GROOMING

พลิกตำราหาน้ำหอมขวดใหม่ ฉีดอย่างไรให้ WORK สุด ๆ by MARO BODY & FACE CLEANSING SOAP

By: NTman January 19, 2023

เมื่อพูดถึงเรื่อง ‘กลิ่น’ ใครคิดว่าไม่สำคัญ หลายคนคงจะเคยชินกับการรับรู้กลิ่นในทุก ๆ วัน แต่อาจไม่เคยรู้ว่าความสามารถธรรมดา ๆ อย่างการรับกลิ่น มันเกิดจากการทำงานสอดประสานกันของเซลล์รับกลิ่นจำนวนมหาศาลที่ช่วยให้เราจำแนกกลิ่นที่แตกต่างได้มากถึง 1 ล้านล้านกลิ่น จนเรียกได้ว่าการรับกลิ่นถือเป็นประสาทสัมผัสที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์เรา

นอกจากนี้การรับกลิ่นของมนุษย์ยังเชื่อมต่อโดยตรงไปทำปฏิกิริยากับสมองส่วน Amygdala และ Hippocampus ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวพันกับอารมณ์ ความรู้สึก ความทรงจำ ทำให้กลิ่นบางกลิ่นจะสามารถทำให้เรารู้สึกดี บางกลิ่นสามารถกระตุ้นให้นึกถึงความหลัง อีกทั้งกลิ่นหอมบางกลิ่นยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดี

ด้วยความสำคัญขนาดนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชายส่วนใหญ่นั้นใส่ใจกับกลิ่นกายที่หอมกรุ่นละมุนละไม ต่างมองหาน้ำหอมกลิ่นที่ใช่มาปลุกเร้าความมั่นใจให้เต็มร้อย แต่การจะหาน้ำหอมที่เหมาะสมกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลก็ดูเป็นเรื่องปวดหัวไม่ใช่น้อย หลายคนผ่านการลองผิดลองถูกมาแล้วหลายครั้งหลายครา กว่าจะเจอน้ำหอมคู่ใจที่เข้ากันได้กับตัวเองอย่างแท้จริง ในวันนี้เราจึงอาสาคลายปัญหากวนใจ ด้วยการเปิดตำราวิชาเฟ้นหาน้ำหอม 101 เอาไว้ให้มือใหม่ทั้งหลายนำไปใช้ในการเลือกน้ำหอมขวดใหม่ที่ใช่ที่สุด

พร้อมปิดท้ายด้วยเคล็ดไม่ลับในการอัพเกรดกลิ่นน้ำหอมให้หอมทนนาน หอมชัดเจนตรงปก ไร้กลิ่นแปลกปลอมมากวนใจ ด้วย MARO BODY FACE Cleansing Soap เจลอาบน้ำนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น ช่วยล็อกกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ให้สลายกลายเป็นศูนย์ หนุ่ม ๆ ที่ใช้น้ำหอมไม่ต้องกลัวกลิ่นเพี้ยน ขวดเดียวใช้ได้ทั้งร่างกายและใบหน้า ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเชิญอ่านต่อได้เลย


 

เข้าใจในความต่างก่อนเลือกน้ำหอม: EDC, EDT, EDP อักษรย่อลึกลับเหล่านี้ ที่หลายคนมักจะเห็นปรากฎอยู่บนขวดน้ำหอมมันคืออะไร? สำหรับใครที่ผ่านการใช้น้ำหอมมาบ้างน่าจะพอรู้ความหมายเป็นอย่างดี แต่สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาน้ำหอมขวดแรกมาใช้เสริมความมั่นใจ ยังไงก็คงต้องมีงงกันบ้าง

ดังนั้นก่อนจะเข้าสู่สเต็ปของการเลือกน้ำหอม เราขอเริ่มต้นด้วยการแถลงไข อธิบายความหมายอักษรย่อเหล่านี้ ซึ่งมีไว้จำแนก แยกความแตกต่างของประเภทน้ำหอมทั้งหลาย เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้สามารถเลือกน้ำหอมแบบที่ใช่ได้ตรงจุด ตรงใจ เหมาะสมกับความต้องการอย่างลงตัว

  • EDC (Eau de Cologne) ตัวอักษรเหล่านี้เป็นตัวย่อมากจากชื่อเต็มของน้ำหอมประเภทต่าง ๆ ในภาษาฝรั่งเศส และถูกใช้ทั่วไปในระดับสากล เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ประเทศต้นกำเนิดน้ำหอม โดย EDC หรือ Eau de Cologne หลายคนน่าจะคุ้นเคยในชื่อของโคโลญจ์ ซึ่งเป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ประมาณ 2% – 4% ที่เหลือจะเป็นส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น น้ำ, น้ำมัน และแอลกอฮอล์ ซึ่งน้ำหอมประเภท EDC จะคงกลิ่นหอมอยู่ที่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
  • EDT (Eau de Toilette) สำหรับน้ำหอมประเภทนี้ จะมีกลิ่นที่เข้มข้นขึ้นกว่าโคโลญจ์ แต่ไม่ได้เข้มข้นจนเกินไป เป็นประเภทน้ำหอมผู้ชายที่พบเจอตามเคาน์เตอร์ได้บ่อยที่สุด มีระดับราคากำลังดี นิยมใช้ในชีวิตประจำวัน ฉีดไปเรียน ฉีดไปทำงาน ได้กลิ่นหอมกำลังดี มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมประมาณ 5% – 10% ให้กลิ่นหอมติดตัวในระยะเวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง
  • EDP (Eau de Parfume) น้ำหอมประเภทนี้ส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ประมาณ 15% – 20% ให้กลิ่นที่มีความเข้มข้นสูง อาจไม่เหมาะกับการเจออากาศร้อน หรือพื้นที่แออัดสักเท่าไหร่ ซึ่งในสมัยก่อนน้ำหอมประเภท EDP จะเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงด้วยกลิ่นหอมที่จัดจ้านติดทนนาน และกระจายกลิ่นได้ดี แต่ในปัจจุบันเริ่มมีน้ำหอม EDP สำหรับผู้ชายให้เลือกใช้บ้างเหมือนกัน โดยน้ำหอม EDP จะให้กลิ่นหอมยาวนานประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

 

กลิ่นที่ใช่ อย่าให้ใครมาเลือกแทน: หลังจากเข้าใจความต่างของน้ำหอมแต่ละประเภทไปแล้ว สเต็ปถัดไปก็ได้เวลาเรียนรู้วิธีเลือกหาน้ำหอมขวดที่ชอบ กลิ่นที่ใช่ กลิ่นไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง

กฎในการเลือกน้ำหอมข้อแรกที่ไม่ควรละเลย คือไม่ควรให้คนอื่นเลือกน้ำหอมให้ ด้วยความหลากหลายของกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคน ซึ่งมีปัจจัยที่ทำให้กลิ่นประจำกายนั้นมีความแตกต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอายุ ฮอร์โมน อาหารการกิน พฤติกรรมการใช้ชีวิต ฯลฯ ทำให้ต้องจำเอาไว้ว่า น้ำหอมที่ใช่ ตัวเองต้องเป็นคนเลือกถึงจะเหมาะที่สุด

สำหรับวิธีการเลือกน้ำหอมที่สะดวกที่สุดคือการตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์น้ำหอมที่ห้างใกล้บ้าน อาจทำการบ้านด้วยการจดแบรนด์ จดกลิ่นที่อยากลองมาสัก 2 – 3 กลิ่น แต่ไม่ควรเกิน 4 กลิ่นต่อวัน เพราะจุดสำหรับทดสอบน้ำหอม จะอยู่ที่บริเวณข้อมือ 2 ข้าง และข้อพับแขนทั้ง 2 ข้าง รวมแล้วเป็น 4 จุดนั่นเอง

ที่สำคัญคืออย่าตัดสินใจเลือกซื้อน้ำหอมจากแผ่นกระดาษตัวอย่างกลิ่นที่พนักงานขายมักจะยื่นให้ เพราะการจะรู้ได้ว่ากลิ่นน้ำหอมที่เล็งไว้สามารถเติมเต็มกลิ่นกายตามธรรมชาติของเราได้มากน้อยแค่ไหน จำเป็นจะต้องอาศัยการฉีดลงบนผิวโดยตรง

เมื่อฉีดน้ำหอมแต่ละกลิ่นลงบนจุดทอดสอบบริเวณข้อมือ และข้อพับเรียบร้อย ให้ทดลองดมกลิ่น และจดบันทึกลักษณะของกลิ่นท็อปโน้ตที่ได้ ว่ากลิ่นไหนให้ความรู้สึกอย่างไร เราชอบกลิ่นไหนเป็นพิเศษ โดยระหว่างการทดลองดมแต่ละกลิ่น ให้ทำการรีเซ็ตประสาทรับกลิ่นด้วยเครื่องดื่มประเภทชาหรือกาแฟ จะช่วยให้แยกกลิ่นได้อย่างไม่สับสน

และต้องบอกว่าการทดสอบกลิ่นไม่ได้จบแค่ท็อปโน้ต หรือกลิ่นแรกที่สัมผัส ควรให้เวลาน้ำหอมได้ทำงานกับผิวกาย ด้วยการออกไปเดินเล่นช้อปปิ้ง หาอะไรกินรอบห้าง สลับกับการลองดมกลิ่นน้ำหอมจากแต่ละจุดที่ฉีดไว้ ซึ่งจะทยอยกันส่งกลิ่นที่แตกต่างออกมาทั้ง มีเดียมโน้ต และเบสโน้ต พร้อมจดบันทึกลักษณะของกลิ่น เพื่อผลลัพธ์คือคำตอบของกลิ่นที่ใช่ กลิ่นที่ชอบที่สุดทั้งท็อปโน้ต มีเดียมโน้ต และเบสโน้ต แม้เวลาจะผ่านไปแล้ว 1 – 2 ชั่วโมง

TIPS: การเลือกซื้อน้ำหอมที่เหมาะสมไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่าจะต้องเลือกให้ได้ครั้งเดียวจบสมบูรณ์แบบตั้งแต่กลิ่นแรก เพราะเราสามารถตกลงปลงใจเป็นเจ้าของน้ำหอมขวดที่ชอบได้มากมายหลายกลิ่น ขอแค่ยึดหลักการเลือกน้ำหอมไว้เป็นแนวทางเพื่อเปิดโลกแห่งกลิ่นหอมอีกมากมายที่เหมาะสมกับกลิ่นกายตามธรรมชาติของเราก็พอ


 

อยากหอมเต็มที่ ต้องมีกลยุทธ์: แม้จะใช้เวลาเลือกหาจนได้น้ำหอมที่ถูกใจ ได้กลิ่นที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว แต่ใช่ว่าเรื่องจะจบ เพราะหลายคนคงเคยประสบกับปัญหาต่อเนื่อง เรื่องกลิ่นหอมที่ไม่ค่อยชัด กลายเป็นจัดหนักประโคมฉีดน้ำหอมเข้าไปยกใหญ่ จนท้ายที่สุดต้องมีเพื่อนสนิทหน่วยกล้าตายเอ่ยปากว่ากลิ่นน้ำหอมของนายมันชวนเวียนหัว เมื่อรู้ตัวก็ช็อตฟีลไปไม่ใช่น้อย

“Fragrance should be discovered, not announced.” จากปัญหาที่กล่าวมา ต้องบอกว่าโควทนี้อธิบายคอนเซ็ปต์ของการใช้น้ำหอมได้เห็นภาพที่สุด เพราะความหอมควรเป็นสิ่งที่คนรอบกายได้ค้นพบความหอมนั้น ไม่ใช่เป็นการประกาศโดยเจ้าตัวว่าฉันนี่แหละฉีดน้ำหอมแบรนด์หรูมาชุดใหญ่ ดังนั้นเราจึงขอสรุปเป็นหลักการง่าย ๆ ไม่กี่ข้อ ที่จะทำให้การใช้น้ำหอมนั้น Work สุด ๆ

  • SPRAY PERFUME ON DRY SKIN: ฉีดน้ำหอมบนผิวที่แห้งหลังอาบน้ำ ถือหัวฉีดสเปรย์ห่างจากผิว 3-6 นิ้วขณะฉีด และไม่ควรฉีดลงบนเสื้อผ้า เพราะน้ำมันจากหัวน้ำหอมจะหมดโอกาสทำปฏิกิริยากับผิวกาย จนทำให้ไม่ได้โน้ตของกลิ่นตามที่ควรจะเป็น
  • APPLY FRAGRANCE TO HEAT AREAS: ควรฉีดน้ำหอมในโซนร้อนของร่างกาย เพราะความร้อนจากร่างกายจะช่วยกระจายกลิ่นได้ตลอดทั้งวัน ในภาษาน้ำหอมเรียกว่า Sillage ซึ่งหลายคนคงมีประสบการณ์ได้กลิ่นน้ำหอมที่หอมจนถึงกับต้องเหลียวหลัง โดยจุดต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับการฉีดน้ำหอมคือบริเวณ หน้าอก, ต้นคอ, ขากรรไกรล่าง, ข้อมือ, ข้อพับแขน และหัวไหล่
  • START LIGHT: แม้จะมีจุดยุทธศาสตร์โซนร้อนในร่างกายที่เหมาะให้ฉีดน้ำหอมหลายจุด แต่สำหรับมือใหม่บอกเลยว่าอย่ารีบร้อนฉีดน้ำหอมแบบจัดเต็มทั่วร่าง อาจเลือกเพียงจุดเดียวบริเวณกลางหน้าอกในการฉีด เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับกลิ่น แล้วค่อยเลือกฉีดน้ำหอมบริเวณอื่นก็ยังไม่สาย
  • DON’T KILL THE NOTE: หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการเอามือถูบริเวณผิวกายที่ฉีดน้ำหอมลงไปจะช่วยกระจายกลิ่นให้หอมชัด หอมไกลมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วการกระทำแบบนั้นเป็นการทำลายพันธะโมเลกุลของน้ำหอม ทำให้กลิ่นหอมจางลงกว่าที่ควรจะเป็น

และนอกจากกฎพื้นฐานการฉีดน้ำหอมข้างต้น ล่าสุดยังมีไอเทมใหม่อย่าง MARO BODY & FACE Cleansing Soap เจลอาบน้ำ + ล้างหน้า ซึ่งมาพร้อมนวัตกรรมโคตรล้ำจากญี่ปุ่น ที่กระทำการ Set Zero ทุกกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ ให้เริ่มต้นทุกวันด้วยกลิ่นกายสะอาดสดชื่น พร้อมให้ฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดได้อย่างมั่นใจว่าหอมชัดตรงปก หอมทนนาน กลิ่นไม่เพี้ยนเพราะโดนกลิ่นไม่พึงประสงค์กลบแน่นอน

แล้วอะไรที่ทำให้ MARO BODY & FACE Cleansing Soap เป็นไอเทมเด็ดสำหรับผู้ชายฉีดน้ำหอมได้ดีขนาดนี้ เชิญติดตามกันต่อเพราะเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง


 

หากใครติดใจแชมพู MARO ซึ่งมีทั้ง Maro 3D Volume Up แชมพูที่เพิ่ม texture สร้างวอลลุ่มให้ผมจัดทรงง่ายสไตล์ญี่ปุ่น และ Maro 17 Black+ ที่มาพร้อมนวัตกรรมคืนผมขาวให้กลับมาดำ ด้วยการกระตุ้นเม็ดสีจากรากผมครั้งแรกในโลก บอกเลยว่า MARO BODY & FACE Cleansing Soap ก็ยังคงมาพร้อมนวัตกรรมล้ำ ๆ จากญี่ปุ่น มี 2 สูตรให้เลือกใช้ทั้งสูตรปกติ และสูตรเย็นตอบโจทย์หนุ่ม Asia อย่างเรา ๆ เหมือนเช่นเคย

โดย MARO BODY & FACE Cleansing Soap นั้นมาพร้อมส่วนผสมที่ใช้สารสกัดจากพืช 100% ทำความสะอาดร่างกาย รวมถึงใบหน้าได้อย่างอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตรกับผิว ช่วยขจัดน้ำมัน สิ่งสกปรก เหงื่อ และกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ พร้อมเติมเต็มความรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าทุกครั้งที่อาบน้ำด้วยกลิ่นซิตรัสอ่อน ๆ

ซึ่งนวัตกรรมที่ทำให้ MARO BODY & FACE Cleansing Soap นั้น Set Zero กลิ่นกายกวนใจได้เต็มที่ พร้อมให้ฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดได้อย่างมั่นใจ นั่นก็เพราะส่วนผสมคุณภาพสูงเหล่านี้

  • CYCLODEXTRIN: สารระงับกลิ่นชนิดออกฤทธิ์เร็ว ทำหน้าที่ดูดซับและขจัดต้นตอของกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่หลงเหลืออยู่บนผิวหนัง
  • SACCHAROMYCES / PERSIMMON FRUIT JUICE FERMENT EXTRACT: สารสกัดจากลูกพลับ ถิ่นกำเนิดจากเมืองเอฮิเมะ ตอนใต้ของญี่ปุ่น มีคุณสมบัติในการดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ รวมถึงช่วยยับยั้งแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์บำรุงผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม
  • ISOPROPYL METHYLPHENOL: สารยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ระงับกลิ่นด้วยการยับยั้งแบคทีเรียบนผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง
  • PROTEOLYTIC ENZYME: เอนไซม์ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะติดแน่นบนผิวหนัง ด้วยการย่อยโปรตีนให้เล็กลง

 

และต้องบอกว่า MARO BODY & FACE Cleansing Soap ไม่ได้โดดเด่นล้ำหน้าแค่งานขจัดกลิ่น เพราะงานผิวที่ดีก็พร้อมจัดให้ด้วยสารบำรุงผิวมากมายที่ทำให้ผิวหน้า และผิวกายสะอาดล้ำลึก ผิวดูสุขภาพดี เนียนนุ่มกระจ่างใส ได้ในขวดเดียว กับคุณสมบัติเด่นจากส่วนผสมมากมายเหล่านี้

  • COCAMIDE DEA: สารเพิ่มฟองที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ฟองนุ่มละมุน พร้อมคุณสมบัติทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก
  • CAMELLIA SINENSIS LEAF EXTRACT: อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต่อต้านริ้วรอย
  • HUMULUS LUPULUS (HOPS) FLOWER EXTRACT: ช่วยชะลออายุผิว ยับยั้งปฏิกิริยาการทำลายโครงสร้างคอลลาเจนจากรังสี UV พร้อมปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนลดอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน ช่วยระงับอาการแพ้ การอักเสบ สมานผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น
  • PERSEA GRATISSIMA (AVOCADO) OIL: อุดมไปด้วยวิตามิน A, D, E และ Lecithin รวมถึง Potassium นอกจากนี้ยังมี โปรตีน และกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นเหมาะสำหรับทุกผิว โดยเฉพาะผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น ช่วยให้ความชุ่มชื้น, ช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง, ชะลอปัญหาผิวแก่ก่อนวัย, ลดจุดด่างดำ และรอยแผลเป็น พร้อมช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ฟื้นฟูสภาพผิว และเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวหน้าและผิวกาย

 

จากคุณสมบัติมากมายที่กล่าวมา ต้องยอมรับว่า MARO BODY & FACE Cleansing Soap ทั้ง 2 สูตร คือเจลอาบน้ำที่มีความโดดเด่นเกินหน้าสบู่สำหรับผู้ชายทั้งหมดที่เราเคยสัมผัส ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่ก้าวข้ามจากการเป็นเจลอาบน้ำทำความสะอาดทั่วไป สู่ความเป็น Authentic Gear for Men ซึ่งทำหน้าที่ล็อกกลิ่นไม่พึงประสงค์จากร่างกาย Set Zero กลิ่นกายกวนใจให้หายเป็นปลิดทิ้ง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชายได้อย่างครอบคลุมครบถ้วน

บอกเลยว่าเหมาะมากสำหรับคนฉีดน้ำหอม ช่วยแก้ปัญหากลิ่นเพี้ยนไม่ตรงปก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำหอมกลิ่นโปรดให้ดียิ่งขึ้นโดยไม่ต้องฉีดเยอะจนชวนเวียนหัว แม้กระทั่งคนที่ไม่ฉีดน้ำหอม MARO BODY & FACE Cleansing Soap ก็พร้อมคืนความมั่นใจด้วยกลิ่นสะอาดสดชื่นยาวนาน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารบำรุงผิวมากมาย ใช้ทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายได้สบายใจไร้กังวล ถือเป็นเจลอาบน้ำแบบ All-in-One ที่เข้าใจและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้ชาย Asia ได้อย่างแท้จริง


 

อ่านมาถึงตรงนี้ อยากบอกว่านวัตกรรมที่น่าสนใจทั้งหลายของ MARO BODY & FACE Cleansing Soap คงไม่เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ หากไม่มีใครคิดจะลอง

งานนี้เลยต้องย้ำกันอีกที สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหากลิ่นกายไม่พึงประสงค์ จงรีบไปจัด MARO BODY & FACE Cleansing Soap มาขจัดกลิ่นกายกวนใจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำหอมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมบำรุงหน้าใสไปในตัว ยืนยันความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองใช้ เพราะตอนนี้ MARO BODY & FACE Cleansing Soap ได้กลายเป็นเจลอาบน้ำคู่ใจเราไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน

พบกับ MARO BODY & FACE Cleansing Soap เจลอาบน้ำสุดล้ำนวัตกรรมใหม่จากญี่ปุ่น ช่วยขจัดกลิ่นกายไม่พึงประสงค์ได้อยู่หมัด ขวดเดียวจบทั้งร่างกายและใบหน้า ได้แล้วทั้ง 2 สูตรปกติ และสูตรเย็น ที่ Tops, Watsons, Donki, Tsuruha, UFMFuji, EVEANDBOY, ร้านขายยา P&F และร้านยาชั้นนำทั่วไป

นำเข้าโดย บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด (ในเครือสมูทอี)

#MAROThailand #MAROBODYnFACE #UNLOCKMEN

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line