พบกันเดือนละครั้ง สำหรับหนังปังๆที่คุณสามารถหาชมได้ทาง Netflix ดับความร้อนของเดือนเมษายน ด้วยหนังเจ๋งๆมากมายเช่นเดิม ยิ่งวันหยุดยาวที่ประกาศห้ามเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ ก็ใช้ช่วงเวลานี้เปิด Netflix ดูกันให้ฉ่ำกันไปเลยแล้วกัน ซึ่งเดือนนี้เราก็มีทั้งหนังสายแมสและหนังนอกกระแสไอเดียแจ่มจากหลายประเทศให้ชมกันเช่นเคย APRIL 2nd CONCRETE COWBOY มาเริ่มต้นด้วยหนังดราม่าอบอุ่น ท่ามกลางสังคมคาวบอยในเมืองใหญ่ เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 15 ที่ต้องเดินทางมาอาศัยร่วมกับพ่อที่ไม่เคยคุยกันที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ความห่างเหินและการใช้ชีวิตในแบบคาวบอยหลงกรุงทำให้เด็กหนุ่มต่อต้านพ่อที่โลกไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ยังทำฟาร์มขี่ม้าหลงยุคอยู่เลย แต่ด้วยสังคมคนดำที่มักจะถูกดูแคลนว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อจะพิสูจน์ศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นคนที่เท่าเทียมกัน ในขณะที่ผู้เป็นพ่อแม้จะดูเย็นชากับลูกที่ไม่เคยได้เจอกัน แต่ก็พยายามเพื่อให้ลูกไม่หลงผิดกับสิ่งยั่วยุที่เข้ามา Concrete Cowboy คือการผสมผสานหนังดรามาสะท้อนสังคม มาเจอกับหนังคาวบอย ที่เผยทั้งปัญหาของคนชายขอบได้อย่างทรงพลัง ผู้ที่ได้ชมหนังเรื่องนี้จากการฉายในเทศกาลหนัง Toronto ต่างชื่นชมบทบาทการแสดงของ Idris Elba ที่เรามักจะเห็นกันจนชินชาจากหนังแอ๊กชั่นมากมาย (ล่าสุดที่กำลังจะฉายคือการรีบู๊ตอีกครั้งของหนัง The Suicide Squad) ให้กลายเป็นพ่อผู้มีแนวคิดในการใช้ชีวิตอย่างสุดโต่งได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้ชมที่รักในหนังดราม่า จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง APRIL 2nd MADAME CLAUDE หนังฝรั่งเศสที่สร้างจากเรื่องจริงของ Fernande Grudet แม่เล้าผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลแห่งยุค 60s ที่สร้างขื่อเสียงจากการจัดส่งเด็กๆในสังกัดสุดสวยบำเรอความใคร่ให้เหล่านักการเมือง ผู้มีชื่อเสียง รวมไปถึงมาเฟียใหญ่
ทุกวันนี้ อุบัติเหตุอยู่รอบกายแบบที่เราไม่คาดคิด โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนนที่พร้อมจะเกิดขึ้นทุก ๆวินาที และยิ่งอากาศร้อน ๆ แดดเปรี้ยงในช่วงเวลานี้ ดีกรีของอารมณ์ยิ่งพุ่งพล่าน เราจึงขอเสนอ 5 หนังสุดเดือด ของคนคลั่งที่เรามักเจอบนท้องถนน เผื่อเป็นอุทาหรณ์ เลี่ยงได้ก็จงเลี่ยง หลบได้ก็จงหลบ DUEL (1971) แค่แซงรถใหญ่ ก็ถูกไล่ล่าจนเกือบจะเอาตัวไม่รอด หนังเปิดตัว Steven Spielberg ในฐานะผู้กำกับหนังเป็นครั้งแรก แม้การประเดิมจะเริ่มต้นด้วยหนังทีวี แต่คุณงามความดีของมันก็ทำให้หนังพาตัวเองได้ฉายโรงใหญ่ในหลาย ๆ ประเทศภายหลัง (รวมไปถึงประเทศไทยที่ฉายหลัง Jaws จนตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ว่า “ไอ้จอว์สบก 18 ล้อ” เสียเลย ซึ่งตัวหนังก็ไม่ได้ต่างจาก Jaws นักในแง่ของความระทึกขวัญสั่นประสาท เพียงแต่เปลี่ยนจากทะเลเป็นถนนไฮเวย์อันร้อนระอุแทน เรื่องราวของชายหนุ่มที่ขับรถข้ามเมืองเพื่อไปให้ทันประชุม แต่ดันมาเจอรถขนก๊าซตรงหน้า เขาพยายามที่จะแซงไอ้ยักษ์บุโรทั่งคันนี้ไปให้ได้ แต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์เฉียดตายที่เขาต้องจดจำไปตลอดชีวิต เมื่อรถปริศนาคันนี้ ไล่จี้ตามติดจนชายคนนี้เกือบตายหลายต่อหลายครั้ง มันพร้อมจะเล่นสงครามประสาทบนท้องถนนเพื่อรับรู้ถึงภัยอันน่ากลัวที่คุณไม่มีวันคาดคิด แม้จะหลบซ่อนมันยังไง สุดท้ายไอ้ตีนผี 18 ล้อก็เจอทุกที่ ในเมื่อหนีไม่ได้พระเอกของเรื่องก็ดับเครื่องชนมันเสียเลย กับหนังเรื่องนี้ Spielberg ได้รับคำชมในฐานะการสร้างความระทึกขวัญสั่นชีพจร ในสถานการณ์ที่ยากจะคาดเดาและไร้ซึ่งเหตุผล แต่กลับตรึงคนดูให้ลุ้นตลอดเวลา
เจ้าหน้าที่สาวค่อย ๆ เดินเข้าไปยังห้องขังที่คราคร่ำไปด้วยนักโทษคดีพิสดารมากมาย แต่ในห้องที่ลึกที่สุดกลับกักขังผู้ชายที่อันตรายที่สุดเอาไว้ในห้องนิรภัยที่มีล็อกไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งเธอค่อย ๆ เดินเข้าไป รังสีอำมหิตก็ค่อย ๆ แผ่ซ่านคืบคลานมาใกล้ จนเธอเดินไปยังจุดหมาย เพียงแค่สายตาของเขาที่จับจ้องมา ก็จู่โจมจนเธอชะงักงัน ทั้ง ๆ ที่มีกระจกนิรภัยอันหนาแน่นกั้น แต่สัมผัสได้ถึงการคุกคามจนยากที่ขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้ แววตาอันแข็งกร้าวภายใต้น้ำเสียงอันทุ้มนุ่มลึกนี้ สร้างความหวาดกลัวให้กับนักอ่านและคอหนังมาแล้วถึง 4 ทศวรรษ UNLOCKMEN ขอนำคุณไปทำความรู้จักกับฆาตกรอัจฉริยะ Hannibal Lecter ที่สร้างตำนานความโหดและความเฉลียวฉลาดผ่านหนังและซีรีส์มาอย่างมากมาย เพื่อรับรู้ว่า เขาคือวายร้ายที่โลกรักที่สุดในโลกภาพยนตร์ Dr. Hannibal Lecter โลดแล่นบนหน้ากระดาษผ่านนวนิยายฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน ตั้งแต่ปี 1981 โดยผู้ประพันธ์ Thomas Harris ได้แรงบันดาลใจของฆาตกรสุดอำมหิตแต่ฉลาดเป็นกรดนี้มาจากการที่เขาได้ทำงานเป็นนักข่าวให้กับนิตยสาร Argosy และมีโอกาสได้สัมภาษณ์ฆาตกรโรคจิตรายหนึ่งที่ถูกผู้คุมยิงได้รับบาดเจ็บจากการหลบหนี ณ เรือนจำรัฐ Nuevo León ในระหว่างที่ทำการสัมภาษณ์นั้น Thomas ก็ได้พบหมอที่ให้การรักษา Dr. Alfredo Ballí Treviño ที่ใครต่อใครในนั้นเรียกหมอคนนี้ว่า “Dr.Salazar” ชายผมแดงตัวเล็กท่าทางสุภาพคนนี้ อธิบายการรักษา
แม้จะผ่านปี 2021 มาแล้ว 2 เดือน แต่สถานการณ์ของวงการหนังก็ยังไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะโรงหนังที่ยังไม่มีสตูดิโอไหนกล้าที่จะปล่อยหนังเด็ดหนังใหญ่ให้ได้ดูกันแบบปกติเหมือนปีก่อน ๆ เช่นเคย แต่ช้าก่อน…ถึงแม้บางคนยังไม่กล้าที่จะดูหนังในโรง แต่สตรีมมิ่งอย่าง Netflix ก็ยังเสนอความร้อนแรงผ่านหนังหลากหลายให้ได้ชมกันเช่นเดิม และในเดือน มีนาคม 2021 นี้ Netflix ก็ยังมีหนังดี ๆ หลากแนว หลายรูปแบบให้ชม ทั้งสารคดี / หนังแอ๊คชั่น ไปยันหนังตลกก็มีให้ชมอย่างจุใจ แถมยังมีหลายสัญชาติให้คอหนังได้ลองลิ้มชิมรสชาติที่แตกต่างอีกด้วย ไปดูกันว่าเดือนนี้ มีหนังอะไรเด็ด ๆ ที่ UNLOCKMEN ภูมิใจเสนอให้ดูกันบ้าง เริ่มต้นด้วยสารคดีที่เล่าถึงแร็ปเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญให้กับวงการ Hip Hop ก่อนถูกลอบสังหารอย่างเป็นปริศนาที่ค้างคาใจครอบครัวมาตลอด 24 ปี หนังเล่าเรื่องของ Christopher George Latore Wallace หรือ ฉายา Biggie Smalls ที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเกือบจะได้เป็นศิลปินแจ๊ส ก่อนชีวิตจะหักเหไปสู่หนทางแห่งการค้ายา อำนาจ และพลังแห่งดนตรี
ภาพยนตร์ที่ทั้งสมชายชาตรี ดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ ต้องยกให้ภาพยนตร์แนวสงครามบู๊แหลกลาญเลือดสาดจากเหล่าทหาร โดยเฉพาะเรื่องที่สร้างแบบ Based on true story ยิ่งทำให้ความมันส์เพิ่มเป็นทวีคูณ ได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ บางเรื่องดูไปต้องเปิด Wikipedia ควบคู่ตามไปด้วยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม และสำหรับคนที่ไม่ได้มีแพลนจะไปออกไปเที่ยวที่ไหน อยากจะอยู่บ้านติดหน้าจอเพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ เราได้ระดมรายชื่อหนังสงครามที่จะดูดให้ตูดคุณติดโซฟาได้ยาวนานถึงวันทำงานมาฝาก ที่คุณต้องทำก็แค่เตรียมเบียร์เย็น ๆ ไว้ในมือขวา พร้อม remote กดสั่งเช่าหนังดูทางออนไลน์ผ่าน Online Streaming ที่มีให้เลือกมากมายก็พอ 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ภาพยนตร์เรื่องราวของทหารรักษาความปลอดภัยจากหน่วยงาน Global Response Staff (GRS) ที่ต้องเอาตัวรอดจากใจกลางฐานทัพผู้ก่อการร้าย พร้อมป้องกันชีวิตเจ้าหน้าที่ CIA, พนักงาน และประชาชนภายในที่มั่นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในเบนกาซี ประเทศลิเบีย ซึ่งการบุกโจมตีหลายระลอกโดยผู้นำ Ansar al-Sharia นั้นบอกเลยว่าหนักหน่วง จึงเป็นหน้าที่ของ Jack Silva และเพื่อนทหาร ในการยันข้าศึกเพื่อรอความช่วยเหลือให้ได้อย่างน้อย 13 ชั่วโมง ภาพยนตร์สร้างจากการดัดแปลงเนื้อหาในหนังสือ 13
คุณชอบดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ไหม? แล้วถ้าชอบ คุณดูหนังฮีโร่ฝั่งมาร์เวลหรือดีซี? หรือคุณไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ชื่นชอบที่จะเห็นค่ายสร้างหนังฮีโร่แห่งยุคแข่งขันกัน เพราะผู้ชมอย่างเราก็จะได้กำไรแบบสองต่อ ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวงการฮอลลีวูดหลายยุคหลายสมัย ย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อนเรามีซูเปอร์แมนหลายภาค มีวันเดอร์วูแมนฉบับคนแสดงที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก แต่ทิศทางของความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป อาจเพราะค่านิยมตามสมัย รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้กุมบังเหียนค่าย NIHON STORIES สัปดาห์นี้จะพาผู้อ่านไปพบกับหัวหอกคนสำคัญแห่งยุคของบริษัทสร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ วอร์เนอร์บราเธอส์ (Warner Bros.) หรือในนามอักษรย่อว่า WB อย่าง วอลเตอร์ ฮามะดะ (Walter Hamada) ที่ขึ้นกุมบังเหียนค่าย DC ที่อยู่ในสังกัด WB ในช่วงเวลาแสนสำคัญที่ทำให้ค่ายหนังกวาดคำชมจากกลุ่มนักดูหนังไปได้อีกครั้ง ย้อนกลับไปหลายปีก่อน ฮามาดะจะเป็นผู้ควบคุมโปรเจกต์ภาพยนตร์หนังผี New Line Cinema ในปี 2007 ค่ายหนังในเครือ WB และมีส่วนร่วมกับการสร้างภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งหลายเรื่องทั้ง The Conjuring ที่ทำร่วมกับ เจมส์ วาน (James Wan) หรือ IT, The Gallows และ Annabelle เขาเป็นผู้บริหารและหุ้นส่วนบริษัท H2F
เมื่อเทศกาล Halloween วนกลับมาอีกหน ปีนี้หลายคนอาจไม่ได้ออกท่องราตรีที่ไหนเพราะกลัวคนเยอะ คนแน่น แล้วต้องกลับมากังวลเรื่อง COVID-19 การเลือกอยู่บ้าน แล้วหาหนังหลอน ๆ รับกับบรรยากาศวันปล่อยผีดูสักเรื่องหรือหลายเรื่องก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หนังผีใคร ๆ ก็คงแนะนำกันบ่อยแล้ว UNLOCKMEN อยากชวนดูหนังที่ เฮ้ย ก็ไม่มีผีโผล่ออกมาหรอกนะ แต่ดูแล้วชวนหวาดหวั่น ประสาทมันสั่นกลัวสุดขีดคลั่ง รับรองว่าดูไปอดรีนาลีนหลั่งไปแน่นอน US ว่ากันว่าสิ่งที่ชวนขนพองสยองขวัญที่สุดอาจไม่ใช่ผี ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเรานี่เอง US คือหนังที่เล่นกับความหลอนในหัวใจมนุษย์ว่าถ้าเราไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวอีกต่อไปล่ะ? ถ้ามีตัวเราอีกคน ที่รูปกายภายนอกเหมือนเราแทบทุกประการ แต่เรากลับไม่รู้ว่าลึก ๆ เราอีกคนต้องการอะไรกันแน่? และมันจะระทึกขวัญสักแค่ไหน เมื่อตัวเราอีกคนเริ่มออกมาไล่ล่าตัวเรา นอกจาก US จะทำให้ใจเต้นสั่นระรัวแล้ว ยังแฝงประเด็นให้ชวนขบคิดว่าที่เราเป็นเราทุกวันนี้มันเพราะความสามารถของเรา หรือเพราะโอกาสบางอย่างที่เราเข้าถึงได้มากกว่าคนอื่นกันแน่ และถ้าเราอีกคนเขาดันเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่ผลักให้เขาต้องออกล่าอย่าป่าเถื่อน เรื่องราวชวนขนลุกนี้จะจบลงอย่างไร? เปิดดูในวันปล่อยผี ถึงไม่มีผีแต่มีหลอนแน่นอน Get Out ยังพาไต่ระดับความหลอนกับหนังเขย่าประสาทของผู้กำกับ Jordan Peele ถ้า US ว่าด้วยความหลอนของการมีตัวเราอีกคน Get Out ก็จะพาเราดำดิ่งไปในความหลอนของการติดอยู่ในร่างกายตัวเอง!
ในช่วงที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ถูกเลื่อนฉายออกไปเรื่อย ๆ คอหนังหลายคนคงจะเบื่อกับการที่ไม่มีหนังใหม่ ๆ เข้าโรงให้ได้ชมกัน ค่ายหนังส่วนใหญ่รู้สึกไม่ต่างกันว่าการนำหนังของตัวเองฉายตามกำหนดการปกติอาจไม่คุ้มเสี่ยงเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุผลเรื่องวิกฤตไวรัส ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยากเข้าโรงหนังเท่าไหร่นัก ในเมื่ออยู่บ้านเบื่อ ๆ ไม่รู้จะทำอะไร หนังเรื่องใหม่ที่อยากดูก็ยังไม่เข้า เราจึงอยากแนะนำภาพยนตร์ญี่ปุ่นหมวดตามล่าล้างแค้น 5 เรื่อง ให้เป็นตัวเลือกเผื่อว่ายังมีบางเรื่องที่คอหนังยังตามเก็บไม่ครบ LADY SNOWBLOOD (1973) ภาพยนตร์ที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ เควนติน ทารันติโน ลงมือสร้างหนังโคตรดังอย่าง Kill Bill เปิดมาขนาดนี้ใคร ๆ ต่างก็ต้องให้ความสนใจกับหนังตามล้างแค้นเรื่อง Lady Snowblood (1973) เรื่องราวกดดันจะถูกเล่าไปพร้อมกับเด็กสาวนามว่า ‘ยูกิ’ ที่ลืมตาดูโลกก็รู้จักกับคำว่าล้างแค้นตั้งแต่แรก แม่ของเธอมีปมความแค้นบางอย่างและมุ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะฝากความหวังทั้งหมดให้กับลูกสาวตัวเอง ผู้เป็นแม่ได้พร่ำสอนยูกิตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าเธอต้องรู้สึกแค้น เธอจะต้องล้างแค้นให้แม่ สอนให้จับดาบซามูไร มีชีวิตแตกต่างจากเด็กสาวบ้านอื่น ๆ เพราะเธอต้องเชี่ยวชาญการต่อสู้ มีอารมณ์ที่สงบนิ่ง ไม่ไหวติงต่อสิ่งเร้า เธอต้องแข็งแกร่งเพื่อตามล่าบุคคลนิรนาม 4 คน ที่สร้างความเจ็บช้ำจนเกิดเป็นความแค้นยาวนานหลายสิบปีนี้ให้ได้ ซาโต้อิจิ ไอ้บอดซามูไร (2003) ซาโต้อิจิ ไอ้บอดซามูไร
สำหรับผู้ชายผู้ชื่นชอบรถยนต์ การได้ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกแห่งความเร็ว นอกจากจะได้ความเพลิดเพลิน ยังได้เกล็ดความรู้และประวัติของรถคันนั้น ๆ ให้ไปหาข้อมูลต่อกันได้เสมอ และนี่คือภาพยนตร์ 5 เรื่องเกี่ยวกับลูกผู้ชาย รถยนต์ และความเร็ว ที่มาพร้อมกับเรื่องราวแห่งมิตรภาพ แต่ละเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรและจะมีความสัมพันธ์แบบไหนที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้ชมกันบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย FORD V FERRARI Ford V Ferrari คือภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนไปพบกับสงครามความเร็วระหว่างค่ายรถสายพันธุ์อเมริกันอย่าง Ford และผู้คร่ำหวอดในวงการรถแข่งจากประเทศอิตาลีอย่าง Ferrari บนสังเวียนการแข่งขันรถยนต์สุดโหด 24 Hours Of Le Mans ในช่วงต้นปี 1960 Ford V Ferrari จะพาเราไปรู้จักกับเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของโมเดลรถยนต์ในตำนาน Ford GT40 mk II พร้อมกันนั้นยังนำเสนอมุมมองของมิตรภาพระหว่างผู้คนได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเรื่องราวของ Carroll Shelby และ Ken Miles 2 ตัวเอกในเรื่องที่แม้จะมีปัญหาถกเถียงกันหรือเห็นต่างกันในหลายช่วงเวลา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการพัฒนารถยนต์และการแข่งขันทั้ง 2 คนก็ยังคงเคารพและไว้ใจกันเสมอ อีกความสัมพันธ์ที่น่าสนใจคือเรื่องราวระหว่าง Ken Miles
ลืมตาตื่นขึ้นมาเผชิญชีวิตท่ามกลางอุณหภูมิ 30 กว่าองศาฯ แต่รู้สึกร้อนราวกับว่า 40 กว่าองศาฯ อีกหนึ่งวัน แสงอาทิตย์คือชีวิต แต่อีกทางหนึ่งเราก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าหากแสงอาทิตย์แปรพักตร์ กลายเป็นปรปักษ์ต่อลมหายใจของมนุษย์ โลกใบนี้จะเป็นอย่างไร? Into the Night คือซีรีส์ระทึกขวัญ เมื่อแสงอาทิตย์ไม่ได้เป็นความอบอุ่นและสัญลักษณ์แห่งชีวิตอีกต่อไป แต่รุ่งอรุณกลับนำพาความตายมาเยือนโลกมนุษย์ ใครที่สัมผัสแสงแดดมีทางเลือกเดียวคือหมดลมหายใจ และผู้ที่อยากมีชีวิตรอดให้ได้ จึงต้องพาตัวเองมุ่งหน้าสู่ความมืดมิดแห่งคืนค่ำเท่านั้น ไม่เวิ้นเว่อวุ่นวาย เพราะโลกแตกสลาย ความหมายมีแค่การเอาตัวรอดเท่านั้น เราคงไม่ปฏิเสธว่าหนังโลกแตก มนุษย์ต้องเอาตัวรอดให้ได้ หนีตายบนพาหนะอะไรสักอย่างไม่ใช่พล็อตใหม่ และชวนให้สงสัยว่ามันยังดึงดูดใจคนดูอย่างเราได้จริงไหม? แต่ Into the Night พาเราหลุดเข้าไปในหนังโลกแตกระทึกขวัญเอาตัวรอดในรสชาติแปลกใหม่ ที่ขอกระซิบว่าถ้ายังไม่ได้เริ่มดูก็อย่าเพิ่งตัดสินหนังเรื่องนี้ หนังโลกแตกปกติ มักให้ความสำคัญกับความสมจริง จนฉายภาพปูพื้นให้เห็นว่า “เพราะอะไรโลกถึงเกิดหายนะขึ้น?” จนต้องมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ปูภาพ หรือฉากห้องแล็บนักวิจัยที่แสดงข้อมูลจำนวนมากน่าเชื่อถือ แต่ Into the Night กลับเปิดเรื่องเรียบง่าย กลุ่มคนเพียงหยิบมือหนึ่งที่กำลังจะขึ้นเครื่องบิน และถูกทหารนายหนึ่ง (ที่บังเอิญรู้เรื่องแสงอาทิตย์หายนะ) ปล้นเพื่อพาเครื่องบินมุ่งตรงสู่กลางคืน หนีแสงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกของโลก บนเครื่องบังเอิญมีผู้มีความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ที่พออธิบายเหตุผลคร่าว ๆ อยู่บ้าง และที่เหลือคือการเสิร์ชหาเอาจากอินเทอร์เน็ต ในทางหนึ่งการปูเรื่องจากมุมมองตัวละครแบบนี้ทำให้เรารู้สึกสมจริงยิ่งขึ้น เพราะหากโลกใบนี้ต้องแตกแหลกสลายพังพินาศลงจริง