Entertainment

A24 สตูดิโอสร้างหนังอินดี้แห่งยุค ผลงานการสร้างสรรค์แบบสุดขั้วที่ถูกใจคน Generation นี้

By: unlockmen May 31, 2022

หากเอ่ยชื่อสตูดิโอหนังอินดี้อย่าง A24 คนดูหนังรุ่นใหม่ ไม่มีใครไม่รู้จักค่ายหนังที่อุดมไปด้วยผลงานสร้างสรรค์อันแสนท้าทาย เป็นหมุดหมายสำคัญของวงการอุตสาหกรรมหนังนอกกระแสที่น่าจับตาแห่งทศวรรษนี้

UNLOCKMEN จึงขอชวนคุณมาทำความรู้จักค่ายหนังคุณภาพค่ายนี้ ว่าเพราะอะไร เมื่อหนังถูกปะยี่ห้อด้วยโลโก้ A24 ถึงกลายเป็นหนังที่ทุกคนเชื่อมั่นว่าต้องเจ๋งอย่างแน่นอน

 

บนทางมอเตอร์เวย์สาย A24 สู่เส้นทางสายหนังอินดี้ที่น่าจับตา

A24 เกิดขึ้นในปี 2012 เมื่อเพื่อนซี้ทั้ง 3 Daniel Katz, David Fenkel และ John Hodges ที่รักในการดูหนังระดับฝังเข้าเส้น ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อตั้งสตูดิโออิสระโดยมีเป้าหมายที่จะกำหนดงานสร้างและทำการตลาดในรูปแบบที่แปลกและแตกต่าง Daniel Katz บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของชื่อ A24 อย่างเรียบง่ายนี้ว่า “พวกผมใฝ่ฝันมาตลอดที่จะทำสตูดิโอสร้างหนังอินดี้เล็กๆ พูดตามตรงตอนที่พวกเราตัดสินใจออกจากงานประจำที่ทำอยู่ก็กลัวไม่ใช่น้อยเช่นกัน จนกระทั่งพวกเราได้ขับรถไปยังกรุงโรม ขณะที่พวกเราอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ เราเหลือบไปเห็นป้าย A24 เราก็บอกพรรคพวกว่า “เฮ้…ถึงเวลาที่เราต้องทำแล้วว่ะ” ว่าแล้วตัดสินใจลาออก และใช้ชื่อนี้ตั้งบริษัทกันเลย”

 

หาความแตกต่างและสร้างสรรค์ให้สุดขั้ว

ผู้บริหารสตูดิโอทั้ง 3 มีความรักและชอบในหนังอินดี้ยุค 90s เข้าเส้นเลือด เขาค้นพบว่าเมื่อโลกหมุนเข้าสู่ศักราชที่ 2000s ดูเหมือนพลังสร้างสรรค์และความกล้าหาญของหนังอเมริกันอินดี้ถูกลดทอนลงอย่างน่าใจหาย “มันเริ่มไม่มีหนังที่เราอยากจะดูมันแล้ว หนังที่ทำลายกรอบของการเล่าเรื่อง หนังที่ค้นพบแนวทางใหม่ๆมันเริ่มเลือนหายไปเมื่อศตวรรษแปรเปลี่ยนเข้าสู่ยุคมิลเลนเนี่ยม เราจึงอยากสร้างหนังที่มันสุดขั้ว และเป็นหนังที่เราอยากจะดูมัน” พวกเขาจึงเริ่มเปิดออฟฟิศเล็กๆที่นิวยอร์ค และประเดิมด้วยหนังที่ระดมนักแสดงแจ่มๆในยุคนั้นอย่าง Charlie Sheen, Bill Murray และ Patricia Arquette ในหนังตลกร้ายเรื่อง A Glimpse Inside the Mind of Charles Swan III (2013) ที่กำกับโดย Roman Coppola ลูกชายของ Francis Ford Coppola แม้หนังเรื่องแรกของ A24 จะเป็นหนังที่ฉายในวงจำกัดมากๆ และได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อที่จะเดินหน้าทำหนังเรื่องต่อไป

จนกระทั่งหนังเรื่องที่ 3 ที่เปลี่ยนสถานะพวกเขาตลอดกาล ในหนัง Spring Breakers (2013) หนังทรชนปล้นแซ่บ ที่มาในรูปแบบของสาวน้อยนุ่งบีกีนี่ ถูกกล่าวขวัญถึงในวงแคบก่อนจะกระจายในวงกว้าง และได้รับการขนานนามว่าเป็นหนัง Cult Classic แห่งยุค 2010s ไปเลย จากนั้น A24 ก็หัวกระไดไม่แห้ง ต้อนรับฟิล์มเมคเกอร์ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Sofia Coppola, Denis Villeneuve, Kevin Smith ไปจนถึง Yorgos Lanthimos มาทำหนังกันอย่างคึกคักนับแต่นั้นเป็นต้นมา

 

สตูดิโอที่เปิดโอกาสให้สร้างหนังโดยเสรี

สไตล์อันโดดเด่นของสตู A24 คือการเปิดโอกาสสร้างสรรค์แบบสุดขั้ว โดยเปิดโอกาสให้ทำหนังโดยเสรีไม่มีกรอบมากั้น ทำให้เหล่าผู้สร้างต่างตบเท้าเอาโปรเจกต์มาเสนอกันอย่างมากมาย โดย Katz ผู้ก่อตั้งได้อธิบายการทำงานของ A24 ไว้ว่า “ทุกโปรเจกต์ขับเคลื่อนโดยหนังและผู้สร้างหนัง…ไม่ใช่เรา” และการเปิดโอกาสให้เสนองานได้อย่างบริสุทธิ์นั้นก็ทำให้ผู้สร้างมั่นใจในการเสนองาน โดย Harmony Korine โปรดิวเซอร์ของหนัง Spring Breakers ได้กล่าวถึง A24 ว่า “ในตอนนี้ฮอลลีวูดบริหารงานโดยนักบัญชี ที่สนใจตัวเลขมากกว่างานศิลปะ ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นไม่ใช่น้อย เมื่อเอาโปรเจกต์หนังมาเสนอกับกับคนที่ไม่ใช่นักบัญชี มันน่าตื่นเต้นมาก พวกเขามีหัวใจที่ทุ่มเทให้กับหนังอย่างเต็มเปี่ยม”

แม้ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า A24 ผลิตพลังงานสร้างสรรค์บริสุทธิ์ให้กับเหล่าฟิล์มเมคเกอร์ได้ทำหนังโดยไม่ต้องมาพะวงในเรื่องของธุรกิจ ความรู้สึกนี้มันหาได้ยากยิ่งในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยทุนนิยมแบบนี้

 

สตูดิโอที่ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วที่สุด

รางวัล Oscars อาจจะดูเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมคว้าสำหรับสตูดิโออินดี้ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ใครเลยจะรู้ว่า A24 สามารถคว้ารางวัลใหญ่สุดอย่าง Best Pictures ได้ในเวลาเพียง 4 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง นั่นคือหนัง Moonlights (2016) ซึ่งหนังเรื่องนี้สามารถยกระดับสตูดิโอเล็กๆแห่งนี้ให้กลายเป็นสตูดิโอแห่งยุคที่ครองใจนักดูหนังไปได้ในทันที

เสน่ห์อีกอย่างของสตูดิโอ A24 คือการไม่จำกัดรูปแบบของหนังไว้เพียงการฉายในโรง พวกเขาเป็นที่รักในทุกแพทฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นตลาดโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์หรือสตรีมมิ่ง ไปจนถึงความกล้าในการโปรโมทที่สุดแปลกและแหวกแนว บางเรื่องก็โปรโมทแบบกองโจร ทำให้หนังทุนต่ำเหล่านั้นเพิ่มมูลค่าด้วยการบอกต่อแบบปากต่อปากในโลกโซเชี่ยล A24 จึงเป็นสตูดิโอที่มีความเป็นครีเอทีฟที่เหนือชั้นและเป็นขวัญใจของนักดูหนังรุ่นใหม่ และคอหนังที่ต้องการความแปลกและแตกต่าง


และนี่คือ 5 หนัง ภายใต้การบริหารของ A24 ที่คุณห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

 

Spring Breakers (2013)

หนังอาชญากรรมซ่องแตกที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนจากสาวนุ่งน้อยห่มน้อยในชุดบีกีนี่สีสันจัดจ้าน ที่ถือปืนยืนเด่นโดยท้าทายกับเหล่ามาเฟียค้ายาในฟลอริด้า หนังเต็มไปด้วยความคัลท์แบบสุดโต่ง ที่เอาสิ่งที่ไม่น่าเข้ากันอย่างสาวน้อยสุดน่ารักสุดอึ๋ม เคล้าคลอไปกับโลกอาชญากรรมอย่างลงตัวจนทำให้ A24 กลายเป็นสตูดิโอสุดเจ๋งในทันที

 

The Lobster (2015)

หนังพล็อตประหลาดล้ำในในโลกของคนเหงาต้องสาป เมื่อเหล่าคนโสดต้องหาคนรักให้ได้ในเวลา 45 วัน หากเลยจากนั้นพวกเขาจะกลายร่างเป็นสัตว์ตามที่พวกเขาเลือก โดยพระเอกของเรา เลือกที่จะเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ แค่พล็อตก็กินขาดแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือการกัดจิกความโดดเดี่ยวอ้างว้างของคนยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการเสียดสีและความเพี้ยน แน่นอนว่าพล็อตหนังสุดเซอร์แบบนี้ไม่ง่ายเลยที่สตูดิโอไหนจะอนุมัติ แต่เมื่อ A24 ผลักดัน มันทำให้หนังเรื่องนี้ถูกกล่าวถึงกระหึ่มในคานส์ปีนั้นเลยทีเดียว

Moonlight (2016)

ความโดดเดี่ยว แปลกแยก และสุดเหงา ถูกเล่าผ่านช่วงเวลา 3 วัยจากเด็ก สู่วัยรุ่นที่ถูกบูลลี่ จนถึงวัยเติบใหญ่ที่สับสนว้าวุ่นในความปรารถนา กลายเป็นหนังที่สะท้อนตัวตนอันแตกต่างของหนุ่มผิวสีที่สับสนในเพศสภาพและความรักได้ร้าวราน จนทำให้หนังสามารถคว้ารางวัลใหญ่สุดบนเวทีออสการ์ได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้กระทั่งค่ายหนัง A24 เองก็ไม่คาดคิดว่าหนังเรื่องนี้จะสามารถชนะใจคณะกรรมการได้อย่างท่วมท้น แม้เหตุการณ์ “จดหมายผิดซอง” ที่พิธีกรอ่านชื่อหนังได้รางวัลผิดจะทำให้หนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงในวงกว้าง แต่คุณภาพของหนังก็ได้รับการยอมรับว่ามันคือหนังที่เหงาจับจิตร้าวรานจับใจได้อย่างดี

Midsommar (2019)

นอกจากหนังอาร์ตพล็อตเด่น A24 ยังเป็นที่กล่าวขวัญในฐานะสตูดีโอหนังสยองขวัญสุดเฮี้ยนเช่นกัน และ Midsommar คือหนังสยองขวัญที่ท้าทายขนบความเลือดสาด ด้วยการเสนอเรื่องราวของลัทธิประหลาดท่ามกลางหมู่บ้านปริศนาที่พระอาทิตย์ขึ้นตลอดเวลา และแม้จะแสงสว่างคาตา แต่ก็สามารถกระตุ้นความกลัวและความหลอนได้อย่างชะงักงัน

Everything Everywhere All at Once (2022)

โลกมัลติเวิร์ส ไม่ถูกจำกัดแค่ซูเปอร์ฮีโร่อีกต่อไป เมื่อมันถูกเล่าอย่างชาญฉลาดผ่านสาวใหญ่ชาวเอเชียที่วงจรชีวิตน่าเบื่อหน่าย จนเธอสามารถทะลุมิติไปพบตัวตนหลากหลายในจักรวาลคู่ขนานที่ทั้งเดือด มันส์ และเต็มไปด้วยไอเดียที่เหนือชั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนนักวิจารณ์ต่างพากันยกนิ้วว่าหนังเต็มไปด้วยการแหกกรอบ ทะเยอทะยาน ที่สามารถผสานความรักความชอบในหนังฮ่องกง กับความล้ำของพล็อตอันบ้าคลั่งได้อย่างยอดเยี่ยม ถือเป็นหนึ่งในหนังแห่งปี 2022 ที่ทุกคนรักและซู้ดปากด้วยความทึ่งในไอเดีย

 

และนี่คือเรื่องราวของสตูดิโอ A24 ค่ายหนังที่เป็นขวัญใจของนักดูหนังในยุคปัจจุบันที่ได้รับการกล่าวขวัญทั้งไอเดียการโปรโมทสุดแจ่ม และหนังก็เจ๋งไม่แพ้กัน แต่นอกเหนือกว่านั้นคือความกล้าแหกกรอบและแหกกฏเดิมๆของค่ายนี้ ที่ทำให้ค่ายนี้การันตีคุณภาพได้อย่างท่วมท้น

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line