HISTORY OF THE AIR FORCE-1 โมเดลในตำนานที่เสน่ห์ไม่ลดลงตามกาลเวลา

ตลาดรองเท้าทั่วโลกกำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ เพราะผู้คนหันมาพิถีพิถันกับเครื่องแต่งกายชิ้นนี้มากขึ้น ทำให้แต่ละปีมีโมเดลรองเท้าทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ รวมถึงงานคอลแลปส์จำนวนมากปล่อยออกมาเรียกเงินในกระเป๋าของหนุ่ม ๆ อย่างเราไปไม่น้อย

แต่ท่ามกลางรองเท้าจำนวนมากกลับมีเพียงไม่กี่โมเดลเท่านั้นที่เรารู้จัก ยิ่งโมเดลที่สามารถยืนระยะยาวนานในทุกยุคทุกสมัยยิ่งมีน้อยลงไปอีก แต่ถ้าจะให้ยกสักโมเดลในตำนานจาก Nike  ชื่อของ Air Force-1 (AF-1) คงเด่นชัดขึ้นมาในใจของใครหลายคน และนี่คือเรื่องราวความเป็นมา รวมถึงเหตุผลที่ทำให้เสน่ห์ของมันไม่เคยเสื่อมคลายไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย

 จุดกำเนิดของตำนาน Air Force 1

original Nike Air Force 1 from 1982 in “White/Neutral Gray” ภาพจาก Nike

“Air In a Box“ คือสโลแกนที่ Nike ใช้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รองเท้ารุ่นใหม่ของพวกเขาเมื่อปี 1982 โดยถือเป็นครั้งแรกที่คนทั้งโลกได้รู้จักโมเดลรองเท้าที่ดีไซน์แบบ High-Top ซึ่งมีเอกลักษณ์จากอัปเปอร์วัสดุหนังสีขาวยาวหุ้มข้อ มีแถบคาดที่ทำจากผ้าโทนสีเดียวกัน ก่อนตกแต่งเอาต์โซลและโลโก้ Swoosh สี Neutral Grey พร้อมส่วนโซลขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเด่น ก่อนตั้งชื่อให้มันว่า Air Force 1 ตามชื่อเรียกเครื่องบินส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยรองเท้าคู่นี้เป็นฝีมือการออกแบบของสุดยอดดีไซน์เนอร์อย่าง Bruce Kilgore

Complex

ในเวลานั้น Air Force 1 เปิดตัวออกมาในฐานะรองเท้าบาสเกตบอลคู่แรกของค่าย Swoosh ที่ใช้เทคโนโลยี “AIR” เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายและรองรับแรงกระแทกเพื่อให้เหมาะสมกับกีฬายัดห่วง โดยเปิดตัวแคมเปญโฆษณาชิ้นแรกพร้อมสตาร์จาก NBA ทั้งหมด 6 คน ทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นรองเท้าที่ใครหลายคนในยุคนั้น ก่อนที่จะปล่อยตัว Low และ Mid ตามออกมาจนเป็น 3 ดีไซน์ที่ผู้คนจำนวนมากนิยมมาถึงทุกวันนี้

อิทธิพลจากนักกีฬาและตัวพ่อแห่งวงการฮิปฮอป สู่ Pop-Culture ของจักรวาลรองเท้า

แต่เรื่องที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเพราะหลังเปิดตัวเพียงปีเดียว Nike ตัดสินใจหยุดผลิต แต่ความสวยงามของมันก็ทำให้ผู้คนยังโหยหา จนกระทั่งปี 1986  Nike ตัดสินใจเปิดตลาดของ AF-1 อีกครั้ง

คราวนี้ดีไซน์ของมันพัฒนาไปเล็กน้อยด้วยการเติมโลโก้ Swoosh ไว้ที่ด้านหลังรองเท้าและกลับมาติดตลาดอีกเพราะมีนักบาสเกตบอลระดับออลสตาร์หลายคนเลือกสวมใส่ลงแข่งขันในหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็น Charley Barkley, Rasheed Walllace รวมถึง Kobe Bryant

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ AF-1 ได้รับความนิยมแบบหยุดไม่อยู่คือการถูกดึงไปอยู่ในกระแส Pop-Culture อย่าง ดนตรีฮิปฮอป โดยเฉพาะฝั่ง East Coast ที่มีศิลปินมากมายสวมใส่ โดยเฉพาะตัวพ่ออย่าง Jay-Z ที่ใส่ออกงานและยัดชื่อมันเข้าไปในไลม์ของเพลง “Can I Live ll” ของอัลบั้ม Reasonable Doubt เมื่อปี 1996 ในท่อน “Can I live, for all my niggas with all white Air Force Ones, And black guns”

รวมถึงฝั่ง Mid-West ที่มี Nelly ในยุครุ่งเรืองที่ปล่อยเพลง “Air Force Ones” ออกมาโดยใช้รองเท้าคู่นี้เป็นตัวเล่าเรื่องหลักของเนื้อเพลง พร้อมมิวสิกวีดีโอที่มี AF-1 วางโชว์ไว้มากมาย ทำให้หนุ่ม ๆ ทั่วโลกต่างต้องการครอบครอง AF-1 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในยุคทองของโมเดลรองเท้าสุดเก๋าคู่นี้เลยก็ว่าได้

Complex

เมื่อเดินทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 แม้ช่วงต้นความนิยมจะลดลง เพราะมีรองเท้าผลิตออกมาล้นหลาม แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะในช่วงปี 2005-2006 AF-1 กลายเป็นโมเดลรองเท้ายอดนิยมของค่ายด้วยยอดขาย 22 ล้านคู่ทั่วโลกและสีที่ขายดีที่สุดคือ All-White หรือสีขาวล้วน ก่อนกลายเป็นโมเดลรองเทาที่ถูกผลิตออกมามากกว่า 2,000 โทนสี อีกทั้งผู้คนยังอยากได้โดยไม่ต้องพึ่งการโฆษณาอีกต่อไป

Nike

Air Force 1 กับยุคสมัยของงานคอลแลปส์และการใช้วัสดุที่หลากหลาย

เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ของตลาดรองเท้าที่ตอบโจทย์หนุ่ม ๆ ผู้รักใน Air Force 1 มากขึ้น หลังจาก Nike ID เปิดตัวและให้ทุกคนเลือกแต่งแต้มสีสันให้รองเท้าคู่โปรดของตัวเองทำให้มี AF-1 หลากสีสัน แสดงให้เห็นว่า รูปทรงและดีไซน์อันแสนคลาสสิกของมันไม่เคยโดนกาลเวลาทำให้เสื่อมถอยลง แต่ยังสามารถเข้ากับสไตล์ของยุคสมัยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

นั้นเองที่ทำให้เราได้เห็นยุคแห่งการคอลแลปส์ที่เข้ากันได้ดีกับรองเท้าคู่นี้ซึ่งร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Supreme, Comme des Garcons, The North face มาจนถึงสุดยอดแบรนด์สตรีตในปัจจุบันอย่าง Off-White ที่เห็นกันในคอลเลกชัน The Tens โดยเฉพาะคู่ล่าสุดที่ทำให้เหล่าสนีกเกอร์เฮดหลายคนต้องกระเป๋าร้อนอย่าง Off-White x Nike Air Force 1 : Blue MCA

ขณะเดียวกันปัจจุบันโมเดล Air Force 1 ก็พัฒนาจนมีความหลากหลาย ทั้งด้านวัสดุและเทคโนโลยีมากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เราจะเห็นว่า Nike เริ่มผลิตมันออกมาควบคู่กับวัสดุเฉพาะของค่ายไม่ว่าจะเป็น Foamposite, Hyperfuse, Flyknit และ Liquid Metal แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ทำให้คนทั่วโลกเลือกซื้อมันมาสวมใส่ จนกลายเป็นโมเดลในตำนานที่หนุ่ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กหรือวัยเก๋าต้องซื้อติดตู้ไว้อย่างน้อยหนึ่งคู่เพื่อความอุ่นใจว่าจะไม่ตกเทรนด์

ต้องยอมรับเลยว่าตลอด 37 ปีที่ผ่านมา Air Force 1 คือหนึ่งในโมเดลที่ยังคงได้รับความนิยมและทรงอิทธิพลจนกลายเป็นคู่หูติดเท้าของผู้ชายทั่วโลกในทุกวาระโอกาส ถือเป็นรองเท้าอีกรุ่นที่ต้องยกขึ้นหิ้งว่าเป็นตำนานที่ไม่เคยตกยุค ผู้คนยังต้องการครอบครองมันไว้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไฮป์เลยแม้แต่นิดเดียว

43einhalb

SOURCE : 1/2/3/4