Life

ร้องไห้เพื่อทำลายความเครียด ศาสตร์แห่งความสบายใจที่กำลังได้รับความนิยมในบริษัทญี่ปุ่น

By: Chaipohn April 10, 2019

ตอนเด็กเราร้องไห้ได้ง่าย ทำให้เราไม่ต้องแบกความเครียดติดตัวเอาไว้ แต่เมื่อเราโตขึ้นกลับกลายเป็นว่าการร้องไห้มันคือเรื่องยากที่จะทำ เพราะวัฒนธรรมบอกเราว่าการร้องไห้คือความอ่อนแอของคนแพ้เท่านั้น?

“If you cry once a week, you can live a stress-free life.”

นี่คือ Quote คำสอนของ Mr. Hidefumi Yoshida หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “namida sensei (Tears Sensei)” หรือกูรูด้านการร้องไห้ ผู้บุกเบิกให้คนญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเสียน้ำตา ซึ่งเป็นการระบายความเครียดที่ดียิ่งกว่าการหัวเราะหรือพักผ่อนทุกรูปแบบ ซึ่งอย่างที่เรารู้กันดีว่าวัฒนธรรมการทำงานหรือแม้แต่การเรียนในประเทศญี่ปุ่นนั้นทั้งหนัก การแข่งขันสูง และการต้องเอาใจผู้ใหญ่ ส่งผลให้คนทำงานมีอัตราประสบปัญหาสุขภาพจากความเครียดสูงมาก ตัวเลขสถิติการฆ่าตัวตายจากปัญหาจากความเครียดเกี่ยวกับการทำงานในปี 2018 พุ่งสูงเกิน 2,000 ราย ทำให้คำว่า Karoshi “death by overwork” กลายเป็นประเด็นที่หลายบริษัทในญี่ปุ่นต่างให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก

ด้วยปัญหานี้เอง การระบายความเครียดที่อัดอั้นใจยากจะหาวิธีระบายของคนทำงานในญี่ปุ่นด้วยการร้องไห้จึงเป็น Solution ที่กำลังได้รับความนิยมมาก ด้วยคุณสมบัติของการหลั่งน้ำตา ที่ไม่ใช่แค่ปกป้องดวงตาจากอาการระคายเคือง แต่มันยังช่วยละลายความเครียดจากระบบประสาทซิมพาเทติกในสมอง (Parasympathetic nerve activity) ซึ่งเป็นระบบประสาทอัตโนมัติที่เราไม่สามารถสั่งการได้ เปรียบเสมือนระบบ Safety ป้องกันตัวของสมองเมื่อเกิดความเครียดในระดับที่เกินรับไหว

Hidefumi Yoshida ชายอายุ 43 ปี อดีตอาจารย์สอนชั้นมัธยมที่มักจะเป็นที่ปรึกษาให้กับนักเรียนของเค้า และพบว่านักเรียนกที่เคยเครียด รู้สึกดีขึ้นมากและไม่ต้องกลับมาปรึกษาอีกหลังจากเค้าแนะนำให้ร้องไห้ให้สะใจ จึงหันมาเอาดีทางผู้เชี่ยวชาญด้านการร้องไห้มาได้ราว 5 ปีครึ่ง โดยตลอดเวลาได้เดินสายจัด workshop อบรมให้กับบริษัทและโรงเรียนมากมายทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงประโยชน์ของการเสียน้ำตา

แน่นอนว่าการจะทำให้ประโยชน์ของการร้องไห้ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ลำพังแค่ Yoshida คนเดียวอาจจะไม่มีน้ำหนักมากพอ จึงร่วมมือกับ Mr. Hideho Arita ศาสตราจารย์จาก Faculty of Medicine แห่ง Toho University ซึ่งเป็น Back up ที่ดีในการสนับสนุนประโยชน์ของการร้องไห้ที่มีต่อสุขภาพ ซึ่งนับคร่าว ๆ ก็มีจำนวนหลายร้อยแห่งที่เชิญอาจารย์ทั้งสองท่านเพื่อให้คำปรึกษาและลดความเครียดให้กับพนักงานในบริษัท และปัจจุบันก็มีคำร้องขอรอคิวให้ไปทำ workshop อีกเพียบ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ดีว่าการร้องไห้ ช่วยลดความเครียดอย่างได้ผลจริง ๆ

คำแนะนำที่อาจารย์ทั้งสองท่านมีให้กับคนทำงานหรือคนเครียดอย่างพวกเราคือ พยายามหาเวลาให้ตัวเองได้ร้องไห้บ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี และร้องให้เต็มที่แบบไม่ต้องสนใจมาดแมนใด ๆ ทั้งสิ้น แค่นี้ก็เป็นวิธีการใช้ชีวิตที่ปราศจากความเครียดได้ง่าย ๆ ช่วยให้ตัวเบาขึ้นเยอะ

ใครเคยอึดอัดจนน้ำตาไหลออกมา แล้วปล่อยตัวเองให้จมไปกับการร้องไห้แบบขาดสติ น่าจะรู้ดีว่าหลังน้ำตาไหล อะไร ๆ ก็ดีขึ้น

 

Appendix: 1 / 2 / 3 /

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line