ภาพยนตร์ที่ทั้งสมชายชาตรี ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ ต้องยกให้ภาพยนตร์แนวสงครามบู๊แหลกลาญเลือดสาดจากเหล่าทหาร โดยเฉพาะเรื่องที่สร้างแบบ Based on true story ยิ่งทำให้ความมันส์เพิ่มเป็นทวีคูณ ได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ บางเรื่องดูไปต้องเปิด Wikipedia ควบคู่ตามไปด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม และสำหรับคนที่ไม่ได้มีแพลนจะไปออกไปเที่ยวที่ไหน อยากจะอยู่บ้านติดหน้าจอเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ เราได้ระดมรายชื่อหนังสงครามที่จะดูดให้ตูดคุณติดโซฟาได้ยาวนานถึงวันทำงานมาฝาก ที่คุณต้องทำก็แค่เตรียมเบียร์เย็น ๆ ไว้ในมือขวา พร้อม remote กดสั่งเช่าหนังดูทางออนไลน์ผ่าน Online Streaming ที่มีให้เลือกมากมายก็พอ 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ภาพยนตร์เรื่องราวของทหารรักษาความปลอดภัยจากหน่วยงาน Global Response Staff (GRS) ที่ต้องเอาตัวรอดจากใจกลางฐานทัพผู้ก่อการร้าย พร้อมป้องกันชีวิตเจ้าหน้าที่ CIA, พนักงาน และประชาชนภายในที่มั่นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในเบนกาซี ประเทศลิเบีย ซึ่งการบุกโจมตีหลายระลอกโดยผู้นำ Ansar al-Sharia นั้นบอกเลยว่าหนักหน่วง จึงเป็นหน้าที่ของ Jack Silva และเพื่อนทหาร ในการยันข้าศึกเพื่อรอความช่วยเหลือให้ได้อย่างน้อย 13 ชั่วโมง ภาพยนตร์สร้างจากการดัดแปลงเนื้อหาในหนังสือ 13
คุณชอบดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ไหม? แล้วถ้าชอบ คุณดูหนังฮีโร่ฝั่งมาร์เวลหรือดีซี? หรือคุณไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ชื่นชอบที่จะเห็นค่ายสร้างหนังฮีโร่แห่งยุคแข่งขันกัน เพราะผู้ชมอย่างเราก็จะได้กำไรแบบสองต่อ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการฮอลลีวูดหลายยุคหลายสมัย ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อนเรามีซูเปอร์แมนหลายภาค มีวันเดอร์วูแมนฉบับคนแสดงที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก แต่ทิศทางของความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป อาจเพราะค่านิยมตามสมัย รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้กุมบังเหียนค่าย NIHON STORIES สัปดาห์นี้จะพาผู้อ่านไปพบกับหัวหอกคนสำคัญแห่งยุคของบริษัทสร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ วอร์เนอร์บราเธอส์ (Warner Bros.) หรือในนามอักษรย่อว่า WB อย่าง วอลเตอร์ ฮามะดะ (Walter Hamada) ที่ขึ้นกุมบังเหียนค่าย DC ที่อยู่ในสังกัด WB ในช่วงเวลาแสนสำคัญที่ทำให้ค่ายหนังกวาดคำชมจากกลุ่มนักดูหนังไปได้อีกครั้ง ย้อนกลับไปหลายปีก่อน ฮามาดะจะเป็นผู้ควบคุมโปรเจกต์ภาพยนตร์หนังผี New Line Cinema ในปี 2007 ค่ายหนังในเครือ WB และมีส่วนร่วมกับการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งหลายเรื่องทั้ง The Conjuring ที่ทำร่วมกับ เจมส์ วาน (James Wan) หรือ IT, The Gallows และ Annabelle เขาเป็นผู้บริหารและหุ้นส่วนบริษัท H2F
เมื่อเทศกาล Halloween วนกลับมาอีกหน ปีนี้หลายคนอาจไม่ได้ออกท่องราตรีที่ไหนเพราะกลัวคนเยอะ คนแน่น แล้วต้องกลับมากังวลเรื่อง COVID-19 การเลือกอยู่บ้าน แล้วหาหนังหลอน ๆ รับกับบรรยากาศวันปล่อยผีดูสักเรื่องหรือหลายเรื่องก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หนังผีใคร ๆ ก็คงแนะนำกันบ่อยแล้ว UNLOCKMEN อยากชวนดูหนังที่ เฮ้ย ก็ไม่มีผีโผล่ออกมาหรอกนะ แต่ดูแล้วชวนหวาดหวั่น ประสาทมันสั่นกลัวสุดขีดคลั่ง รับรองว่าดูไปอดรีนาลีนหลั่งไปแน่นอน US ว่ากันว่าสิ่งที่ชวนขนพองสยองขวัญที่สุดอาจไม่ใช่ผี ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเรานี่เอง US คือหนังที่เล่นกับความหลอนในหัวใจมนุษย์ว่าถ้าเราไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวอีกต่อไปล่ะ? ถ้ามีตัวเราอีกคน ที่รูปกายภายนอกเหมือนเราแทบทุกประการ แต่เรากลับไม่รู้ว่าลึก ๆ เราอีกคนต้องการอะไรกันแน่? และมันจะระทึกขวัญสักแค่ไหน เมื่อตัวเราอีกคนเริ่มออกมาไล่ล่าตัวเรา นอกจาก US จะทำให้ใจเต้นสั่นระรัวแล้ว ยังแฝงประเด็นให้ชวนขบคิดว่าที่เราเป็นเราทุกวันนี้มันเพราะความสามารถของเรา หรือเพราะโอกาสบางอย่างที่เราเข้าถึงได้มากกว่าคนอื่นกันแน่ และถ้าเราอีกคนเขาดันเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่ผลักให้เขาต้องออกล่าอย่าป่าเถื่อน เรื่องราวชวนขนลุกนี้จะจบลงอย่างไร? เปิดดูในวันปล่อยผี ถึงไม่มีผีแต่มีหลอนแน่นอน Get Out ยังพาไต่ระดับความหลอนกับหนังเขย่าประสาทของผู้กำกับ Jordan Peele ถ้า US ว่าด้วยความหลอนของการมีตัวเราอีกคน Get Out ก็จะพาเราดำดิ่งไปในความหลอนของการติดอยู่ในร่างกายตัวเอง!
ในช่วงที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ถูกเลื่อนฉายออกไปเรื่อย ๆ คอหนังหลายคนคงจะเบื่อกับการที่ไม่มีหนังใหม่ ๆ เข้าโรงให้ได้ชมกัน ค่ายหนังส่วนใหญ่รู้สึกไม่ต่างกันว่าการนำหนังของตัวเองฉายตามกำหนดการปกติอาจไม่คุ้มเสี่ยงเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุผลเรื่องวิกฤตไวรัส ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากเข้าโรงหนังเท่าไหร่นัก ในเมื่ออยู่บ้านเบื่อ ๆ ไม่รู้จะทำอะไร หนังเรื่องใหม่ที่อยากดูก็ยังไม่เข้า เราจึงอยากแนะนำภาพยนตร์ญี่ปุ่นหมวดตามล่าล้างแค้น 5 เรื่อง ให้เป็นตัวเลือกเผื่อว่ายังมีบางเรื่องที่คอหนังยังตามเก็บไม่ครบ LADY SNOWBLOOD (1973) ภาพยนตร์ที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ เควนติน ทารันติโน ลงมือสร้างหนังโคตรดังอย่าง Kill Bill เปิดมาขนาดนี้ใคร ๆ ต่างก็ต้องให้ความสนใจกับหนังตามล้างแค้นเรื่อง Lady Snowblood (1973) เรื่องราวกดดันจะถูกเล่าไปพร้อมกับเด็กสาวนามว่า ‘ยูกิ’ ที่ลืมตาดูโลกก็รู้จักกับคำว่าล้างแค้นตั้งแต่แรก แม่ของเธอมีปมความแค้นบางอย่างและมุ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะฝากความหวังทั้งหมดให้กับลูกสาวตัวเอง ผู้เป็นแม่ได้พร่ำสอนยูกิตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าเธอต้องรู้สึกแค้น เธอจะต้องล้างแค้นให้แม่ สอนให้จับดาบซามูไร มีชีวิตแตกต่างจากเด็กสาวบ้านอื่น ๆ เพราะเธอต้องเชี่ยวชาญการต่อสู้ มีอารมณ์ที่สงบนิ่ง ไม่ไหวติงต่อสิ่งเร้า เธอต้องแข็งแกร่งเพื่อตามล่าบุคคลนิรนาม 4 คน ที่สร้างความเจ็บช้ำจนเกิดเป็นความแค้นยาวนานหลายสิบปีนี้ให้ได้ ซาโต้อิจิ ไอ้บอดซามูไร (2003) ซาโต้อิจิ ไอ้บอดซามูไร
สำหรับผู้ชายผู้ชื่นชอบรถยนต์ การได้ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกแห่งความเร็ว นอกจากจะได้ความเพลิดเพลิน ยังได้เกล็ดความรู้และประวัติของรถคันนั้น ๆ ให้ไปหาข้อมูลต่อกันได้เสมอ และนี่คือภาพยนตร์ 5 เรื่องเกี่ยวกับลูกผู้ชาย รถยนต์ และความเร็ว ที่มาพร้อมกับเรื่องราวแห่งมิตรภาพ แต่ละเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรและจะมีความสัมพันธ์แบบไหนที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้ชมกันบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย FORD V FERRARI Ford V Ferrari คือภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนไปพบกับสงครามความเร็วระหว่างค่ายรถสายพันธุ์อเมริกันอย่าง Ford และผู้คร่ำหวอดในวงการรถแข่งจากประเทศอิตาลีอย่าง Ferrari บนสังเวียนการแข่งขันรถยนต์สุดโหด 24 Hours Of Le Mans ในช่วงต้นปี 1960 Ford V Ferrari จะพาเราไปรู้จักกับเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของโมเดลรถยนต์ในตำนาน Ford GT40 mk II พร้อมกันนั้นยังนำเสนอมุมมองของมิตรภาพระหว่างผู้คนได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเรื่องราวของ Carroll Shelby และ Ken Miles 2 ตัวเอกในเรื่องที่แม้จะมีปัญหาถกเถียงกันหรือเห็นต่างกันในหลายช่วงเวลา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการพัฒนารถยนต์และการแข่งขันทั้ง 2 คนก็ยังคงเคารพและไว้ใจกันเสมอ อีกความสัมพันธ์ที่น่าสนใจคือเรื่องราวระหว่าง Ken Miles
ลืมตาตื่นขึ้นมาเผชิญชีวิตท่ามกลางอุณหภูมิ 30 กว่าองศาฯ แต่รู้สึกร้อนราวกับว่า 40 กว่าองศาฯ อีกหนึ่งวัน แสงอาทิตย์คือชีวิต แต่อีกทางหนึ่งเราก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าหากแสงอาทิตย์แปรพักตร์ กลายเป็นปรปักษ์ต่อลมหายใจของมนุษย์ โลกใบนี้จะเป็นอย่างไร? Into the Night คือซีรีส์ระทึกขวัญ เมื่อแสงอาทิตย์ไม่ได้เป็นความอบอุ่นและสัญลักษณ์แห่งชีวิตอีกต่อไป แต่รุ่งอรุณกลับนำพาความตายมาเยือนโลกมนุษย์ ใครที่สัมผัสแสงแดดมีทางเลือกเดียวคือหมดลมหายใจ และผู้ที่อยากมีชีวิตรอดให้ได้ จึงต้องพาตัวเองมุ่งหน้าสู่ความมืดมิดแห่งคืนค่ำเท่านั้น ไม่เวิ้นเว่อวุ่นวาย เพราะโลกแตกสลาย ความหมายมีแค่การเอาตัวรอดเท่านั้น เราคงไม่ปฏิเสธว่าหนังโลกแตก มนุษย์ต้องเอาตัวรอดให้ได้ หนีตายบนพาหนะอะไรสักอย่างไม่ใช่พล็อตใหม่ และชวนให้สงสัยว่ามันยังดึงดูดใจคนดูอย่างเราได้จริงไหม? แต่ Into the Night พาเราหลุดเข้าไปในหนังโลกแตกระทึกขวัญเอาตัวรอดในรสชาติแปลกใหม่ ที่ขอกระซิบว่าถ้ายังไม่ได้เริ่มดูก็อย่าเพิ่งตัดสินหนังเรื่องนี้ หนังโลกแตกปกติ มักให้ความสำคัญกับความสมจริง จนฉายภาพปูพื้นให้เห็นว่า “เพราะอะไรโลกถึงเกิดหายนะขึ้น?” จนต้องมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ปูภาพ หรือฉากห้องแล็บนักวิจัยที่แสดงข้อมูลจำนวนมากน่าเชื่อถือ แต่ Into the Night กลับเปิดเรื่องเรียบง่าย กลุ่มคนเพียงหยิบมือหนึ่งที่กำลังจะขึ้นเครื่องบิน และถูกทหารนายหนึ่ง (ที่บังเอิญรู้เรื่องแสงอาทิตย์หายนะ) ปล้นเพื่อพาเครื่องบินมุ่งตรงสู่กลางคืน หนีแสงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกของโลก บนเครื่องบังเอิญมีผู้มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ที่พออธิบายเหตุผลคร่าว ๆ อยู่บ้าง และที่เหลือคือการเสิร์ชหาเอาจากอินเทอร์เน็ต ในทางหนึ่งการปูเรื่องจากมุมมองตัวละครแบบนี้ทำให้เรารู้สึกสมจริงยิ่งขึ้น เพราะหากโลกใบนี้ต้องแตกแหลกสลายพังพินาศลงจริง
เดือนพฤษภาคมถือเป็นอีกเดือนที่อุดมไปด้วย “วันหยุด” ที่เราจะได้หยุดงานนอนตีพุงหรือไปเที่ยวไหนต่อไหนให้ชุ่มปอด แต่ COVID-19 ก็ทำให้โลกทัศน์วันหยุดเราต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วันหยุดจำนวนมากแต่ไม่อาจออกไปไหนได้ (เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและผู้อื่น) รวมถึงสถานที่หลายแห่งที่ยังต้องปิดตามมาตรการของรัฐและเคอร์ฟิว ทำให้วันหยุด (และวันธรรมดา) ของเดือนพฤษภาคม 2020 นี้ มีแต่บ้าน บ้าน บ้าน และบ้านเท่านั้น โชคดีที่เราอยู่ในโลกยุคที่บ้านยังมีทีวี อินเทอร์เน็ต และสตรีมมิงให้ได้ท่องเที่ยว เดินทางไปกับหนัง ซีรีส์ สารคดี ฯลฯ การอยู่บ้านจึงน่าเบื่อน้อยลง ดังนั้นพฤษภาคมนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วันหยุดไปกับอะไร เราแวะเอาคอนเทนต์จาก NETFLIX มาให้เลือกสรร The Godfather ความดีงามของระบบสตรีมมิงคือการที่เราจะดูเมื่อใด หยุดเมื่อใดก็ได้ หนังทั้งเรื่องเป็นของเรา การได้ดูที่มีหลาย ๆ ภาคในวันหยุดยาวแบบฉ่ำใจจึงเหมือนเป็นการได้เสพของอร่อยเต็มอิ่มของคอหนัง โดยเฉพาะเมื่อหนังเรื่องนั้นเป็นหนังระดับตำนาน จะมีอะไรดีกว่านี้อีก? The Godfather คงไม่ใช่หนังใหม่อะไร (แต่เราเชื่อว่าหลายคนก็อาจยังไม่เคยดู) ใครที่เคยดูแล้วก็ถือเป็นโอกาสอันดีในช่วงเดือนที่วันหยุดเยอะได้ย้อนกลับมาดูหนังแก๊งสเตอร์ระดับตำนานเรื่องนี้อีกหน The Godfather เรื่องราวว่าด้วยครอบครัวมาเฟียที่ไม่ได้มุ่งไปที่อาชญากรรมโดยตรง แต่ให้ฟีลรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง โคตรมาเฟียที่ไม่ต้องข้องแวะกับความเป็นอันธพาล แต่อหังการตราตรึงใจนักวิจารณ์และคนดูแม้เวลาผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วก็ตาม ความดีงามคือมาครบทั้ง
อยู่คนเดียวมากี่วันแล้ว? โดดเดี่ยวแค่ไหน? รู้สึกเดียวดายบ้างหรือเปล่า? สถานการณ์ COVID-19 บีบคั้นให้ใครหลายคนต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางลมหายใจลำพังนั้นบางครั้งเราเผลอพูดกับตัวเอง บางทีหัวเราะท้องแข็งกับโพสต์จากเฟซบุ๊กแล้วจะหันไปแชร์กับใครสักคน แต่ตรงนั้นกลับมีเพียงอากาศว่างเปล่า หรืออย่างร้ายวินาทีที่เครียด กดดัน ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าคืออะไร น้ำอุ่น ๆ เอ่อไหลออกจากตา อยากหาไหล่ใครสักคนไว้ซับความเศร้า ก็กลับพบเพียงตัวเองกับหมอนใบเดิม เราเลยตั้งใจเอา ‘6 หนังมนุษย์เดียวดาย’ มาอยู่เป็นเพื่อน ใช่ มันไม่ได้ทำให้โดดเดี่ยวน้อยลง (บางเรื่องอาจเข้าถึงแก่นความโดดเดี่ยวเป็นเท่าทวี) แต่ในทุกเรื่องนี้จะพาเราทุกคนไปสำรวจความหมายของลมหายใจลำพัง ชีวิตโดดเดี่ยว และแต่ละวันอันเดียวดาย ในรูปแบบที่อาจทำให้เรามองความเดียวดายรายวันของเราในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นได้… Moon ความโดดเดี่ยวของใครหลายคนในวันนี้อาจชวนให้อึดอัด เพราะเราไม่รู้แน่ชัดว่าเราจะต้องกักตัวเดียวดายไปถึงเมื่อไร? มีจุดสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหน? ในทางกลับกัน ถ้าเรารู้ว่าเราต้องโดดเดี่ยวเป็นเวลาเท่าไร และจะได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของทุกคนที่เรารักอย่างปกติ มันจะดีกว่ากันจริงหรือเปล่า? Moon คือหนังที่ว่าด้วยนักบินอวกาศที่ได้รับภารกิจสำรวจดวงจันทร์ หน้าที่ของเขาก็คือภารกิจ 3 ปีเต็มบนดวงจันทร์ตะปุ่มตะป่ำ แม้จะเดียวดาย แต่ก็รู้แน่ชัดว่าหลังจาก 3 ปี เขาจะได้คืนกลับมาตุภูมิ แต่ความลึกซึ้งของ Moon ไม่ได้พาเราไปสำรวจชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียวเป็นเวลานานเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เราตะลึงพรึงเพริด และชวนให้ขบคิดเรื่องชีวิตของเรา ความเป็นมนุษย์ เทคโนโลยี
เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเราชาว UNLOCKMEN คุยกันเรื่องซีรีส์เรื่องหนึ่งที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในเวลานี้อย่าง Kingdom ผลงานจากประเทศเกาหลีใต้ที่ฉายทางระบบสตรีมมิง Netflix พวกเราพูดถึงฉากแอกชันโคตรเดือดกับการตามกำจัดซอมบี้และช่วงชิงบัลลังก์ของเจ้าชาย แต่น่าแปลกบทสนทนาเกี่ยวกับหนังแทบจะไม่มีชื่อตัวละครหลุดออกมาจากปากใครเลย เรารับรู้เพียงแค่ว่าหนังสนุก พูดคุยถึงตัวละครในหนังกันอย่างออกรสทั้งพระเอกเป็นเจ้าชาย นางเอกเป็นหมอ ชายแก่เป็นอาจารย์ของพระเอกกับหมอหญิงอีกที ตัวร้ายคืออัครเสนาบดีกับลูกสาวที่เป็นพระมเหสี และคนต้มเล้งแซ่บ ซึ่งผลของบทสนทนาคือแทบไม่มีใครจดจำชื่อตัวละครทั้งหมดได้เลย เพราะไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าตัวละครแต่ละตัวมีชื่ออะไรกันบ้าง (ยกเว้นหมอหญิงซอบีที่ถูกเอ่ยชื่อบ่อยในเรื่อง) UNLOCKMEN จึงเกิดความสงสัยว่าเพราะอะไรคนส่วนใหญ่ถึงไม่สามารถจดจำใบหน้าหรือชื่อของตัวละครเท่าไหร่นัก? ยิ่งเข้าสู่ฉากช่วงกลางคืนด้วยแล้วแทบจะแยกไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร และความสงสัยทำให้เราอยากรู้เรื่องอาการนี้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่อง Kingdom เท่านั้นที่ทำให้ผู้ชมสับสนว่าใครเป็นใคร แต่สำหรับแฟนหนังจำนวนไม่น้อยมีอาการสับสนเวลาดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งไปสักพักและจำไม่ได้ว่าตัวละครมีชื่อว่าอะไร หรือเพราะในเรื่องมีคนหน้าตาท่าทางคล้ายกันจนทำให้ไม่มั่นใจว่าใครเป็นใคร บางครั้งงงหนักขึ้นไปอีกว่าตัวละครนี้มันโผล่มาอย่างไรแม้ตัวละครนี้มันเคยออกมาแล้วแต่เราลืมเอง แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะอาการทั้งหมดเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็นได้ทั้งนั้น ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยยอร์กแห่งสหราชอาณาจักร (University of York) พบเจอกับปัญหานี้ไม่ต่างกับเรา พวกเขาจึงเริ่มหาเหตุผลว่าเพราะอะไรเราถึงลืมหน้าคนได้ง่าย ๆ ด้วยการให้กลุ่มตัวอย่างนึกถึงใบหน้าของพี่น้องหรือญาติสนิท และจดจำใบหน้าเหล่านั้นให้มากที่สุด จากนั้นดูหน้าตาของเหล่าคนมีชื่อเสียงจากหลายวงการทั้งนักแสดง นักร้อง นักข่าว นักการเมืองและคนทั่วไปที่ไม่เคยเข้ามาข้องเกี่ยวในชีวิตมาก่อน จากนั้นทำแบบสำรวจว่าแต่ละคนสามารถจดจำใบหน้าได้มากแค่ไหน ผลออกมาว่ามีคนจากกลุ่มตัวอย่างจำหน้าคนได้มากถึง 5,000 หน้า แม้จะมีคนจดจำใบหน้าได้มาก 5,000 หน้า แต่เมื่อถามลงไปว่าแต่ละคนที่จำได้เป็นใครมาจากไหนความแม่นยำจะลดลงเรื่อย ๆ คนส่วนใหญ่จดจำหน้าและชื่อของญาติตัวเองได้มากที่สุดเพราะคุ้นเคยมาหลายสิบปี รองลงมาคือกลุ่มคนมีชื่อเสียง หลงลืมชื่อกับใบหน้าของกลุ่มที่เป็นคนแปลกหน้าไม่มีชื่อเสียง
ถ้าเลือกได้ เราเชื่อว่าไม่มีใครต้องการให้ชีวิตตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก แต่เพราะชีวิตไม่ได้อยู่ในมือเราเสมอไป เราจึงต้องเผชิญสิ่งที่ไม่เป็นไปอย่างใจหวัง โดยเฉพาะห้วงเวลาที่วิกฤตไวรัสส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงาน ต่อความเครียด และสภาพเศรษฐกิจ UNLOCKMEN เข้าใจดีว่าทุกคนกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ เราเองก็อยากอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ คุณเพื่อบอกว่าต่อให้ “ชีวิตมันเศร้า แต่เราจะไม่ยอมแพ้” เราจะผ่านมันไปด้วยกัน และถ้าแค่คำพูดมันไม่เพียงพอ เราอยากชวนดูหนัง 5 เรื่องที่จะให้เข้าใจความหมายของการ “ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา” เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ในบางชั่วขณะของชีวิต เราต้องหาบ่อน้ำแห่งความหวังมาปลอบโยนหัวใจที่กำลังเหนื่อยล้าไว้บ้าง และเราหวังว่าหนัง 5 เรื่องนี้จะช่วยให้หัวใจของทุกคนมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาได้บ้าง Unbroken ถ้าคุณเชื่อว่าชีวิตคือกราฟ ลงสุด และขึ้นสุดได้จากการไม่ยอมแพ้เพียงหนึ่งครั้ง คุณอาจต้องคิดใหม่ Unbroken คือหนังที่สร้างจากเค้าโครงชีวิตของหลุยส์ ลูอี้ แซมเพอรินี มนุษย์ผู้เริ่มจากศูนย์ พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุด ก่อนจะร่วงหล่น ทุกข์ทรมาน แล้วทะยานขึ้นไปได้ใหม่ เพราะหัวใจนักสู้ของเขาที่ไม่เคยหมดหวังที่จะก้าวสู่วันที่ดีกว่า หนังเล่าเรื่องราวของ หลุยส์ ลูอี้ แซมเพอรินี ตั้งแต่วัยเด็กที่มีพื้นเพเป็นผู้อพยพ และใช้ชีวิตแบบไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลักเล็กขโมยน้อย จนกระทั่งเขาพบความฝันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตคือการเป็นนักวิ่งลมกรด เขาไม่ฝันเปล่า ๆ แต่พยายามและไม่ยอมแพ้ จนเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่คว้าชัยชนะและทำให้ผู้คนทั่วโลกประหลาดใจในความสามารถเขามาแล้ว แต่กราฟชีวิตที่พุ่งสูงไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะมีความสุขตลอดไปเช่นในนิทาน