World

‘ANAXAGORAS’นักปราชญ์ผู้ถูกเนรเทศ แค่เพราะชี้ว่าดวงจันทร์คือหินไม่ใช่พระเจ้า

By: unlockmen June 24, 2019

คุณเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริงไหม?

ไม่ผิดถ้าจะตอบว่า “จริง” แล้วก็ไม่ผิดหากจะตอบว่า “ไม่”

เพราะโลกในตอนนี้เปิดกว้างและยอมรับความคิดเห็นมากกว่าในยุคก่อน แม้จะไม่ได้กว้างขนาดที่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ทุกอย่าง แต่ต้องยอมรับว่าการแสดงทัศนคติที่ผิดแผกไปจากคนอื่น ก็ไม่ได้ถูกลงโทษร้ายแรงถึงขั้นขับไล่ออกนอกประเทศ (ในทางพฤตินัยและนิตินัย) แต่หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อน โลกเราไม่ได้มีเสรีภาพในการแสดงความเห็นเฉกเช่นตอนนี้เลยสักนิด

thefamouspeople

นักปราชญ์ผู้มองเห็น ‘ต่าง’ จากคนอื่น

Anaxagoras คือนักปราชญ์ในยุคกรีกโบราณที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ด้านดาราศาสตร์ เขาประจำการอยู่ที่กรุงเอเธนส์และเฝ้าสังเกตระบบสุริยะอย่างระแวดระวัง ทั้งยังวิเคราะห์และคำนวณถึงความเป็นไปได้ ค้นหาหลักฐานมากมายเกี่ยวกับดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ โลก ตลอดจนอวกาศ เพื่อหวังปลดล็อกความลึกลับของจักรวาลที่ใครหลายคนยังไม่รู้

นักปราชญ์ผู้นี้เชื่อว่าดวงจันทร์เป็นก้อนหินที่โลกยุคแรกเหวี่ยงขึ้นไปในอวกาศ ขณะที่ดวงอาทิตย์ก็เป็นก้อนหินเหมือนกับโลกและดวงจันทร์ แต่จะต่างตรงที่มันมีไฟลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา Anaxagoras ยังพิสูจน์อีกว่าแสงของดวงจันทร์แท้จริงแล้วเกิดจากการสะท้อนของแสงอาทิตย์ ซึ่งเขานำสมมติฐานดังกล่าวไปต่อยอดและอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

แต่ท่ามกลางจารีต ประเพณี และสังคมโลกโบราณ ดูเหมือนความคิดสุดโต่งของนักปราชญ์ผู้นี้จะไม่เป็นที่ยอมรับและขัดต่อศาสนา ร้ายกว่านั้นคือเขาถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ปฏิเสธพระเจ้า มีคนอ้างว่าเขาก้าวร้าว หยิ่งยโส และท้าทายอำนาจพระผู้เป็นเจ้า จนท้ายที่สุดเขาถูกจับกุมและตัดสินประหารชีวิต

ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด โชคยังเข้าข้าง Anaxagoras ไม่นานนักเขาถูกละโทษประหารชีวิตและปลดปล่อยจากการจองจำ แต่สำหรับผู้ที่กล้าตั้งคำถามและท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของดวงจันทร์ผู้เป็นพระเจ้า ก็ต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองเอเธนส์ไปในที่สุด

สมมติฐานที่เป็นประโยชน์ต่อวงการดาราศาสตร์

จากความคิดไร้แก่นสารที่คนในยุคกรีกโบราณพากันกุมขมับ กลายมาเป็นสมมติฐานชิ้นสำคัญในวันที่โลกเจริญกว่าวันก่อน สมมติฐานของ Anaxagoras ช่วยนำ George Darwin ลูกชายของ Charles Darwin ไปสู่การวิเคราะห์ต้นกำเนิดของดวงจันทร์ ซึ่ง George Darwin เชื่อว่าดวงจันทร์เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่ถูกเหวี่ยงมาอยู่ในอวกาศจากการหมุนอย่างรวดเร็วของโลก

Daniel Graham ศาสตราจารย์ภาควิชาปรัชญาที่ Brigham Young University ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอัตชีวประวัติของ Anaxagoras เผยว่านักปราชญ์ผู้นี้เปลี่ยนแปลงปัญหาบนดวงจันทร์ให้กลายเป็นปัญหาเรขาคณิต

เขาตระหนักได้ว่าการที่ดวงจันทร์มืดลงเป็นครั้งคราว หรือ จันทรุปราคา เกิดจากตำแหน่งของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลกที่เรียงตรงกันพอดีโดยมีโลกอยู่ตรงกลาง ส่วนเหตุที่ท้องฟ้าในระหว่างวันมืดมิดและมีดวงจันทร์เลื่อนมาบดบังดวงอาทิตย์ หรือ สุริยุปราคา นั้นเกิดจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง

สำหรับคนยุคกรีกโบราณที่มีดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เป็นพระเจ้า คงไม่มีใครยอมรับว่าสิ่งที่ตนนับถือมาตลอดชีวิตจะเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่งในอวกาศ แต่เราเชื่อว่าทุกครั้งที่มีการตั้งคำถามนั้นนำไปสู่วิธีการคิดและคำตอบที่แตกต่างกัน

แล้วถ้าวันใดวันหนึ่ง สิ่งที่คุณเชื่อถือและยึดมั่นมาตลอดถูกพิสูจน์ว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้ คุณจะทำยังไง?

 

SOURCE

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line