ยังไม่ทันได้ลุ้น McLaren ปฏิเสธทันควัน ไม่มีการขายหุ้นให้ Apple แน่นอน หรืออย่างน้อยก็ในช่วงนี้

ในขณะที่  Apple  กำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนา  smartphone  รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีนวัตกรรมไร้  headphone jack  ซึ่งเปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว อาจจะเหลือบไปเห็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า  Tesla  ขับผ่านไปหรือยังไงไม่ทราบ ก็เลยมีข่าวเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อขอซื้อแบรนด์   Supercar   ชั้นนำของทั้งโลก  F1  และโลกแห่ง  Street Legal  อย่าง  McLaren  เล็ดลอดออกมา แถมดูเหมือนว่าดีลนี้จะมีการตั้งโต๊ะจีบกันมาได้หลายเดือนแล้วด้วย

ถ้าใครติดตามข่าวสารของ  Apple  มาบ้าง อาจจะพอจำได้ว่า  Apple  มีโปรเจคใหญ่เกี่ยวกับ  Electric Self-driving Car  ที่ใช้  code name  สุดยิ่งใหญ่ว่า  “Project Titan”  มาได้ประมาณ  2  ปีแล้ว แต่รอแล้วรอเล่าจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเจ้ารถคันที่ว่า ในขณะที่  Elon Musk  แซงหน้าไปชนิดที่เรียกว่าไกลเกินกว่า  Tim Cook  จะตามทัน ว่าแล้ว  Apple  อาจจะเกิดไอเดียว่า ถ้าขืนมัวแต่ก้มหน้าก้มตาสร้างกันเองคงไม่ดีแน่ สู้ใช้เงินซื้อ  Know-How  จากแบรนด์  Supercar  อย่าง  McLaren  น่าจะดีกว่าและเร็วกว่า ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดที่สุดว่าเอาจริงแน่นอน หลังจากผ่านความพยายามทั้งเพิ่มบุคลากร เปลี่ยนหัวหน้ามาแล้วทุกวิถีทาง ว่าแต่ทำไมต้องเป็น  McLaren?

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านอกจากจะขึ้นชื่อลือชาทางด้าน  High-Performance Supercar  ชื่อดังอย่าง  P1 Hybrid Hypercar  และรถแข่ง  Formula One  แล้ว  McLaren  ยังเป็นเลิศทางด้านการคิดค้นเทคโนโลยีล้ำๆ หลายอย่าง ส่วนนึงเพื่อนำไปใช้พัฒนารถของตัวเองในทุกด้าน และยังทำเพื่อขยายธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญๆ ในรถแข่งหลากหลายประเภท ตั้งแต่  Formula One  ยัน  NASCAR

ไม่ว่าดีล  Apple x McLaren  จะไปในทิศทางไหน อีกสิ่งที่น่าสนใจคือตัวเงินที่จะเกิดขึ้นจากดีลครั้งนี้ มีรายงานว่า  Apple  อาจจะต้องเตรียมเงินประมาณ  $1.3 – $1.9 billion  ถ้าการเจรจาไปได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งก็ถือว่าไม่เยอะมากเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับการดีลโลกจารึกเมื่อครั้งซื้อ  Beats by Dre  ด้วยเงินสูงถึง  $3 billion  ในอดีต

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเราคิดว่าดีลนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ ด้วย  Brand Heritage  ของ  McLaren  ที่เน้นทำตลาดกับกลุ่มอภิมหาเศรษฐีที่มีกำลังซื้ออภิมหารถสมรรถนะสูงจากยอดขายปีละประมาณ  1,xxx  คันเท่านั้น ในขณะที่รถยนต์ของ  Apple  เน้นทำตลาดกับกลุ่ม  Mass  ด้วยความเป็นรถไฮเทคพลังงานไฟฟ้ามากกว่าสมรรถนะ รวมถึงความเก๋าของ  2  ผู้ถือหุ้นใหญ่  Ron Dennis  และ  Mansour Ojjeh  ซึ่งคงไม่กล้าให้แบรนด์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงขนาดนั้น

Latest update : ดูเหมือนเช้าตรู่วันนี้จะมี  Speaker  จากฝั่ง  McLaren  ออกมาพูดเบรคประเด็นแล้ว ด้วยการฟันธงฉับให้เลยว่า  McLaren  ไม่น่าจะมีการร่วมทุนใดๆ กับ  Apple  ในขณะนี้ แต่ก็ต้องดูกันต่อไปยาวๆ เพราะดีลระดับนี้อาจจะ  sensitive  เกินไปที่จะมีความเคลื่อนไหวโดยที่ยังไม่ได้ใกล้ข้อตกลงก็เป็นได้