CARS

A Girl We Love: รู้จักตัวตนไบค์เกอร์สาวแกร่ง ‘แอนนี่-ปริศนา’ ไอดอลแห่งวงการบิ๊กไบค์

By: Thada November 7, 2017

หลังจากที่ทีมงาน UNLOCKMEN เคยพาไปรู้จักสาวเก่งมามากมายหลายสาขาอาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกเธอก็มีกิจกรรมความเจ๋งในแบบฉบับของตัวเอง แต่คราวนี้ A Girl We Love ต้องขอบอกว่าเธอเป็นสาวแกร่งที่แม้แต่ผู้ชายอย่างเราเองยังต้องชิดซ้ายกับความกล้าบ้าบิ่น บุกตะลุยเจ็ดย่านน้ำ  เธอคือไบค์เกอร์สาวมาดเท่ และเป็นไอดอลแห่งวงการบิ๊กไบค์ แอนนี่-ปริศนา ปัญญาศิรินุกูล

เรามีนัดพูดคุยกับ คุณแอนนี่ ในช่วงบ่ายที่ร้านคาเฟ่ของ Royal Enfield ใจกลางทองหล่อ ซึ่งเมื่อก้าวเท้าเข้าถึงร้านทีมงานทุกคนเป็นต้องสะดุดตากับ คุณแอนนี่  ซึ่งมาในมาดสาวทะมัดทะแมง สวมเสื้อคอเต่ารัดรูปสีดำทับด้วยแจ๊คเก็ตยีนส์ รองเท้าบู้ท ที่เดินเข้ามาทักทายพร้อมชวนเราพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะเริ่มต้นบทสนทนาในวันนี้

UNLOCKMEN : รบกวนคุณแอนนี่ช่วยแนะนำตัวเองสักเล็กน้อย สำหรับชาว UNLOCKMEN ที่อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา

สวัสดีค่ะ ชื่อแอนนี่นะคะ ถ้าจะให้แนะนำตัวขอแทนตัวเองเป็นไบค์เกอร์สาวละกัน เพราะว่าชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ซึ่งก่อนนี้หน้ารวมถึงตอนนี้ก็มีอาชีพหลักเป็นนางแบบรับถ่ายงาน อีเวนท์ทั่วไป

UNLOCKMEN : ดูคุณแอนนี่จะมีความเป็นผู้หญิงมาก จุดไหนที่ทำให้มาเริ่มต้นขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้

จุดเริ่มต้นคือคุณแม่ค่ะ เพราะว่าอยู่เชียงใหม่ คุณแม่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ มีทั้งวิบาก ธรรมดา มันเหมือนเป็นการซึมซับจากการได้ซ้อนท่าน ไปตลาด ไปเที่ยว ทำให้เรามีความรู้สึกประทับใจชอบฟิลตอนที่ลมปะทะ พอโตมาก็เลยอยากจะขี่เอง

UNLOCKMEN : เห็นคุณ แอนนี่ พูดถึงฟีลลิ่งความรู้สึกขณะอยู่บนสองล้อว่ามันดีสำหรับคนที่ไม่เคยขับอาจจะไม่เห็นภาพ อยากให้คุณ แอนนี่ช่วยขยายความในจุดนี้หน่อยครับ

แอนว่าการขี่มอเตอร์ไซค์มันดีมากนะ มันเป็นความสุขที่เกิดจาก passion นอกเหนือจากความรู้สึกดี ๆ เวลาที่อยู่หลังเบาะเมื่อเราได้เจอสถานที่ใหม่ ๆ ที่ไม่เคย ไป  การขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ยังถือเป็นการออกกำลังกายด้วย ต้องฝึกสมาธิ สายตา สมอง การตัดสินใจ สำหรับแอนการขี่มอเตอร์ไซค์มีแต่เรื่องดี ๆ ที่พูดวันนี้ก็คงไม่หมด

ไหนจะมิตรภาพมากมายที่แอนจากการขับขี่ ได้เพื่อนดี ๆ และเจอกลุ่มคนที่ใจดีและใจบุญมาก คนอาจจะคิดว่าขับมอเตอร์ไซค์สร้างความเดือดร้อน เสียงดัง แต่พี่ ๆ ที่แอนรู้จักชอบชวนกันขี่ไปทำบุญ และช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำ

UNLOCKMEN :  เคยโดนกดดันแบบ Negative feedback บ้างไหมที่เราเป็นผู้หญิงแล้วมาทำกิจกรรมที่แมนขนาดนี้

เมื่อก่อนตอนเราขี่ใหม่ ๆ โดนเยอะเลยค่ะ ก็จะโดนดูถูกว่าขับจริงหรือเปล่า หรือแค่มาถ่ายรูปโพสต์เรียกเรตติ้งเฉย ๆ  ซึ่งเราก็ใช้เวลากว่า 10 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรารักจริง ๆ ส่วนกิจกรรมการขี่มอเตอร์ไซค์ เราไม่อยากให้มองว่าเป็นกิจกรรมของผู้ชายเท่านั้น เพราะแอนมองว่ามันก็เหมือนกิจกรรมงานอดิเรกอื่น ๆ ถ้าหากเรารักก็ต้องฝึกฝนทุ่มเทกับมัน ดังนั้นเรื่องเพศสำหรับแอนไม่ใช้ข้อจำกัดสำหรับการขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ

UNLOCKMEN :  ถ้าอย่างนั้นอะไรเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงไทยไม่ขี่มอเตอร์ไซค์กันในมุมมองของคุณ แอนนี่

แอนคิดว่ามันเป็นเรื่องความสวย ๆ งาม ๆ เพราะขี่มอเตอร์ไซค์ในบ้านเราทำให้ผิวเสีย หัวฟู หน้ายับ แดดแรงด้วย ขี่ไปก็เหนื่อย และด้วยพละกำลังของผู้หญิงแอนว่าเค้าคงกลัวขี่ไม่ไหว รับน้ำหนักรถไม่ไหว แต่จริง ๆ แล้ว มันมีเทคนิค และทริคสำหรับควบคุมรถอยู่ ถ้าเราได้เรียนรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้หญิงไทยส่วนใหญ่เค้าคงมองมันอันตรายด้วย น่าจะเป็นปัจจัยหลัก

UNLOCKMEN : แล้วมุมมองของคุณ แอนนี่ คิดว่าการขับขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์จำเป็นต้องเรียนก่อนที่จะมาขับขี่หรือไม่

ส่วนตัวแอนคิดว่าควรค่ะ เราควรจะมีพื้นฐานความเข้าใจแบบถูกต้องเสียก่อน เพราะรถแต่ละคันก็มีความแตกต่างในเรื่องเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อเราเรียนรู้แล้วหลังจากนั้นก็เอามาปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบของตัวเอง

UNLOCKMEN : ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าไม่ใช่ใครก็สามารถขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้สิครับ

ก็ไม่เสมอไปคะ แต่อย่างแอนเป็นผู้หญิงก็เลยต้องทำการบ้านเยอะกว่าคนอื่นด้วยต้นทุนที่เรามีไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับผู้ชาย ดังนั้นแอนก็จะให้ความสนใจเกี่ยวกับสมรรถนะของรถ เครื่องยนต์ ว่าเราจะควบคุมมันอย่างไร ศึกษาเส้นทางให้เป็นอย่างดี

UNLOCKMEN : แล้วมารู้จัก Royal Enfield ตอนไหนครับ

กับ Royal Enfield เหมือนรักแรกพบเลยคะ เพราะทริปล่าสุดที่ไป เทือกเขาหิมาลัยมา คือก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสหรือลองขับขี่มากนัก แต่พอไปทริปคือเราได้ใช้ชีวิตอยู่กับมันจนเข้าใจ และปัจจุบันก็ใช้เป็นยานพาหนะคู่ใจเลยคะ

UNLOCKMEN : ถ้างั้นอยากให้แนะนำหนุ่ม ๆ ที่อยากจะซื้อมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันแรกหน่อย

ก็อยากจะแนะนำเป็นรุ่นเดียวกับที่แอนได้ไปขี่มา คือรุ่น Royal Enfield bullet 500 ก็จะเป็นอารมณ์สายคลาสสิค แต่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งแกร่งมาก จนเรารู้สึกประทับใจ เพราะแต่ก่อนเรามองว่ารถคลาสสิคมันอาจจะไม่แข็งแรงหรือลุย ๆ ได้เหมือนรถบิ๊กไบค์ แต่หลังจากที่เราสามารถขี่ขึ้นหิมาลัยได้ตลอดเก้าวัน ข้ามน้ำ กรวดทราย ถนนขรุขระ เจอฝุ่นเจอทรายหนา ๆ เลาะข้ามระหว่างเทือกเขา ต้องบอกว่า Royal Enfield bullet 500 สามารถเป็นรถที่ขับออกทริปรวมถึงขับหล่อ ๆ ในเมืองได้เลยคะ

UNLOCKMEN : ทริปหฤโหดที่เทือกเขาหิมาลัยกับ Royal Enfield ที่เล่ามา ช่วยแชร์ประสบการณ์เพิ่มหน่อยครับ

ก่อนอื่นเลยเราต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้ดีเสียก่อนออกเดินทาง ไม่ใช่ว่าคิดอยากจะขี่แล้วก็ไปเลย เราต้องศึกษาแผนการเดินทาง สภาพอากาศ สิ่งของจำเป็นที่ต้องเตรียมเอาไปใช้ เรื่องร่างกายก็สำคัญ ต้องฟิตให้แข็งแรงก่อนที่จะไปอย่างแอนก็ฝึกคาร์ดิโอเพื่อให้กล้ามเนื้อของหัวใจสามารถทำงานได้ในสภาวะความกดอากาศต่ำในที่สูง

มันเป็นทริปที่สวยงามมาก ประทับใจเรื่องวิวทิวทัศน์ ไม่ว่าจะไปเส้นทางไหนเราได้ผจญภัย ได้เห็นที่สวย ๆ ใหม่ ๆ ตลอดเวลา รู้สึกว่าอยากจะตื่นขึ้นมาขี่มอเตอร์ไซค์ทุกวันเลยค่ะ แต่ว่าก็ต้องแลกมาด้วยความโหดเหมือนกัน เพราะด้วยสภาพถนนที่รุงรังขับยากพอสมควร 

สำหรับช็อตที่ประทับใจมากที่สุดในทริปคือ แอนตั้งใจจะนำธงชาติไทย และพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขึ้นไปชูที่ถนนที่สูงที่สุดในโลก (ความสูงอยู่ราว ๆ  18,380 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ) ชื่อ Khardung La บนเทือกเขาหิมาลัย แล้วเราสามารถขึ้นไปถึงตรงนั้นได้ และได้ชูธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาล 9 ตามที่ต้องใจไว้ ความรู้สึกตอนนั้นน้ำตาไหล ร้องไห้เลย ปลื้มมาก ดีใจที่เป็นผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ขึ้นอยู่ตรงจุดนั้นได้

UNLOCKMEN : หลังจากทริปหิมาลัยมีแพลนจะไปไหนเร็ว  ๆ นี้มั้ยครับ

แอนยังอยากจะเดินหน้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ท่องเที่ยวมอเตอร์ไซค์ต่อไปในสถานที่อื่นที่ไม่เคยไป แต่ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหน เชื่อว่าเร็ว ๆ นี้จะเริ่มวางแผนสำหรับทริปต่อไปอย่างแน่นอนคะ

UNLOCKMEN : โดยส่วนตัวแล้ว คุณ แอนนี่ ชอบการไปออกทริปคนเดียว หรือไปแบบหมู่คณะมากกว่ากัน

แล้วแต่สภาพอารมณ์ของแอนในตอนนั้น ไม่ใช่ว่าติสต์หรืออะไรนะ แต่บางทีเราก็อยากไปเลยไม่อยากรอใคร บางอารมณ์เราก็อยากจะไปเอนจอยกับเพื่อน เสพบรรยากาศรอบข้างมิตรภาพ เหมือนกับทริปหิมาลัยที่ผ่านมา

UNLOCKMEN : อยากจะฝากอะไรถึงคนที่อยากจะมาเป็นไบค์เกอร์เหมือนกับคุณแอนนี่บ้างไหมครับ

ทุกครั้งแอนอยากจะกำชับเสมอเนื่องจากเราใช้ถนนร่วมกัน มารยาทในการใช้ถนน น้ำใจจึงเป็นสิ่งจำ ปัญหาที่แอนจะเจอบ่อย ๆ คือเวลาคนขี่มอเตอร์ไซค์บางครั้งอาจจะร้อน อาจจะเหนื่อย เมื่อย หิวน้ำ เลยมีการใจร้อนกันบ้าง ก็อยากจะให้ใจเย็น ๆ มีน้ำใจต่อกัน จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ

ส่วนเรื่องของทักษะก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเรียนรู้บางคนมาถึงจะเล่นรุ่นใหญ่ ๆ เครื่องแรง ๆ แต่ไม่ได้ดูศักยภาพตัวเองว่ารับไหวไหมก็พาลให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งการศึกษาเส้นทางก่อนว่าเราจะไปเส้นไหนไปตรงไหนยังไง เห็นไม่ที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไม่ชินเส้นทางทั้งนั้น อีกเรื่องก็คือเพื่อนร่วมเดินทางก็สำคัญเวลาที่เราเดินทางไกล ๆ เราควรมีบัดดี้ ไม่ใช่มุทะลุไปคนเดียว เวลามีปัญหาระหว่างทางจะได้ช่วยเหลือกัน

UNLOCKMEN : นอกเหนือจากการขับมอเตอร์ไซค์แล้วยังมีอะไรที่อยาก unlock ตัวเองเพิ่มอีกไหมครับ

สำหรับสิ่งที่แอนอยากจะทำเพื่อปลดล็อคศักยภาพของตัวเอง คือการเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่อไปที่ยากและไกลกว่านี้ไปอีก เช่น ทิเบต หรือฝั่งยุโรป ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันที่เราอยากจะขี่มอไซค์นอกประเทศไทยให้ได้มากที่สุดค่ะ

UNLOCKMEN : สุดท้ายนี้เนื่องจากเป็นคอลัมน์ A Girl We Love จึงเป็นธรรมดาที่เราต้องขอทราบสเปคผู้ชายของคุณแอนนี่เสียหน่อย

สเปคผู้ชายของแอนก็เหมือนสเปครถเลยค่ะ (หัวเราะ) คือต้องแข็งแกร่ง อบอุ่น สปอร์ต จริง ๆ เนื่องจากเราเป็นคนที่หลงใหลในการขี่มอเตอร์ไซค์ ดังนั้นผู้ชายคนนั้นก็อย่างน้อยต้องเป็นคนที่เข้าใจเรา หรือถ้าเป็นไปได้สามารถขี่ได้ด้วยก็น่าจะดี เพราะเราจะได้มีโมเมนท์ขี่ไปด้วยกัน ที่สำคัญสุด ๆ สำหรับแอนคือต้องเป็นผู้ชายลุย ๆ  แอนไม่ชอบผู้ชายสำอาง แล้วก็ต้องแอคทีฟตัวเองตลอดเวลาไม่ใช่แบบช้า ๆ เนือย ๆ แบบนั้นคงอยู่กับแอนไม่ได้ค่ะ

หลังจากที่เราคุยกันเสร็จแล้ว คุณ แอนนี่ ก็พาเราเดินเล่นในคาเฟ่ของ Royal Enfield พร้อมแนะนำส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเราสังเกตได้ว่าเมื่อพูดถึงเรื่องรถสองล้อ แววตาของเธอดูจะเป็นประกาย และมีความสุขเป็นอย่างมาก ทำให้เราเชื่ออย่างแท้จริงว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาขับมอเตอร์ไซค์เพื่อสร้างภาพอย่างที่เคยมีใครกล่าวหากันมาอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ Royal Enfield Thailand ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้สัมภาษณ์

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line