‘All-New Honda Civic’ ดีไซน์ใหม่ ยกระดับความ Craft และ Sport Premium เหนือกว่าใคร โดนใจกว่าที่เคย

ปัจจุบันผู้คนต้องการเลือกรถยนต์ที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้ครบภายในหนึ่งคัน นอกจากการใช้งานเป็นยานพาหนะแล้ว ยังต้องตอบเรื่องความรู้สึกและฟังก์ชันที่ครบถ้วน ทั้งความสวยงามหรูหรา สมรรถนะ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความปลอดภัยระดับสูง ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด ซึ่งการพัฒนารถยนต์ให้สามารถผสมผสานทุกความต้องการเอาไว้ได้ครบจึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุด

ในกลุ่ม Compact Segment วันนี้ คงไม่มีตัวเลือกไหนน่าจับตามองไปกว่า All-New Civic generation ที่ 11 เปิดตัวมาพร้อมกระแสตอบรับที่ดีรอบด้านจากทั้งแฟน Civic รวมถึง Car Enthusiast ผู้ชื่นชอบรถยนต์ โดยเฉพาะในเรื่องของดีไซน์ที่มีการยกระดับความ Craft และความเป็น Sport Premium มากขึ้นอย่างชัดเจน ทำยอดจองถล่มทลายได้ทันทีที่เปิดตัวออกมา

หากคุณกำลังพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ที่เหนือกว่าใครใน Segment วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปดูจุดเด่นที่มีมากกว่าของ All-New Civic รุ่นล่าสุดกัน รับรองว่ามันคือรถยนต์ที่คุ้มค่า และน่าภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองอย่างแน่นอน

หากใครเป็นแฟนตัวยงอาจจะทราบอยู่แล้วว่า รถยนต์ตระกูล Civic นั้น มีความโดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์มาตั้งแต่ 1st Generation ในปี 1972 พกพาความล้ำสมัย และความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวส่งต่อมาตลอดระยะเวลา 50 ปี

“ถ้าหากเราพิจารณาดูดี ๆ ความดุดันและความสปอร์ตที่เคยมีใน Civic Gen ก่อน ๆ นั้นไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่มันถูกออกแบบให้เรียบง่ายกว่าเดิม แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของความสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน หรูหราในทุกมุมมอง”

คอนเซปต์การออกแบบโดยรวมให้ความรู้สึก ‘Less is More’ แต่ยังคงไว้ซึ่งอารมณ์ความเป็น Sport Sedan ในรูปลักษณ์ที่สุขุมมากขึ้น ทำให้ All-new Civic ดูสปอร์ตภูมิฐาน สามารถมองได้นานโดยไม่รู้สึกอยากละสายตาไปจากมัน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน ที่แสวงหาความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน สะท้อนความทุ่มเทของทีมออกแบบที่ทำการบ้านให้ผลงานออกมาได้อย่างไร้ที่ติ

All-New Civic เป็นรถที่มีการออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวรอบคัน การเลือกใช้เส้นสายแนวนอนลากยาวจากด้านหน้าไปถึงท้ายรถ เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟท้าย LED C-shape ดีไซน์ใหม่ที่เรียว และกว้างมากขึ้น

ไฟหน้าดีไซน์ใหม่คงเอกลักษณ์ความสปอร์ต แต่เรียบหรูยิ่งขึ้นมาพร้อมกับไฟ Day Time Running Light แบบ LED ที่ให้แสงสว่างได้ชัดเจนในเวลากลางวัน และยังมีไฟตัดหมอก LED มาให้อีกหนึ่งคู่ โคมไฟท้ายเป็นเส้นคมชัดจากทุกมุมมอง ดูสวยงามโดดเด่นจากรถยนต์ทั่วไป เป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ All-New Civic ดูสปอร์ตพรีเมียมในทุกมิติ

สำหรับรุ่น RS ยังถูกยกระดับความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลอกท่อไอเสีย และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ภาพรวมของดีไซน์ภายนอกและมิติรถดูกว้างขวาง เรียบหรูมากขึ้น แต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่งดุดันในสไตล์ของรถสปอร์ตยุคใหม่ สะท้อนสมรรถนะผ่านรูปลักษณ์ที่สวยจากทุกมุมมองแม้ยามที่รถหยุดนิ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ดีไซน์ทุกจุดถูกออกแบบโดยคำนึงถึงประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

โครงสร้างตัวถังยังมีการนำคอนเซ็ปต์การจัดวางใหม่ในสไตล์ ‘Low & Wide’ ทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Center Of Gravity) ลงและภายในกว้างกว่าเดิม โดยมีระยะฐานล้อกว้างมากขึ้น และแกนล้อหลังกว้าง ช่วยทำให้ควบคุมการขับขี่เฉียบคม มีการตอบสนองระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถได้ดีขึ้น  ให้ความรู้สึกมั่นใจ ขับขี่ได้สนุกเร้าใจได้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าที่เคย การออกแบบตัวถังที่ทำให้รถมีฝากระโปรงหน้าลาดต่ำลง ย้ายตำแหน่งกระจกมองข้างลงมาอยู่ที่บานประตู เพื่อให้มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น รวมถึงมีการเพิ่มการซับเสียงที่ช่วยลดเสียงลมที่จะเข้ามารบกวนในห้องโดยสาร  และการสั่นสะเทือนในห้องโดยสาร ช่วยให้การขับขี่สมูธ ลื่นไหล เข้าถึงแก่นแท้ของความสปอร์ตมากกว่าที่เคย พร้อมเพิ่มความสปอร์ตให้การขับขี่ด้วยการปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ และโหมดการขับขี่ ทำให้หลายๆ คนที่ได้ลองขับล้วนบอกว่า All-new Civic มีการควบคุมรถเฉียบคม แม่นยำ เข้าโค้งในความเร็วสูงได้อย่างลื่นไหล มอบฟิลลิ่งการขับขี่ที่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น

หากใครที่ยังไม่เคยเห็นภายในของ All-new Civic รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักในทันที เพราะภายในห้องโดยสารรวมไปถึง Cockpit ถือเป็นการปฎิวัติการออกแบบภายในของ Honda ที่เน้นความรู้สึกของทั้งผู้ขับ และผู้โดยสาร จนใคร ๆ ต่างก็ยกให้เป็นอีกไฮไลท์ของรถคันนี้เลยทีเดียว ภายในห้องโดยสารถูกสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังเกรดพรีเมี่ยมสลับกับหนังกลับดีไซน์ใหม่ ให้ความหรูหราและดุดัน ควบคู่กันไปกับการเดินด้าย Stitching สีแดง มาพร้อมแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ตปลุกสัญชาตญาณการขับขี่ที่เร้าใจ นอกจากนี้ ที่นั่งใน All-New Civic ก็ยังออกแบบให้มีตำแหน่งของเบาะต่ำลงกว่าที่เคย อีกทั้งยังขยายพื้นที่นั่งให้กว้างขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้สัมผัสกับความผ่อนคลายสะดวกสบายลดความเหนื่อยล้าในทุกการเดินทาง

นักออกแบบของ Honda ได้ไอเดียในการรังสรรค์ห้องโดยสารสุดหรู เน้นไปที่ความ Craft และ Premium โดยการตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เน้นเรื่องความสะดวกสบาย และความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และมอบสุนทรียภาพในการขับขี่ที่เพลิดเพลินผ่านฟีเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่วางในตำแหน่งที่ผู้ขับสามารถใช้งานได้ง่าย เอาไว้ให้คุณได้ควบคุมมันเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ก็ช่วยลดปัญหาการละสายตาจากถนนในขณะขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม

บริเวณเสา A ถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลง ทำให้ได้พื้นที่กระจกหน้าบานใหญ่ขึ้น ช่วยเปิดกว้างให้เห็นวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนขึ้น หนึ่งในจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของภาพในห้องโดยสารของ All-New Civic ที่ออกแบบได้แตกต่างไม่เหมือนใครคือ แผงคอนโซล Honeycomb Mesh ดูหรูหรา มีรสนิยม ช่วยเพิ่มมิติความงามที่เรียบง่ายทีมีระดับ ให้มุมมองที่สวยงามแปลกใหม่สบายตาด้วยการซ่อนช่องแอร์ไว้ด้านหลังได้อย่างกลมกลืนแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน

ไม่ใช่แค่หรูหรา และสะดวกสบาย All-new Civic ยังได้ใส่เทคโนโลยีความทันสมัยมาให้แบบเต็มพิกัด มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลแบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้วที่แสดงข้อมูลสำคัญได้ครบถ้วน สามารถเลือกเปลี่ยนการแสดงผลได้ตามต้องการทั้งในช่องวัดรอบและความเร็ว เปลี่ยนดีไซน์ตาม Driving Mode รวมถึงบอกสถานะการทำงานของระบบความปลอดภัย Honda SENSING

นอกจากนั้นยังมีจอ Infotainment System แบบ Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อด้วย Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger สำหรับชาร์จ Smartphone หมดปัญหาแบตหมดแล้วไม่มีสายชาร์จ

และความสะดวกสบายที่มากขึ้นกับ กุญแจแบบใหม่ ‘Honda Smart Key Card’ ที่ออกแบบมาได้หรูหราล้ำสมัย พกพาสะดวก น่าใช้เป็นอย่างมาก โดย ‘Honda Smart Key Card’ นี้ จะทำให้คุณควบคุมประตู ล็อค-ปลดล็อค ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พกไว้กับตัวโดยที่ไม่ต้องหยิบออกมากดปุ่มให้ยุ่งยาก

‘Honda SENSING’ เทคโนโลยีความปลอดภัยใน All-New Civic คือจุดเด่นที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้โดดเด่นเหนือกว่าใครใน Segment เดียวกัน ที่สำคัญคือให้เทคโนโลยีนี้มาครบทุกรุ่นย่อย

เทคโนโลยี ‘Honda SENSING’ เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่พัฒนามาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ และผู้คนบนท้องถนนให้ดียิ่งขึ้นจัดเต็มครอบคลุมรอบด้านถึง 6 ฟังก์ชัน

• ใหม่! LCDN – ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
• ACC with LSF – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
• CMBS – ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
• LKAS – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
• RDM with LDW – ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
• AHB – ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ อีกเช่น

• ระบบ Front Passenger & Rear Seat Belt Reminder – ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
• ระบบ Rear Seat Reminder – ไฟแจ้งเตือนสถานะผู้โดยสารที่เบาะนั่งด้านหลัง
• ระบบ Driver Attention Monitor – ระบบความปลอดภัยสุดเจ๋งที่คอยตรวจจับความเหนื่อยล้าจากการขับขี่
• ระบบ Honda LaneWatch – ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ภาพจากกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจกมองข้างด้านซ้าย ช่วยลดปัญหามุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

• ระบบ Walk Away Auto Lock – ระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
• ระบบ Auto Brake Hold – ระบบ Brake Hold อัตโนมัติ ที่จะเริ่มทำงานทันทีที่เริ่มกดปุ่มใช้งาน โดยระบบจะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และระบบจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง
• ระบบ Hill Start Assist (HSA) – ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
• ระบบ Vehicle Stability Assist (VSA) – ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ช่วยการยึดเกาะให้รถไปกับโค้งได้อย่างมั่นใจ

All-New Civic ทั้ง 3 รุ่นย่อยใช้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO ทุกรุ่น ให้กำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT เพิ่มความต่อเนื่องให้รอบเครื่องยนต์ทำความเร็วได้เต็มประสิทธิภาพ

• โหมดการขับขี่เลือกได้ 3 รูปแบบ ได้แก่  Sport Mode/ Normal Mode และ Econ Mode สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองของเครื่องยนต์ และเกียร์ได้ตามสถานการณ์ ซึ่งความแตกต่างของ Sport Mode โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (มีเฉพาะในรุ่น RS เท่านั้น) ระบบนี้จะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้า ส่วน Normal Mode โหมดการขับขี่แบบปกติ และ ECON Mode โหมดการขับขี่แบบประหยัด ระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่ เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมาพร้อมเครื่อง VTEC TURBO ที่แรงเร้าใจ แต่ All-New Civic สามารถทำอัตราความประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยมถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร และยังรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 อีกด้วย ถือว่าเป็นรถที่สร้างความคุ้มค่า และช่วยคุณประหยัดได้มากกว่าที่เคย

ถึงแม้ว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ TURBO แต่สามารถทำอัตราความประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 อีกด้วย ถือว่าเป็นรถที่สร้างความคุ้มค่า และช่วยคุณประหยัดได้มากกว่าที่เคย

ด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดที่ Honda ให้มาใน All-New Civic ขุมพลัง VTEC TURBO 178 แรงม้า มาพร้อม เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ในทุกรุ่นย่อย  รวมถึงดีไซน์ที่เน้นความเป็น Sport Premium เต็มขั้น จึงทำให้ All-New Civic สมบูรณ์แบบในทุกมิติ เหนือกว่า ทั้งในด้านความคุ้มค่า และความรู้สึกที่จะได้รับจากการขับรถคันนี้ สมกับคำนิยาม “DRIVE THE UNRIVALED”

และสำหรับแฟน ๆ Honda Civic รวมไปถึงใครที่กำลังมองหาสปอร์ตพรีเมียมซีดานคันใหม่ เราขอแนะนำให้ไปทดลองขับด้วยตัวเอง เพราะประสบการณ์ที่คุณจะได้รับจาก All-New Civic คันนี้นั้น มันเกินกว่าที่เราจะบรรยายได้จริง ๆ

หากใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูกันได้ที่ www.honda.co.th/civic หรือสัมผัสและทดลองขับได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือหากใครที่ต้องการติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแชทกับที่ปรึกษาการขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://bit.ly/3jVNBxo หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 023417777