ้าให้ดีที่สุดก็คือซื้อรองเท้าที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวของเรา เพราะสไตล์การแต่งตัวของเราไม่สามารถเข้ากับรองเท้าทุกคู่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราซื้อรองเท้าที่เข้ากับตัวเรา มันแมทช์กับลุคของเรา เราก็สามารถที่จะมีความมั่นใจในการแต่งตัวออกไปข้างนอกได้ คือไม่ใช่ว่ารองเท้าที่คนอื่นบอกว่ารุ่นนี้มันเจ๋ง แต่ว่าเราแต่งตัวคนละแนวกับรองเท้าแบบนั้น  สุดท้ายเอามาใส่มันก็จะไม่เข้ากับตัวเรา หรือเราจะไม่รู้วิธีการใส่รองเท้าคู่นั้นให้มันออกมาดูดี

อะไรคือความฝันสูงสุดของการเป็น Collector ในมุมมองของคุณปิ๊น

ปิ๊น Carnival : จริง ๆ มันก็แตกต่างกันแหละ เพราะว่า Collector แต่ละคนก็ความคิดไม่เหมือนกัน ความฝันสูงสุดของผม ผมมองว่ามันคงเป็นการสะสมรุ่นที่เราพอใจ และสามารถตามหารุ่นที่เรารู้สึกว่า Happy กับมัน เราได้ใส่ได้ชื่นชมกับมัน แค่นั้นเราก็พอใจแล้ว

A PART OF BUSINESSMAN
มองเห็นอะไรในธุรกิจนี้ ถึงมาเริ่มเปิดร้านขายรองเท้าแบบจริงจัง

ปิ๊น Carnival : ที่ได้บอกก่อนหน้านี้ว่าผมไปเรียนที่อังกฤษ พอเรากลับมาเลยคิดกับเพื่อน ๆ ว่า อยากจะมีร้านรองเท้าสักร้านหนึ่ง เหมือนกับที่ได้ไปเห็นมาจากต่างประเทศ เพราะรู้สึกว่าร้านที่อยู่ต่างประเทศมันเจ๋ง อยากเห็นภาพเหล่านี้ในเมืองไทย มีร้านแบบนั้นเกิดขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น แค่อยากได้ร้านเล็ก ๆ และมีรองเท้าที่เราชอบ มีรองเท้าที่เราสะสม จนเริ่มต้นจากเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตึกสยามกิตติ์ เป็นร้านแรกขนาด 9 ตารางเมตร เล็ก ๆ ขายแต่ Converse อย่างเดียวเลย

จริง ๆ ตอนเริ่มต้นเราไม่ได้มองว่าธุรกิจมันจะใหญ่ขนาดนี้ เพราะอย่างที่บอก คือทุกคนก็มีงานประจำ มีธุรกิจที่บ้านของตัวเอง แต่ว่าพอเราเริ่มมาซักพักหนึ่งจนเริ่มเห็นโอกาสศักยภาพของแบรนด์ Carnival เราก็เลยมองว่าถึงเวลาที่ต้องทำมันจริงจังแล้วหล่ะ เพราะตลาดมันก็พร้อมสำหรับธุรกิจประเภทนี้ด้วย จึงพยายามศึกษามากขึ้นพร้อมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ สร้างแบรนด์ จนเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจมันเติบโตได้เพิ่มขึ้น

คิดว่าการศึกษาในห้องเรียนได้สอนอย่างเพียงพอต่อการเริ่มต้นธุรกิจหรือไม่?

ปิ๊น Carnival : สำหรับคนอื่นไม่แน่ใจ แต่ส่วนของผมน คิดว่ามันคนละเรื่องเลย สิ่งที่เราเรียนก็แค่ทฤษฎี แต่ว่าชีวิตจริงมันคนละอย่างกันเลย เพราะฉะนั้นสำหรับผมเองผมแทบไม่ได้ใช้สิ่งที่ผมเรียนเลย ผมใช้จากชีวิตจริง จากโลกธุรกิจจริง ๆ มากกว่า

ตอนที่เริ่มต้นร้าน Carnival ใช้ความกล้าอะไรมาเป็นแรงบันดาลใจ

ปิ๊น Carnival : ผมเคยคิดจะทำธุรกิจมามากกว่า 10 อย่าง แต่สุดท้ายไม่ได้ทำ เพราะพอเราคิดได้ มันจะมีคนมาบอกนู่นนี่ว่า เอ้ยอย่าทำเลยเดี๋ยวเจ๊ง เดี๋ยวมันดูไม่ดี มีแต่ข้อเสียเข้ามา จนเราไม่กล้าที่จะทำซักที สุดท้ายเราก็ไม่ได้ทำ แต่พอมาคิดโปรเจคนี้ได้เลยคิดว่าเราต้องทำแล้วหล่ะ เพราะสุดท้ายมันจะเป็นเหมือนที่ผ่านมาอีก จากนั้นก็มัดจำร้านเลย เริ่มก้าวออกมาจาก Safe Zone หลังจากนั้น มันรู้สึกว่ามันโล่ง ไม่ต้องกังวลอะไรอีกละ เพราะว่าสุดท้ายเราสู้เต็มที่กับมัน แล้วจะเป็นยังไงเราก็ไม่เสียใจ

คุณปิ๊นมี Role Model ในการทำธุรกิจหรือไม่

ปิ๊น Carnival : คือถ้า Role Model ที่เป็นคนจริง ๆ ยังไม่มี แต่ว่าเราจะดู Role Model ที่เป็นร้านต่างประเทศที่เราชอบ ซึ่งก็คือร้าน Undefeated เพราะเขาเคยได้รับการโหวตให้เป็นร้าน Sneaker อันดับ 1 ของโลก ฉะนั้นเราเลยศึกษาดูเขาเป็นแบบอย่าง ดูว่ามันดียังไง เขาสร้างแบรนด์ยังไง มันก็เป็นแรงบันดาลใจให้เราเอากลับมา มองดูตัวเองว่าจะสร้างแบรนด์ Carnival ให้ยิ่งใหญ่ได้แบบเขา

การทำธุรกิจประเภท Retailer มันมีความยากอย่างไรบ้าง

ปิ๊น Carnival : จริง ๆ Retailer ก็คือการซื้อของมาขายถูกมั้ย คุณก็แค่ซื้อของมาขาย คุณจะขายอะไรก็ขายกันไป แต่ผมให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ที่สุด เพราะการที่จะทำให้คุณมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แตกต่างจาก Retailer เจ้าอื่น ๆ  คุณต้องใช้การสร้างแบรนด์เข้ามาช่วยเพิ่ม ลองคิดดูของที่คุณขายคนอื่นก็มีขายเหมือนกัน แต่ทำไมผู้บริโภคต้องซื้อของที่คุณ เพราะคุณมี Branding มันคือตัวตนที่ชัดเจน ให้คนมองเราเข้ามาแล้วรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน มี Character ยังไง แล้วทำไมคนถึงต้องมาซื้อของที่เรา

เพราะฉะนั้นผมจะเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์เป็นหลัก การสร้างแบรนด์ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าสร้างแบรนด์ร้านค้าอย่างเดียว มันเป็นการสร้างแบรนด์เสื้อผ้า Carnival ด้วย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และก็ให้ความเป็น Branding ของเรามันชัดเจนยิ่งขึ้น

การจะเป็น Retailer เราควรคิดเริ่มต้นจากอะไร

ปิ๊น Carnival : ถ้าอยากจะทำร้านค้า หรืออยากจะทำ Retail สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือคุณจะขายใคร ทำไมเขาถึงต้องซื้อคุณ สินค้าคุณมีอะไร ทำไมเขาไม่ไปซื้ออีกตัวเลือกเป็นร้อย ๆ เป็นพัน ๆ ร้าน ทำไมเขาต้องมาซื้อที่คุณ คุณต้องตอบคำถามตรงนี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องของการจะเปิดร้าน เพราะสมัยนี้คนเปิดร้านในออนไลน์กัน แทบจะมีใหม่ทุกวัน ร้านมันก็ซ้ำ ๆ เหมือนกัน แต่จุดขายของคุณคืออะไร มันต้องตอบโจทย์เหล่านี้ให้ได้ก่อนคุณถึงจะเริ่ม Start ธุรกิจ เพราะปัจจุบันทุกอย่างมันหมุนเร็วมากระหว่างที่คุณคิดอยู่ว่าจะทำอะไร บางคนเขาทำไปแล้ว เพราะฉะนั้นสำคัญที่สุดคือคิดได้ แล้วก็ต้องกล้าทำ แล้วต้องทำเร็วด้วย

คุณปิ๊นใช้หลักอะไรในการเลือกของเข้ามาขายในร้าน Carnival

ปิ๊น Carnival :  ก็อย่างที่บอกว่าแบรนด์ Carnival มันคือตัวตนที่เป็นคนไลฟ์สไตล์แบบเรา ก็มานั่งคิดว่าคนแบบเราจะใส่สินค้าแบบไหน และก็ต้องดูกรอบความเป็นตัวตนของเราก่อนว่าตัวตนของเรา สินค้าแบบนี้มันใช่ตัวตนของเรามั้ย มันใช่ตลาดของเรามั้ย มันใช่ Character ของเรามั้ย อย่างเช่น Carnival จะไปเลือกรองเท้าหนังหัวมัน หัวแหลมมาขายมันก็ไม่ใช่ เพราะว่ามันไม่ใช่ตัวตนความเป็นสตรีทของเรา มันไม่ใช่ความเป็น Street Fashion ของเรา เพราะฉะนั้นกรอบความเป็นตัวตนของเรามันก็จะเป็นตัวล้อมกรอบแบรนด์ที่เราเลือกเข้ามาขาย ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างตัวเราเองกับลูกค้าให้พอดี

หลาย ๆ คนเล็งเห็นว่า Carnival มีก้าวกระโดดที่ดีมาตลอด แต่ความจริงแล้วเคยมีอุปสรรคอะไรไหมที่ทำให้คุณปิ๊นท้อและเหนื่อย

ปิ๊น Carnival :  อุปสรรคที่ทำให้รู้สึกท้อเลยจริง ๆ มันก็ไม่ได้มีขนาดนั้น แต่ว่าอุปสรรคมีเยอะตลอด และมีเกือบทุกวัน จะหนัก เบาบ้างตามแต่ที่มันจะเข้ามา ซึ่งธุรกิจนี้บอกเลยว่ามันไม่ง่าย แล้วก็มีหลายอย่างที่เราต้องฝ่าฟันอีกเยอะ แต่ถ้าถามว่าเรื่องไหนหนัก ๆ เลยก็มีหลายเรื่อง ก็มีทั้งแบบเรื่องตัวร้านค้าเองด้วย ที่เราต้องติดต่อทั้งกับแบรนด์และลูกค้า ซึ่งมันก็มีหลาย ๆ อย่างที่เป็นอุปสรรคเข้ามา แต่ว่าเราก็พยายามจะฝ่าฟันให้มันผ่านไปด้วยการใช้สติ และใช้ความคิดให้รอบคอบในการแก้ไขปัญหาทุก ๆ อย่างเพื่อที่จะผ่านมันไปได้ด้วยดี

ถ้าสมมุติเด็กจบใหม่คนหนึ่ง อยากจะมีแบรนด์เป็นของตัวเอง คุณปริ๊นอยากจะแนะนำอะไรเด็กคนนั้น

ปิ๊น Carnival :  สำคัญที่สุดคือมันต้องสร้างความแตกต่าง แล้วชัดเจนในความเป็นตัวตนของตัวเอง เพราะทุกวันนี้แบรนด์ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไรก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากที่ต่าง ๆ  หรืออาจจะไปก๊อปปี้แบรนด์อื่นมา ซึ่งในระยะยาวมันไม่สามารถยืนระยะได้ คุณจะได้แค่ Trend Fashion ในช่วงนั้น หรือกระแสที่มันกำลังมาช่วงนั้น แต่ถ้าคุณมีความเป็นตัวตนสามารถตีโจทย์ความเป็นตัวเองออกมาได้ พร้อมนำเสนอความเป็นตัวเองที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ คุณก็จะยืนระยะยาวได้

นอกจาก Carnival คุณ ปิ๊นมีทำธุรกิจอื่นควบคู่ไปด้วยมั้ย

ปิ๊น Carnival : นอกจากทำ Carnival เองก็มีกล่องรองเท้า Tower Box กล่องที่เห็นข้างหลังนี้ คือธุรกิจที่แตกลายออกมาเป็นกล่องสำหรับใส่ Sneaker เกรดสะสม ซึ่ง Tower Box เองก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จ หลังจากที่เราเปิดตัวที่เมืองไทยไปแล้ว ตอนนี้ก็ไปเปิดตัวที่ญี่ปุ่นไปขายในหลาย ๆ ร้านรองเท้าที่ญี่ปุ่น แล้วก็กำลังทยอยส่งไปขายอีกหลาย ๆ ประเทศ ก็ถือว่าเป็นไลน์ธุรกิจที่แตกย่อยออกมา แล้วก็เร็ว ๆ นี้ก็จะมี Project ที่เราได้ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง ซึ่งตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ เราเข้าไปร่วมกับเขาเพื่อทำให้แบรนด์ได้ขยายกว้างขึ้น ก็จะเป็น Project ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

ตอนนี้ปีย่างเข้าสู่ปีที่ 8 แล้วของ Carnival รู้สึกพอใจกับ Carnival ในตอนนี้แล้วหรือยัง

ปิ๊น Carnival : คือตอนนี้ถ้ามีคนถามว่า เออเรารู้สึกประสบความสำเร็จหรือเราพอใจแล้วหรือยัง ผมก็จะบอกว่าเราพอใจในจุดที่เราตั้งเป้าไว้ แต่มันยังมีอีกหลายจุดที่เราอยากจะทำ แต่มันยังไม่ถึงจุดนั้น ซึ่งเราก็ต้องพยายามต่อไปให้ถึงจุดนั้น เป้าหมายเรามีตลอด พอเราได้ถึงจุดนี้ปุ๊ป มันก็จะมีเป้าหมายต่อไปว่าเราอยากจะทำอะไรอีก มันเป็นจุดหมายที่เรามองเห็นภาพมันตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว แต่ของแบบนี้ต้องเป็น Step by Step โดยเราไม่หยุดที่จะทำในทุก ๆ วันให้ถึงเป้าหมาย

มีอะไรที่คุณปิ๊นอยาก Unlock ตัวเองที่อยากทำและยังไม่มีโอกาสได้ทำบ้างไหม

ปิ๊น Carnival : อยาก Unlock ตัวเองให้มีอิสระในการทำงานมากขึ้น คือตอนนี้เหมือนกับว่าเราอยู่ติดกับงานมากเกินไป สมมุติเรา Unlock ตัวเองได้ เราสามารถที่จะมีความคิดในการจะไปทำอย่างอื่นได้ ณ ตอนนี้ยังค่อนข้างยุ่งกับงานปัจจุบันร้าน Carnival อยากจะมีโอกาสไปศึกษาทำธุรกิจอื่น ๆ  อยากลองทำร้านอาหาร หรืองานอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจแฟชั่นเพียงอย่างเดียว น่าจะสนุกกับมันมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายอยากให้ฝากถึงคนที่มีไฟ อยากเดินตามรอยคุณปิ๊น

ปิ๊น Carnival : ก็ฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเริ่มทำธุรกิจ ความกล้ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นคือถ้าคุณคิดได้แล้วคุณต้องกล้าที่จะทำ ถ้าไม่กล้า เหมือนกับว่าเรายังไม่ได้ก้าวแรกออกไปด้วยซ้ำ แทนที่จะลองดูว่ามันจะเป็นยังไง แล้วสุดท้ายค่อยมาว่ากันถึงผลลัพธ์ เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้ลงมือทำ

นับเป็นเรื่องราวดี ๆ สำหรับวันนี้ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณ  คุณปิ๊น-อนุพงศ์ คุตติกุล ที่สละเวลามานั่งพูดคุยพร้อมให้แง่คิดสำหรับคนที่ฝันอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะการเป็น Retailer ที่ใครก็คิดว่าเป็นง่ายแค่มีเงินก็พอ แต่ทว่าความจริงแล้วยังมีดีเทลต่าง ๆ เหมือนกับที่คุณปิ๊นได้กล่าวไว้ “สิ่งที่สำคัญยิ่งคือการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง แล้วหลังจากนั้นถ้าตัวตนของคุณชัดเจนและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็จะสามารถขายได้เอง” 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line