Films

วิเคราะห์ AVENGERS: ENDGAME TRAILER 2 ตอบคำถามคาใจได้มากน้อยแค่ไหน?

By: TOIISAN March 17, 2019

หลังจากเปิดตัวภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนแรกของมาร์เวลอย่าง Captain Marvel ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน Marvel Cinematic Universe ก็ไม่รอช้าปล่อยตัวอย่างที่ 2 ของ Avengers: Endgame มาติด ๆ โดยเหล่าแฟนหนังไม่ยังไม่ได้พักหายใจ จากตัวอย่างครั้งนี้ก็มีฉากใหม่ ๆ กับคำถามที่ตามมาว่า Trailer นี้บอกข้อมูลอะไรกับเราบ้าง ?

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากบนโซเชียลมีเดียคือข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับชะตากรรมของโทนี่ สตาร์ค และเนบิวล่า ถ้าดูจากตัวอย่าง ทั้งสองคนสามารถกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย อาจเป็นไปได้ว่าทั้งสองคนพบ Captain Marvel กลางทาง อย่างไรก็ตามประสบการณ์ที่เหล่าแฟนหนังเคยได้รับจากแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล คือ อย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่างที่ Trailer บอก เพราะ MCU เคยสับขาหลอกคนดูด้วยตัวอย่างหนังมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

ในเรื่อง Thor: Ragnarok จากตัวอย่างทำให้รู้ว่าธอร์เทพเจ้าสายฟ้าสามารถปลดล็อกตัวเองทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ทั่วทั้งตัวรวมถึงดวงตาทั้งสองข้าง แต่ในภาพยนตร์กลับไม่เหมือน Trailer เพราะว่าธอร์สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งจากการต่อสู้กับพี่สาว

WhatCulture

นอกจากนี้ Avengers: Infinity War ก็เคยหลอกแฟน ๆ เรื่องจำนวน Infinity Stone บนถุงมือของธานอส เพราะความเป็นจริงคือธานอสได้ Reality Stone และ Soul Stone มาครอบครองเรียบร้อยแล้ว แต่ในตัวอย่างกลับไม่เหมือนกัน ดังนั้นถึงแม้ว่าทางค่ายจะเป็นคนปล่อยตัวอย่างออกมาเอง แต่อย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่ตัวอย่างหนังบอกทั้งหมดจะดีกว่า

ประเด็นต่อมาคือเรื่องราวของสายลับอย่าง Hawkeye หรือ คลินท์ บาร์ตัน และลูกสาวของเขาที่มีฝีมือยิงธนูแม่นไม่แพ้พ่อ คำถามที่ตามมาคือ เมื่อเขาลาวงการเพื่อไปใช้ชีวิตสงบสุขกับครอบครัว แล้วเพราะเหตุใดถึงทำให้คลินท์กลับเข้าสู่สงครามอีกครั้ง

อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาคือหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายที่หายไปจากการดีดนิ้วของธานอส และคลินท์อาจกลายเป็นโรนิน (ตัวละครฮอคอายในคอมมิกที่หันเข้าสู่ด้านมืด และเปลี่ยนชื่อเป็นโรนินเพราะครอบครัวของเขาถูกฆาตกรรม)

CBR

ยังไม่จบแค่นั้น การวิเคราะห์ยังโยงไปถึงลูกสาวยิงธนูแม่นของคลินท์ว่าอนาคตเธออาจเข้าร่วมกับกลุ่ม Avengers รุ่นใหม่ พร้อมกับข้อสันนิษฐานว่าเธออาจมีชื่อว่า Kate Bishop ก็เป็นได้ และตัวละครนี้เวอร์ชันคอมมิกจะเข้ามารับฉายา Hawkeye แทน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเคทก็ยังคงเป็นการคาดของแฟนคลับ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนยืนยันว่าลูกสาวของบาร์ตันคือตัวละครดังกล่าว

CBR

ผลจากการดีดนิ้วเพียงหนึ่งครั้งของธานอสทำให้ทั่วทั้งจักรวาลเกิดความวุ่นวาย สิ่งนั้นยืนยันได้จากการที่ Ant-Man ยืนมองเสาต้นหนึ่งเต็มไปด้วยใบประกาศตามหาคนหายซ้อนทับกัน แสดงให้เห็นว่าการสูญหายไปกว่าครึ่งจักรวาลนั้นส่งผลกระทบต่อทุก ๆ คน

เมื่อพูดถึงตัวละคร Ant-Man ก็ต้องนึกถึงคำถามคาใจจากผู้ที่เคยดู Ant-Man and the Wasp มาก่อนหน้านี้ว่าสกอตต์ แลง ใช้วิธีใดออกมาจากมิติควอนตัมและตามมาสมทบกับทีม Avengers ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็ยังคงไม่ได้รับการเฉลยจากตัวอย่างหนังไปจนกว่าภาพยนตร์จะเข้าฉาย

คำพูดของ Peggy Carter ที่ว่า “The world has change and none of us can go back, All we can do is our best and sometimes, the best that we can do is to start over” หรือ “โลกเปลี่ยนไปแล้วและไม่มีใครสามารถย้อนกลับไปได้  และในบางครั้งสิ่งดีที่สุดที่เราจะทำคือการเริ่มต้นใหม่”  แต่เพราะกัปตันอเมริการวมถึงคนที่ยังอยู่ไม่สามารถทำใจยอมรับโลกที่ผู้คนต้องสูญหายไปกว่าครึ่งได้ และมองว่าสิ่งที่ดีสุดเท่าที่ทำได้คือการตัดสินใจลุกขึ้นสู้

รวมถึงการเน้นประโยคของตัวละคร Avengers รุ่นเก่าของกัปตันอเมริกา ไอรอนแมน ธอร์ ฮอคอาย และแบล็ค วิโดว์ ว่า “we will, whatever it takes” “ยอมแลกแม้ต้องสูญเสีย”  ก็ชวนให้เหล่าแฟนคลับใจหายไปตาม ๆ กัน ตอกย้ำสมมุติฐานที่ว่า Avengers ภาคนี้จะต้องมีซูเปอร์ฮีโร่ที่จากเราไปตลอดกาลอย่างแน่นอน

นอกจาก Trailer เรายังสามารถเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นจากของเล่นได้ด้วย เพราะทางต้นสังกัดได้ปล่อยของเล่นเหล่า Avengers สวมใส่ชุดทีมใหม่ให้เราได้รู้ก่อนที่ตัวอย่างจะออกเสียอีก แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าชุดดังกล่าวนั้นเป็นชุดอวกาศหรือชุดตะลุยมิติควอนตัมกันแน่

ก่อนหน้านี้ เคยมีคนเอ่ยถึงสมมุติฐานเรื่องการย้อนเวลากลับไปก่อนเกิดสงครามกับธานอส เพื่อแก้ไขเรื่องราวไม่ให้จบแบบเดิม ซึ่งถ้าหากว่าโทนี่ สตาร์ค สามารถเดินทางกลับมายังโลกอย่างปลอดภัยจริง ๆ โทนี่ สตาร์ค  ดร.แบนเนอร์ สกอตต์ แลง อาจร่วมกันหาวิธีใช้พลังงานจากควอนตัมเพื่อย้อนเวลาก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างที่สองยังไม่ได้เปิดเผยฉากร่วมของกัปตันมาเวลกับกลุ่ม Avengers เลยยกเว้นฉากสุดท้าย และพลังของกัปตันมาเวลมาจาก Tesseract หนึ่งในมณีโบราณที่เกิดจากการระเบิดของห้วงอวกาศ ทำให้เธอสามารถเดินทางไปทั่วทั้งกาแลคซีอย่างอิสระ พร้อมกับการปล่อยแสงเลเซอร์ออกจากร่างกายได้ ซึ่งความสามารถของเธออาจมีส่วนช่วยพลิกสถานการณ์ให้กับเหล่า Avengers

การร่วมมือกันของกัปตันมาเวลกับทีมซูเปอร์ฮีโร่ที่จะเผด็จศึกธานอสจะใช้เวลานานแค่ไหนนั้นยังไม่อาจยืนยันได้แน่นอน แต่ถ้าเดาจากผมที่ยาวขึ้นและสีผมที่เปลี่ยนไปนาตาชา คาดว่าทีม Avengers อาจใช้เวลาวางแผนกันนานพอสมควร

ฉากสุดท้ายที่เห็นคือธอร์ได้พบกับกัปตันมาเวล ถือว่าเป็นการจับคู่ของ MCU ที่น่าสนใจและสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะจากคำให้สัมภาษณ์ของ Kevin Feige ประธานบริษัท Marvel Studio เคยกล่าวไว้ว่า ทั้งสองคนถือเป็นสิ่งมีชีวิตสุดแข็งแกร่งลำดับต้น ๆ ของจักรวาล MCU การพบกันของทั้งสองคนเลยทำให้เกิดความคาดหวังฉากแอคชั่นเท่ ๆ จากทั้งคู่

เรื่องราวบทสรุปของสงครามครั้งใหญ่ที่จะสะเทือนไปทั่วทุกกาแลคซีจะเข้าฉายในวันที่ 24 เมษายน 2019 และขอแนะนำว่าถ้าอยากได้ที่นั่งดี ๆ ก็ควรจะจองก่อนล่วงหน้า เพราะแฟนหนัง MCU ต่างก็อยากเข้าไปรับชมตอนจบแบบเต็มตาด้วยกันทั้งนั้น คาดการณ์ว่าเมื่อ Avengers: EndGame เข้าฉายจะสามารถคว้าอันดับหนึ่งหนังทำงานสูงสุดตลอดกาลประจำเดือนเมษายนมาครองอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าลืม จองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนอุ่นใจกว่า

SOURCE

 

TOIISAN
WRITER: TOIISAN
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line