Series Guide : That ’70s Show ซิทคอมวัยรุ่นอเมริกันยุค 70 ที่มีฉากจอยปุ๊นเจ๋งที่สุดในโลกซีรีส์ !

ถ้าให้พูดชื่อซิทคอมยุคปลาย 90s ในดวงใจมาสักเรื่อง มั่นใจเลยว่าไม่มีใครสามารถเลือกเรื่องเดียวได้หรอก ก็ในช่วงเวลานั้นมีทั้ง Sex and the City (1998-2004) และ Friends (1994-2004) ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังไม่นับเรื่องอื่น ๆ อีกเต็มไปหมด แต่เราอยากขอให้ทุกคนเหลือที่ว่างในใจเผื่อเอาไว้อีกสักที่ครับ เพราะซิทคอมเรื่อง That ’70s Show เป็นโชว์ที่เราไม่อยากให้ชาว UNLOCKMEN พลาดเด็ดขาด กัญชา, เพลงร็อค และ ชีวิตของวัยรุ่นอเมริกันปี 70s คือสิ่งที่ขับเคลื่อนซิทคอมเรื่องนี้ 

That ’70s Show คือซิทคอมที่ออกฉายในปี 1998-2006 เล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นสุดเบียวปินเกลียวผู้ปกครองให้หัวจะปวดไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งโดดเรียน แอบไปกินเบียร์ทั้ง ๆ ที่ยังอายุไม่ถึง หนักถึงขนาดแอบดูดกัญชาอยู่ในห้องใต้ดินในขณะที่พ่อ-แม่อยู่ข้างบน ผ่านฉากหลังของเมือง Point Place (เมืองสมมติ) ในรัฐ Wisconsin (อันนี้มีจริง) ในปี 70s 

รู้จักตัวละครกับนักแสดงของเรื่อง : Eric Forman (Topher Grace) ลูกชายของเจ้าของบ้าน-สถานที่เพื่อน ๆ มารวมตัวกันในห้องใต้ดินเสมอ / Donna Pinciotti (Laura Prepon) สาวก๋ากั่นน่ารักข้างบ้านของ Eric / Michael Kelso (Ashton Kutcher) หนุ่มหล่อปัญญานิ่มนักรักประจำกลุ่ม / Jackie Burkhart (Mila Kunis) ลูกคุณหนูผู้ถูกสปอยล์จนเคยตัว / Steven Hyde (Danny Masterson) เพื่อนรักนักปุ๊นของทุกคน / Fez (Wilmer Valderrama) อินเดียนกายนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศอินเดีย

เดาว่า That ‘70 Show เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ไฮป์ในบ้านเราสักเท่าไหร่ เพราะตอนที่ Netflix เข้าประเทศไทยใหม่ ๆ ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีให้เราดูอยู่ จนเวลาผ่านไปสัก 1 ปีก็โดนถอดออกซะแล้ว แต่ในฐานะนักเขียนของ UNLOCKMEN ที่ใช้เวลาดูซิทคอมเรื่องนี้อย่างขมักเขม้น และอินขนาดเขียนรีวิวทุกซีซั่นมาแล้วในเพจส่วนตัวของตัวเอง (ซึ่งไม่ให้อ่านหรอก เขินเว้ย !) จะป้ายยาทุกคนกับความทรงจำประทับใจที่เรามีต่อซีรีส์เรื่องนี้ 

พบกับวัฒนธรรม American 70s แบบจัดเต็ม

สายเซ็ทติ้งย้อนยุคต้องถูกใจสิ่งนี้ ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าเกิดขึ้นในปี 70s เพราะฉะนั้นก็มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้เจอกับ Costume ของยุคนั้นแบบจัดเต็ม รวมไปถึงการดีไซน์ฉากของบ้านของแต่ละตัวละครซึ่งยกความ 70s vibe มาเลย

ไม่เท่านั้น การพูดถึงวัฒนธรรม pop culture อย่างหลากหลายก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ตัวซีรีส์สนุกขึ้นมาก ๆ ด้วยการ Name Drop อย่างเต็มปากเต็มคำตลอดเวลา นอกจากที่ตัวละคร Eric ผู้เป็นสาวกเดนตายของ Star Wars แล้ว เพลงร็อคในยุครุ่งเรืองสุดขีดของวงอย่าง Led Zeppelin, Styx, Todd Rundgren ก็ถูกใส่มาหมด ในบางครั้งก็ไม่ได้มาแค่ชื่ออย่างเดียวนะ แต่ตัวละคร Hyde มักจะเดินเข้าฉากด้วย ‘เสื้อวง’ ให้เหล่าสาวกหูรุนแรงว้าวเสมอ แต่แน่นอนว่าเพราะ 70s ก็ไม่ได้มีเพลงร็อค แต่กระแสเพลงดิสโก้ก็รุ่งเรืองสุดขีด เราจึงจะได้เห็น Disco Tech และความนิยมของการเล่น Roller Skate เข้ามาในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

อีกไฮไลต์สำคัญซึ่งเป็นไอคอนิกของเรื่องไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Oldsmobile Vista Cruiser รถของ Eric ที่ทั้งอยู่ในเพลงเปิดก่อนเข้าซีรีส์ทุกตอน แถมยังเป็นรถบันทึกความทรงจำประสบการณ์แสบ ๆ ของกลุ่มอยู่หลายครั้ง สิ่งที่ชุบชูหัวใจของแฟน ๆ ซีรีส์คือการที่ได้รู้ว่าหนึ่งในรถที่ใช้ถ่ายทำของเรื่อง ถูกครอบครองโดย Wilmer Valderrama ผู้รับบท Fez ในราคา $500 (17,366.25 บาท) เท่านั้น และจนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังดูแลรถคันนี้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด    

ความผูกพันของนักแสดงนอกจอ ที่สงผลต่อเคมีในจอ 

จากเหตุการณ์รถ Oldsmobile Vista Cruiser บรรทัดสุดท้ายก่อนหน้านี้ เราอยากขยายความเพิ่มอีกนิดนึงว่า จริง ๆ แล้วรถคันดังกล่าว Wilmer Valderrama ซื้อกลับมาในวันสุดท้ายที่ถ่ายทำ That ’70s Show ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความผูกพันธ์ของเขาต่อโชว์นี้ แต่เราอยากบอกว่านักแสดงหลักทุกคนมีความผูกพันกับโชว์นี้ แบบที่ใช้คำว่า ‘มาก’ ได้เลย และมันมีผลต่อเคมีในจอด้วย เราจะขอยกเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ทำให้เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นบางส่วนมาไว้ข้างล่าง 

– วันที่ 24/08/2018 เป็นวันครบรอบ 20 ปีของ That ’70s Show นักแสดงหลักทุกคนพร้อมใจกันโพสต์รูปในอดีตบนโซเชี่ยลแอคเคาต์ส่วนตัวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมแคปชั่นประทับใจของตัวเอง

– Mila Kunis ที่รับบท Jackie เคยให้สัมภาษณ์ว่าจูบแรกในชีวิตของเธอเกิดขึ้นกับ Ashton Kutcher ที่รับบท Michael ในซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันตั้งแต่ตอนนั้น และอย่างที่โลกรู้ดี ทั้งคู่ได้กลายเป็นคู่แท้ในชีวิตของกันและกันมาจนถึงปัจจุบัน 

– ในซีรีส์ Eric ถูกเขียนบทมาให้มีพี่สาววัยมหาวิทยาลัยชื่อ Laurie Forman รับบทโดย Lisa Robin ซึ่งนับเป็นตัวละครที่สร้างสีสันและสำคัญมากของเรื่อง แต่พอเข้าซีซั่นที่ 5 (2005) ตัว Lisa ก็ถูกถอดออกจากซีรีส์เพราะปัญหาเรื่องยาเสพติด และสุดท้ายเธอก็ได้เสียชีวิตลงในปี 2013 … ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นเหล่านักแสดงนำคอยให้กำลังใจ Lisa พร้อมกับความรู้สึกที่อยากให้เธอกับมาเป็นพี่สาวของ Eric เสมอ เพราะไม่มีใครที่เหมาะสมกับบทนี้เท่าเธออีกแล้ว

ความสนุกของวัยรุ่น ที่มาพร้อมกับปัญหาของชีวิต

ต้องบอกว่าความสนุกของ That ’70s Show ส่วนหนึ่งมาจากการที่มุกไม่ PC (Political correctness) มากนัก แต่ในความตลกทะลุ PC นี้ ประเด็นของชีวิต สังคม และการเมืองอันหนักหน่วงก็ถูกใส่เข้ามาอย่างเนียน ๆ เป็นเหมือนคติสอนใจว่าชีวิตไม่ได้มีแต่ความสนุกเสมอไป และต้องบอกว่าถึงจะเป็นซีรีส์ซิทคอม แต่ That ’70s Show ก็เล่าพาร์ทดราม่าได้อย่างน่าประทับใจ  

ในตอน pilot ของ That ’70s Show ซีซั่นแรก เปิดฉากด้วยงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบอายุ 17 ปีของ Eric และหลังจากนั้นพอมีการไปโรงเรียนเกิดขึ้น เราจึงได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วทุกคนในกลุ่มนี้ยังเป็นเด็กมัธยมหมดเลย ซึ่งถ้าเอาปี 2022 เป็นที่ตั้ง วัยรุ่นอายุ 17 ใช่ช่วงปี 70s จะเป็น Generation X (1965-1980) ส่วนอายุของพ่อแม่ตัวละคร จะเป็น Silent Generation (1928-1945) โดยอ้างอิงจากคำพูดของ Red Forman (พ่อของ Eric) ที่มักพูดอยู่เสมอถึงเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีผลต่อชีวิตของตัวเอง ก็จะเห็นว่ามีความห่างระหว่างเจนที่ค่อนข้างเยอะมาก เรามักจะได้เห็นความไม่เข้าใจของตัวละครผู้ปกครองที่มีต่อเหล่าตัวละครวัยรุ่นเสมอ ทั้งการเหยียดวัฒนธรรมป็อปว่าเป็นสิ่งที่ตลก หรือการทำงานที่ไม่ได้เข้มข้นใช้แรงงานเท่ากับสมัยของตนไม่เท่ากับทำงานจริง เป็นต้น 

แต่ถ้าพูดถึงปัญหาชีวิตของตัวละคร ต้องบอกว่าทุกตัวละครหลักล้วนมีรากฐานที่บกพร่องบางอย่างในตัวเองติดตัวกันทั้งนั้น อย่าง Fez ที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ตอนหลังก็มีปัญหาเรื่องเอกสาร ทำให้กระทบต่อชีวิตวัยรุ่นที่อยากอยู่อเมริกา / ตัวละคร Hyde ก็เติบโตในบ้านที่พ่อแม่ไม่เลี้ยงดูเขาเลย ถึงขนาดว่าไม่มีบ้านให้กลับจนต้องอาศัยห้องใต้ดินของบ้าน Eric เสมอ / Jackie เป็นเด็กบ้านรวยที่ถูกสปอยล์มาโดยตลอด จนวันนึงพ่อของเธอที่เป็นนักการเมืองเกิดติดคุก ตัวเองก็ไม่ยอมรับความจริงขึ้นมาเสียอย่างนั้น / Michael เติบโตในครอบครัวที่มีการกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง และไม่มีใครสอนตัวเองว่า ‘ผู้หญิง’ ไม่ใช่วัตถุทางเพศของผู้ชาย / Eric มีปัญหาเรื่องพ่อที่เข้มงวดกับเขาอย่างหนัก และแม่ที่โอ๋จนเกินไป จนทำให้เกิดการต่อต้านในที่สุด

The Circle จุดไฟแล้วก็วน กับฉากดูดปุ๊นในตำนาน

ที่สุดของฉากดูดกัญชาในโลกของซีรีส์ คือฉากที่ถูกเรียกว่า The Circle ใน That ’70s Show ซึ่งเป็นฉากที่เรารู้ว่าตัวละครมาทำอะไรกัน โดยไม่เคยมีอุปกรณ์อย่างบ้อง / จ๊อยซ์ / หรือแม้แต่เศษผงของกัญชาให้เห็นแม้แต่นิดเดียวเว้ย อย่างเจ๋ง ! ทุกครั้งเราจะได้เห็นเทคนิคการถ่ายด้วยเลนส์ไวลด์ ผัดเปลี่ยนเวียนหน้าของทุกคนที่ตาแตก เยิ้ม ถูกล้อมด้วยกลุ่มควันโขมง หมุนเวียนเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ พร้อมกับเล่าปัญหาหรือสรุปวันของตัวเองให้กันและกัน เป็นไฮไลต์คลาสบำบัดย่อม ๆ ที่แฟนซีรีส์รอเจอในทุกตอน

* แต่ขอเตือนก่อนเลยนะครับว่าเราไม่สนับสนุนให้เยาวรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเล่นกัญชาแบบตัวละครในเรื่องเด็ดขาด แต่ถ้าอายุถึงเกณฑ์แล้ว ก็เสพกันอย่างมีสติผ่านผู้เชี่ยวชาญกันด้วยนะครับผม *

That ’90s Show การกลับมาของเหล่าตัวละครที่เราคิดถึง และตัวละครใหม่ที่วายป่วงไม่แพ้กัน

ถ้าคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วยังจำได้กัน ในตอนจบของซีซั่นที่ 7 จะใช้ชื่อตอนว่า ‘Till the Next Goodbye’ เป็นเหมือนการให้สัญญากลาย ๆ ว่าเรื่องราวใน point place ยังไม่ได้จบลงเท่านี้ .. และหลังจากการรอคอยเพื่อบอกลากันอีกครั้งเป็นเวลากว่า 17 ปี That ’70s Show ก็กลับมาอีกครั้งในภาคแยกที่มีชื่อว่า That ’90s Show พร้อมกับการเดินทางครั้งใหม่ ที่จับตัวละครที่เรารักมาประกบคู่กับตัวละครวัยรุ่นใหม่ ๆ ในปี 90s อันน่าตื่นเต้น ให้เราได้พร้อมหน้ากันอีกครั้งในวันที่ 18/01/2023 ฮือออ น้ำตาไหลพราก         

That ’90s Show จะเล่าเรื่องราวช่วงปิดเทอมฤดูร้อนในปี 1995 ของ Leia Forman ที่เธอตัดสินใจเดินทางกลับไปเยี่ยมคุณย่ากับคุณปู่ที่เมือง Point Place รัฐ Wisconsin แล้วเรื่องราวสุดวายป่วงแบบเดียวที่สมัย Eric และ Donna พ่อกับแม่ของเธอเคยเจอก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในบ้านและห้องใต้ดินของบ้าน Forman ที่ทุกคนคุ้นเคย

จากตัวอย่างที่ทาง Netflix ปล่อยออกมาเมื่อวานนี้ ก็จะเห็นว่าฉากบ้าน Forman ที่ปรับโฉมใหม่ก็ยังคงมีความเป็นของเก่าแบบ 70s อยู่เยอะทีเดียว แต่ถึงอะไรจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน The Circle ก็ยังคงอยู่ และการที่เราได้เห็น Kurtwood Smith และ Debra Jo Rupp กับมาประกบคู่กันในบท Kitty กับ Red คุณปู่คุณย่าของหลาน ๆ เป็นสิ่งที่เติมเต็มโชว์นี้ให้สมบูรณ์อย่างแท้จริง

ถึงทุกคนที่ยังไม่เคยดู That ’70s Show ซีรีส์เรื่องนี้มีภาพช่วงเวลาบ้า ๆ บอ ๆ ตอนอายุ 17 ของคุณซ่อนอยู่นะ อาจจะมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่พลังของคุณและเพื่อนในกลุ่มแต่ละคน แต่เชื่อผมเถอะ คุณจะเห็นภาพของช่วงเวลาดี ๆ ที่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเฉพาะตอนวัยรุ่นอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน : )