Life

เลิกยึดติด! แค่แข็งแกร่งไม่พออีกต่อไป โลกใบใหม่ “ปรับตัวได้ก่อนถึงจะรอด”

By: PSYCAT April 21, 2020

เราเคยเชื่อว่าโลกหมุนไวแสนไวขึ้นนับตั้งแต่การเดินทางมาถึงของเทคโนโลยี การเดินทางไร้พรมแดน และการสื่อสารไร้ขีดจำกัด อินเทอร์เน็ตชวนให้สรรพสิ่งหมุนไวจนหลายครั้งแค่เราไปเปิดสมาร์ตโฟนแค่วันเดียว เราก็ตามหลายข่าวไม่ทันเสียแล้ว

แต่เมื่อ COVID-19 คุกคามโลกทั้งใบ โลกไม่ได้หมุนไวขึ้นเหมือนที่เราเคยรู้สึกก่อนหน้านี้ แต่โลกพลิกตีลังกากลับหัว จนเราต้องปรับทุกสิ่ง เปลี่ยนทุกอย่างในชั่วเวลาไม่กี่อึดใจ

ในสภาวะเช่นนี้ หลายสิ่งที่เราเคยยึดถือต้องรีบทิ้งให้ไวก่อนจะพากันแย่ บางอย่างที่เราเห็นว่าไม่เคยสำคัญเรายิ่งต้องรีบคว้าเอาไว้ เช่นเดียวกับที่เราเคยมองว่าคนทำงาน ผู้นำ หรือแม้แต่คนทั่วไป ใครที่มั่นคง แข็งแกร่ง เด็ดขาด นั้นมีแนวโน้มจะเอาตัวรอดอย่างราบรื่น แต่สถานการณ์ที่พลิกผันรายวัน รายชั่วโมงอย่างตอนนี้ “คนที่ปรับตัวได้เร็ว” ต่างหากที่จะรอด

แต่ทุกคนเรียนรู้ได้ ไม่เคยเรียนรู้ที่จะปรับตัวมาก่อนในชีวิต เริ่มตอนนี้ก็ยังไม่สาย และนี่คือหนทางปรับนิสัยตัวเองให้เป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับทุกสิ่งได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น


 

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…” การตั้งคำถามที่ต้องฝึกทุกวัน

นิสัยหลายครั้งปรับจากพฤติกรรม หรือสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่บางครั้งก็ต้องปรับที่วิธีคิด ทัศนคติ และสมอง ถ้าทั้งชีวิตเรายืนอยู่บนความมั่นคงมาตลอด รู้ว่ายอดเขานี้ไม่มีวันสั่นคลอน คิดแต่ว่าจะปีนขึ้นไปให้สูงขึ้น ๆ กว่านี้ได้อย่างไร? ก็ไม่แปลกที่เมื่อหลายอย่างเริ่มพังทลาย ยอดเขาที่ยืนอยู่มีแต่จะทรุดตัวแล้วเราปรับอะไรไม่ถูก

ฝึกตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วยการโยนคำถามให้ตัวเองในทุกวัน “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า…” จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าพรุ่งนี้เราโดนปลดออกจากงานประจำ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีก 2 เดือนต่อจากนี้เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสถานการณ์แย่ลงจนสภาพจิตใจเราไม่พร้อมจะทำงาน

คำถามเหล่านี้คือการเพิ่มสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งสถานการณ์ที่ดีและไม่ดี การโยนคำถามและฝึกให้ตัวเองคอยหาคำตอบ วันละ 1-3 คำถาม จะทำให้เรามองเห็นความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะพลิกผันไปในทางที่เราไม่คาดคิดสุด ๆ ได้เสมอ ไม่เพียงเท่านั้น เรายังเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า เมื่อสถานการณ์นั้นมาถึงจริง ๆ เราจะปรับตัวได้ทันที หรือเร็วกว่าการที่ไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน


 

ไม่ใช่แค่ Learn แต่ต้อง Unlearn

โลกการทำงาน (จริง ๆ ก็ทุกด้านของชีวิต) ก่อนที่ COVID-19 จะมาถึงนั้นเราทุกคนกระหายการเรียนรู้อย่างบ้าคลั่ง (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี) เพราะขณะนั้น คนที่รู้มากกว่า รู้เร็วกว่าก็ได้เปรียบ สถานการณ์ที่ COVID-19 กำลังกัดกินทุกอย่างนั้นการเรียนรู้ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น

แต่หากต้องการที่จะปรับตัวได้ก่อน ปรับตัวได้ไว้ ไม่ใช่แค่ Learn แต่ต้อง Unlearn ให้ไวได้พอ ๆ กัน หลายคนยึดติดกับหลักการเดิมที่เคยเวิร์กเมื่อปีที่แล้ว และมุ่งมั่นคิดว่าแบบเดิมดีแล้วก็ต้องดีตลอดไป หรือเชื่อว่าความสำเร็จที่เรามีได้ทุกวันนี้ก็เพราะ 1 2 3 4 แล้วท่องจำราวนกแก้วนกขุนทอง การ Unlearn คือความกล้าที่จะยอมรับว่าสิ่งที่เราเรียนรู้มาในอดีต มันอาจไม่ได้ใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันอีกต่อไป

คนที่จะรอดจึงไม่ใช่คนที่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ต้องเป็นคนที่กล้าจะลดทิฐิ เลิกยึดติดและยอมรับว่าสิ่งที่เรารู้มามันอาจไม่ได้มีความหมายแล้ว ยิ่ง Unlearn ได้เร็ว เป็นน้ำแก้วเปล่าได้เร็วเท่าไร ก็ปรับตัวเรียนรู้ เติมน้ำได้ใหม่ไม่มีที่สิ้นสุดเพิ่มโอกาสรอดได้มากเท่านั้น


 

“Exploratory Mindset” ปลุกนักแสวงหาในตัวคุณ

การมีชีวิตที่มั่นคง แน่นอนมาโดยตลอดเป็นเรื่องที่ดี แต่ชีวิตที่มั่นคง ทำตามแบบเดิม ๆ ปรับนั่นนิดนี่หน่อย แต่รวม ๆ แล้วเราเผลอทำอะไรซ้ำ ๆ วน ๆ โดยไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะเรารู้ว่าวิธีนี้ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด เมื่อทุกอย่างในชีวิตเป็นเหมือนเดิม เราก็แค่แสวงหาหนทางที่จะสูงขึ้น ดีขึ้น ไปไกลขึ้น (ซึ่งก็ไม่ผิดอยู่ดี)

แต่เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นดังเดิม คาดเดาไม่ได้ แปรเปลี่ยนไปมา มายด์เซ็ตที่เน้นแต่การเติบโตสูงขึ้นไปข้างบนอย่างเดียวอาจใช้ไม่ได้แล้ว (หรืออย่างน้อยก็ชั่วคราว)

“Exploratory Mindset” จึงเป็นทัศนคติที่ทุกคนที่อยากปรับตัวได้ เข้ากับสถานการณ์ได้ไวต้องปรับใช้กับตัวเอง จากเดิมที่เราคิดแค่ว่าถ้าสุงขึ้นถึงจะดี Exploratory Mindset กำลังบอกเราว่าไม่สักหน่อย เราไม่รู้อะไรเลย สูงขึ้นอาจจะดี แต่เราลองแสวงหาทางอื่น ๆ ด้วยสิ ลองเป็นนักสำรวจดูสิ ลองเดินต่ำลงไปบ้าง ลองเฉไปทางขวาบ้าง ลองเต้นไป เดินไปบ้าง


 

Exploratory Mindset ปรับใช้ได้ทุกเรื่อง ทั้งกับการทำงาน และชีวิต ในสภาวะนี้ถ้าไม่รู้จะเริ่มใช้ Exploratory Mindset แบบไหน ให้ลองฝึกใช้กับเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันก่อน เป็นการฝึกให้สมองคุ้นชินว่าเราไม่จำเป็นต้องทำทางที่ง่าย ที่สะดวก ที่ชิน แต่เราฝึกให้ตัวเองตื่นเต้นที่จะได้สำรวจสิ่งใหม่ ๆ เข้าไว้

ถ้ายังนึกไม่ออกลองจินตนาการง่าย ๆ ว่าเราอยากซื้อของมาทำกับข้าว ในหัวเราคงมีภาพห้างสักห้างที่ใกล้ที่สุดของครบที่สุด (จากประสบการณ์ของเรา) ขึ้นมาในหัว แล้วเราก็แค่ตรงดิ่งไปที่นั่นเลย แต่ลองใช้ Exploratory Mindset ไปตลาดสดแถวบ้านที่ไม่เคยไปมาก่อนดู เราอาจเจอสินค้าที่ถูกกว่า เจอของสดกว่า หรือเจอวัตถุดิบจากสวนที่ไม่เคยเจอมาก่อนในห้าง ฯลฯ

Exploratory Mindset ไม่ได้แปลว่าเราสำรวจแล้วเราจะเจอสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเสมอไป แต่มันคือการฝึกให้เราชินกับการเผชิญหน้ากับความไม่คุ้นเคย ฝึกให้เรารู้จักรับมือกับสถานการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เราเชื่อว่าบางคนขับรถไปห้างไกลบ้าน แทบจะใช้ระบบออโต้ไพล็อตในตัวเอง เพราะเรารู้หมดแล้วว่าต้องขับยังไง วิ่งเลนไหนรถไม่ติด ชั้นไหนที่จอดรถมีเหลือ

แต่การพาตัวเองออกสำรวจหนทางใหม่ ๆ สมองเราจะตื่นตัวตลอดเวลาโดยอัตโนมัติเพราะควาไม่ชิน ซึ่งสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้เองที่ฝึกไว้ จนเราสามารถเอาไปปรับใช้กับการทำงาน หรือโปรเจกต์ใหม่ ๆ

เส้นทางต่อจากนี้คงไม่มีอะไรง่าย หรืออย่างน้อยก็ไม่ได้มั่นคงจนเราใช้ความสามารถที่เราเคยชินได้แบบสบาย ๆ อีกต่อไป แต่ทุกคนก็กำลังปรับตัวเองไปพร้อมกัน เริ่มวันนี้ก็ไม่มีคำว่าสาย ลองใช้กลวิธีที่ UNLOCKMEN เสนอไป รับรองว่าการเป็นคนปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ไหนก็ได้แบบไม่หวั่นเกรงนั้นจะเพิ่มโอกาสหลายอย่างให้ชีวิตคุณได้แน่นอน

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line