ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ จาก 3 แรงบันดาลใจของนักธุรกิจรุ่นใหม่ สู่ ‘บ้าน’ ที่สะท้อนทุกมิติแห่งความหลงใหล

“บ้านในฝันของคุณ มี Home Checklist ทั้งหมดกี่ข้อ ?”

ต้องมาพร้อมกับ Prime Location ทำเลที่อยู่อาศัยใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในทุก Circle ของชีวิต ไปจนถึงทั้ง Exterior และ Interior ดีไซน์แบบที่จำเป็นที่ต้องมีพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์กับทุกคนในบ้านใช่หรือเปล่า ? ถ้าหากว่าบ้านในฝันมีความหมายเท่ากับสิ่งที่ว่ามาทั้งหมด ที่ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ คือโครงการบ้านที่คุณกำลังฝันถึง 

ไม่เท่านั้น ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ เป็นมากยิ่งกว่าที่อยู่อาศัยที่คนมองหาบ้านเดี่ยวจะฝันถึงซะอีก ด้วยการมีพื้นที่ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของประชาชื่น และเป็นโปรเจกต์ที่เรียกได้ว่า เกิดขึ้นจาก ‘แพชชั่น’ ของคนรักรถแบบสุดตัว พร้อมกับอยากเปลี่ยนให้สิ่งที่รักได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน และไม่ใช่แค่แพชชั่นเดียว ! แต่ผสานขึ้นจาก 3 แพชชั่นของ 3 นักธุรกิจรุ่นใหม่ จาก Monochrome Asset Co. ผู้พัฒนาโครงการ ที่ตอบโจทย์ทั้ง Life และแสดงออกถึง Style ของผู้อยู่อาศัย

• ‘Home For Supercar People’ บ้านที่ตอบโจทย์ผู้หลงใหลความเร็ว สะท้อนผ่าน Decorate Design และห้องพิเศษเพื่อคนรักซุปเปอร์คาร์โดยเฉพาะ ที่เกิดจาก Developer ดีลเลอร์รถ Supercar ผู้หลงใหลใน Porsche ตัวจริง 
• ‘Home For Furniture Lover & Interior Craftsmanship Design’ : บ้านซึ่งเกิดจากความหลงใหลของ Developer ผู้ทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบภายใน กลายเป็นการวางเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกหลักสรีรศาสตร์และสุนทรียศาสตร์ ทั้งให้ความลงตัว และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องกับทุกจุดของบ้านในทุกอิริยาบท 
• ‘Home For Hotel Best Service’ : ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาว และเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ มากกว่า 1,000 ห้อง ที่สั่งสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 10 ปี ของ Developer คนสุดท้าย เกิดเป็นบ้านแห่งฟังก์ชันการใช้ชีวิตภายในที่สะดวกสบายจนไม่อยากออกไปไหน 

ทั้ง 3 สิ่งเหล่านี้เอง คือจุดเริ่มแห่งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ให้สะท้อนทุกมิติของความหลงใหล ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกของอสังหาริมทรัพย์ ณ ช่วงเวลานี้

ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ได้ดีไซน์แบบบ้านที่ “Keep Some Space Empty” เว้นที่ว่างอย่างพอดีที่มากพอให้ผู้อยู่อาศัยย้ายเข้าบ้านเพื่อเอาแพชชั่นของตัวเองไปเติมความชอบในการอยู่อาศัยได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเริ่มต้นเองตั้งแต่ศูนย์​ พร้อมกับส่งต่อเป็นมรดกที่ทรงคุณค่าภายใต้แนวคิด “Live Your Legacy” ไม่ใช่แค่คุณที่อยู่อาศัยในช่วงเวลาของตัวเอง แต่ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ อยากให้บ้านหลังนี้ได้กลายเป็นโมเมนต์ ความทรงจำ และเรื่องราวของคนในรุ่นถัดไปที่คุณรักเหมือนที่คุณก็รักบ้านหลังนี้เหมือนกัน

ในฐานะที่ UNLOCKMEN เป็นสื่อแรกที่ทาง Monochrome Asset Co., Ltd. เปิดให้เราได้เยี่ยมชมบ้านในโครงการ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ เพราะฉะนั้นเราจะขอทำการ Home Tour ในทุกส่วนอย่างละเอียดของบ้าน 3 ชั้นครึ่ง ตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้นบนสุด ที่เรากล้ารับรองได้ว่าทุกจุดของบ้านคือการอาศัยอยู่ท่ามกลางแพชชั่นของคนที่หลงใหลในสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างที่สุดจริง

คำถามที่ใช้ถามไปตอนต้นของบทความ ไม่ว่าบ้านในฝันของคุณจะมี Home Checklist อยู่กี่ข้อ แต่สำหรับ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ บ้านในฝันที่ดีที่สุด ต้องมี Home Checklist เพียงข้อเดียวแล้วครอบคลุมกับทุกข้อ นั่นคือการสามารถตอบโจทย์ ‘ตัวตน’ ของผู้อยู่อาศัย เช่นบ้านตัวอย่างหลังนี้ ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวของเจ้าของโครงการกับผลงาน Art Piece by Sandier จึงเลือกที่จะตกแต่งโซนนี้ด้วยงาน Art ที่ได้มีโอกาส Collab กับ Artist ชื่อดังคนนี้ด้วย

แล้วถ้าถามว่าหน้าตาของบ้านที่ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ออกแบบมีหน้าตาเป็นยังไง ก็ต้องบอกว่าให้ความรู้สึกของ Bespoke House ซึ่งทำขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตัวตนของผู้ชายแบบที่ต้องการ Man Cave พื้นที่ปลอดภัยให้ตัวเองได้ปลดล็อกแสดงออกสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่ ก็เรียกว่ามีความ Home For Urban Men Living อย่างเต็มเปี่ยม 

สัมผัสแรกที่ทำให้ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ พิเศษยิ่งกว่าโครงการบ้านเดี่ยวไหน ๆ คือ Mood Design อันยอดเยี่ยม ซึ่ง Developer ทั้ง 3 ได้ตั้งใจวางให้ทุกช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตในบ้านมีความพิเศษแตกต่างกันออกไป ‘ช่วงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้น (Daytime)’ เป็นชีวิตของการเริ่มต้นวันใหม่ ผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในผสานกับภายนอกให้ธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมกับชีวิตในแทบจะทุกจุดของบ้าน ไม่ว่าจะ Lighting, Nature, View สร้างการใช้ชีวิตด้วยความ Comfortable & Flexible อย่างสบายใจ ‘ช่วงเวลาค่ำคืน (Nighttime)’ นี่คือบ้านที่พอยิ่งมืดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเท่มากขึ้นเท่านั้น ด้วยวัสดุ คู่สี ไปจนถึงไฟที่วางไว้ทุกจุด จะยิ่งทำให้บ้านยิ่งมีเสน่ห์ในตัวเองมากขึ้นไปอีก

เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ชั้น 1 ของ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ บ้านแห่งนี้ต้อนรับผู้อยู่อาศัยและแขกที่มาเยือนด้วยความหรูหราของ ‘Supercar Lounge’ หนึ่งในโซนไฮไลต์ที่สุดของบ้าน ซึ่งเปลี่ยนให้พื้นที่จอดรถกลายเป็น Luxury Garage พื้นที่พิเศษเพื่อฉลองความหลงใหลของเหล่าลูกบ้านผู้ลุ่มหลงในความเร็ว

นอกจาก Garage Zone สำหรับจอดรถในเลานจ์ 2 คัน และหน้าบ้านอีก 2 คันแล้ว โซนนี้ได้แบ่งสรรพื้นที่ไว้เป็นอย่างดี โดยการสร้างพื้นที่ Space Show Case ซึ่งเป็นเสมือน ‘Private Gallery’ ให้คุณได้ตกแต่งวางความหลงใหลตัวเองไม่ว่าจะเป็นสิ่งของแบบไหนบนชั้นวางที่เลือกใช้วัสดุของไม้ซึ่งสร้างคู่สี Warm Tone ขับความพรีเมียมให้กับทุกแพชชั่นของคุณให้เพอร์เฟกต์ที่สุด 

อีกความพิเศษของโซนนี้คือการเล่นกับความรู้สึกของโซนที่เปี่ยมด้วยแพชชั่น ผ่าน Lighting Design สร้างอารมณ์ของ Low Key Tone (ตอนกลางคืนจะงดงามเป็นพิเศษ) เหมาะกับพื้นที่ของ Man Cave ไฟเหล่านั้นก็ยังตกกระทบลงไปบนที่ Supercar คันรักของคุณที่ยิ่งมองก็ยิ่งชวนหลงใหล พร้อมทั้งมีเนื้อที่มากพอที่จะให้คุณและเพื่อนได้ใช้เวลาแบ่งปันแพชชั่นของความเร็วที่มีต่อกัน และไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จอดรถแห่งนี้จะทำให้รถรุ่นพิเศษเสียหายรึเปล่า เพราะว่า Supercar Lounge ดีไซน์อย่างพิถีพิถันจาก Developer ผู้เป็น Porsche Mania เพื่อปกป้องรถด้วยการวางองศาที่จอดรถ คิดให้มีระดับความสูงให้ไม่ขูดกับช่วงล่างของรถ เป็นพื้นที่ปลอดภัยของคนรักรถอย่างแท้จริง 

เดินตัดผ่านชั้น 1 เข้าสู่ตัวบ้าน ก่อนที่จะขึ้นสู่ชั้น 2 ของบ้าน ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ สร้างอีกหนึ่งห้องพิเศษ ที่อยากบอกกับผู้อยู่อาศัยว่าถึงแม้คุณจะอยู่ในย่านเมือง แต่ว่าเราก็อยากให้ลูกบ้านได้มี “Green Living Life” อยู่ล้อมรอบ ห้องไซส์ขนาดกลางที่มีกระจกเชื่อมไปยัง Outdoor Zone ให้คุณได้แต่งสวนข้างบ้าน จะนั่งเคลียร์งานชิล ๆ หรือนั่งอ่านหนังสือ ก็พร้อมจะฮีลให้กับทุกการใช้ชีวิตของคุณ    

บ้านที่แสดงออกถึงความเป็น ‘Home For Hotel Best Service’ ของ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ คือการเลือกติดตั้ง ‘Private Home Lift’ เชื่อมต่อกับทุกชั้นของบ้านให้ทุกวันในการใช้ชีวิตภายในบ้านสบายยิ่งกว่าเดิม และตอบโจทย์ความเป็น Friendly Use กับทุกวัยของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าหลังจากนี้ครอบครัวของคุณจะเติบโตและมีสมาชิกใน Generation ไหนเกิดขึ้นอีกก็ตาม

ไม่มีอะไรจะตอบโจทย์กับพื้นที่ของ Family Living ได้ดีไปกว่า Living Room ที่ออกแบบให้เพดานของห้องเป็น Double Volume สูงโปร่งถึงขนาด 6 เมตร โอบล้อมด้วยกระจก Full-Height Window รอบด้านให้คุณและคนที่รักได้ใช้เวลา Quality Times ร่วมกัน ท่ามกลางแสงธรรมชาติที่ลอดเข้าห้องมาอย่างพอดี วิวทิวทัศน์ของพื้นที่สวนธรรมชาตินอกบ้าน ที่ท้องฟ้าในยามเช้าสามารถให้เรามองเห็นก้อนเมฆและท้องฟ้าได้อย่างสบายตาสบายใจ เหมาะแก่การเริ่มต้นด้วยกาแฟของวันใหม่ แพลนตารางชีวิตประจำวัน หรือจะคุยงานกัน พื้นที่แห่ง Cozy Vibe ของห้องนี้ก็เหมาะอย่างที่สุด และเมื่อเข้าสู่ตอนกลางคืนเมื่อไหร่ คุณก็จะได้ช่วงเวลาในพื้นที่เดียวกันอย่างโรแมนติกไปกับภาพของดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งพื้นที่ Private Space ของห้องนี้ ยังได้จัดสรรส่วนหนึ่งของห้องให้เป็น Dining Room ให้ผู้อยู่อาศัยได้เอ็นจอยโมเมนต์เหล่านี้อีกด้วย

ในเมื่อ Living Room ได้วางพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็น Dining Room แล้ว เพื่อตอบโจทย์ที่สุดจึงได้ทำการวาง Kitchen Room เอาไว้ในชั้นเดียวกัน โดยแบ่งเป็นครัวฝรั่งในโซนภายในของตัวบ้าน และครัวไทยในโซนนอกบ้านอย่างชัดเจน แถมยังเลือกที่จะ Built-in อุปกรณ์สำคัญอย่างเตา ไมโครเวฟ และตู้เย็นซ่อนเอาไว้ในผนัง เพื่อสร้างความเป็น Fuctional Design ของตัวบ้านให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

เดินขึ้นสู่ ‘Mezzanine Floor (ชั้นลอย)’ ที่จัดสรรให้เป็นห้องนอนขนาดกลางของบ้านหลังนี้ ซึ่งชั้นนี้จะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ของ Living Room ทำให้เมื่อเดินออกมาที่โถงทางเดิน เราจะสามารถ Connect กับคนอื่น ๆ ในบ้านได้แบบที่ไม่จำเป็นที่จะต้องลงไปหากันเลย

ต้องบอกว่าห้องนอนของชั้น Mezzanine Floor ถูกคิดมาเพื่อให้เป็น Private Bedroom ห้องนอนขนาดกลางสำหรับเป็นห้องส่วนตัวสำหรับนอนคนเดียว หรือใช้เป็น Guest Room ในวันที่เพื่อนมาค้างที่บ้านก็ดูจะเหมาะไม่เลวเหมือนกัน ความพิเศษของห้องนี้คือ Work Desk พื้นที่ทำงานซึ่งให้เราได้มองลอดผ่านหน้าต่างเห็นวิวของภายนอก ทำให้ไม่รู้สึกว่านี่คือห้องส่วนตัวที่ตัดขาดจากโลกจนรู้สึกอึดอัด แต่ทำให้ความเป็นส่วนตัวของห้องซึ่งรู้สึกสบายใจที่จะใช้ชีวิตไม่ต่างจากส่วนอื่น ๆ ของ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ เลย

ส่วนตัวเราชอบมากเลย ที่ทาง ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ เลือกใช้คำว่า “We Offering A Blank Canvas For Your Personal Style” ซึ่งเป็นคำที่ใช้นิยามให้กับห้องอเนกประสงค์ (Personal Space) ของชั้นที่ 3 ห้องซึ่งคุณสามารถใช้ Lifestyle ของตัวเองเลือกได้เลย 

จะเปลี่ยนให้ห้องนี้เป็นสเปซสำหรับ Mancave เก็บของสะสมส่วนที่สะท้อนถึงความหลงใหลทั้งชีวิตของตัวเอง เปลี่ยนให้เป็น Party Room ที่อาจจะใช้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cinema Decorate เป็นห้องสำหรับดูหนังด้วยประสบการณ์ภาพยนตร์ไปกับคนรักและเพื่อน เปลี่ยนให้เป็น Home Office Room ห้องทำงานของคนยุคใหม่ที่มีอุปกรณ์ตอบโจทย์ความเป็น Worker Guy ของตัวเอง หรือจะทำเป็น Walk-in closet เพื่อ Suit Your Outfit ให้ดูดีที่สุดในทุกวันก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าพื้นฐานของห้องนี้เกิดจากสถาปนิกของ ASCARI ได้เลือกใช้วัสดุเกรด High Quality ในทุกจุด พร้อมให้คุณปรับเปลี่ยนเป็นห้องของตัวเองได้อย่างดีที่สุด

ปิดท้ายกันที่ห้องซึ่งแสดงความเป็นที่สุดของความเป็นส่วนตัวของ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ กับประสบการณ์พักผ่อนแบบ Exclusive Penthouse ห้อง Master Bedroom ที่ให้ความรู้สึกของการที่คุณได้พักผ่อนอยู่ในโลกที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง 

ห้องนี้ยังคงเลือกใช้กระจกแบบ Full-Height Window ให้ธรรมชาติภายนอกได้สร้างเติมเต็มความรู้สึกสบายใจสมกับเป็นห้องที่ฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์ความผ่อนคลาย และห้องนี้ยังโดดเด่นด้วยการวางเส้นสายของ Lighthing Design สมกับเป็น Man Cave ของผู้ชาย รวมถึงการเลือกใช้ลวดลายวัสดุตัวหัวนอนที่มีเสน่ห์ ตอบโจทย์ความเป็นห้องนอนแบบ “A Heaven Of Sophistication” คำที่ทาง ASCARI เลือกใช้นิยามความรู้สึกของความสบายราวกับสวรรค์ของห้องนี้  

เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าทำเลแบบ Prime Location คือหนึ่งในสิ่งสำคัญของการเลือกมีที่พักอาศัยเป็นของตัวเอง ซึ่งนอกเหนือจากฟังก์ชันของการอยู่อาศัยที่ลงตัวตอบโจทย์ความเป็นตัวเองที่เล่าไปทั้งหมดแล้ว ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ยังเป็นพื้นที่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ กับทำเลศักยภาพที่พร้อมเติบโตอย่างมีคุณค่าในอนาคตตอบโจทย์แนวคิด “Live Your Legacy” โดยการตั้งอยู่ในโซนของ ‘Rare Gem in the CBD Residential Area’ ทำเลของย่านประชาชื่นที่เป็นย่านเก่าแก่ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ และจะเติบโตมากกว่านี้ในอนาคต

• เพียง 4 กิโลเมตร ก็จะสามารถขึ้นทางด่วนศรีรัช สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนสายหลักหลายสาย ถนนประชาชื่น ถนนรัชดาภิเษก และถนนวิภาวดีรังสิต  
• ใกล้รถไฟฟ้านิดเดียว ! สถานีรถไฟฟ้าบางซ่อน (สายสีม่วง) แค่ 4.8 กิโลเมตร / และอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินบางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) แค่ 5.9 กิโลเมตร – นอกจากนี้ ด้วยระยะทางแค่ 10.8 กิโลเมตร ก็สามารถเดินทางสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้เลย
• พูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ยังใกล้กับ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น, เดอะมอลงามวงศ์วาน, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี รวมถึงใกล้สถานศึกษาชั้นนำของประเทศทั้ง st. andrews international school, brighton college bangkok และ kasetsart university เป็นต้น 

และส่วนที่สำคัญที่สุด นี่คือโครงการบ้านที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ของ Urban Serenity Redefined ซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวอย่างสวนรถไฟ และยังมีสวนสาธารณะขนาดย่อมหลายแห่ง รวมถึงถนนสายอุโมงค์ต้นไม้ที่ทางกรุงเทพมหานครจัดสรรไว้ให้อย่างสวยงาม เป็นนิยามใหม่ของความสงบใจกลางเมือง

บ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง เนื้อที่ 345 ตารางเมตร ของโครงการ ASCARI ‘VIBHAVADI-PRACHACHEUN’ ตอบโจทย์กับ Home Checklist ทุกข้อ สำหรับผู้ที่มองหาบ้านที่ฟังก์ชั่นครบกับชีวิต มีความเป็นส่วนตัว ใกล้กับพื้นที่สีเขียว ทั้งยังเชื่อมต่อกับทุกพื้นที่อำนวยความสะดวกในทุกด้าน โดยที่ไม่ได้เหมาะกับเพียงแต่ครอบครัวขนาดเล็ก หรือว่าคู่รักเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์กับครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ด้วยการจัดสรรพื้นที่ให้ชีวิตส่วนตัวอยู่ร่วมกับการใช้ชีวิตส่วนรวมได้อย่างลงตัว และดียิ่งกว่าด้วยการเป็นบ้านที่จะสามารถส่งต่อให้กับคนที่คุณรักเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดต่อไป

ASCARI วิภาวดี – ประชาชื่น บ้านเดี่ยว 3 ชั้นครึ่ง Soft Opening เปิดให้ชมบ้านตัวอย่างครั้งแรก 15 พ.ค. นี้ !

** ราคาเริ่มต้นที่ 29 – 45 * ล้าน มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ จองรับส่วนลดสูงสุด 4 ล้าน และ ฟรี ! แอร์ทั้งหลัง **

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร : 065-161-5656

Line: https://line.me/ti/p/cmB-BUNHYn

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ: https://bit.ly/3F2XI0L

#ASCARI #ASCARIVIBHAVADIPRACHACHEUN