OTAKU 101: โอตาคุรุ่นเก๋ามาทางนี้! ‘บากิ’ มังงะบ้าพลังยุคบุกเบิกคืนชีพมาโลดแล่นอีกครั้งบน NETFLIX

ถ้าพูดถึงการ์ตูนยอดนิยมยุคนี้ไม่ว่าจะเป็น One Piece, My Hero Academia, The Promised Neverland และเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง แม้ว่าการ์ตูนเหล่านี้จะมีพล็อตแตกต่างกัน แต่เกือบทุกเรื่องมีคอนเซ็ปต์ที่คล้ายกันคือการผจญภัยโดยมีฉากหลังเป็นพลังมิตรภาพ

ในขณะที่การ์ตูนแนวลูกผู้ชายกล้ามโตที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากนอกจากการต่อสู้แบบบ้าพลังแทบจะหายไปจากตลาดเลยก็ว่าได้ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ 20-30 ปีก่อนที่เป็นยุครุ่งเรืองของการ์ตูนแนวนี้ หลายเรื่องขึ้นหิ้งกลายเป็นตำนานที่ยังถูกพูดถึงมาจนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ, ซามูไรพเนจร, จอเกบูลส์ รวมถึงเรื่องที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้อย่าง ‘บากิ’

ย้อนความหลัง สำรวจเรื่องราว

‘Baki the Grappler’ หรือที่คนไทยเรียกสั้น ๆ ว่า ‘บากิ’ คือผลงานมังงะจากปลายปากกาของ  Keisuke Itagaki ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1991 ลงในนิตยสาร Weekly Shōnen Champion ซึ่งถ้านับถึงตอนนี้มังงะเรื่องนี้ก็มีอายุกว่า 28 ปีเข้าไปแล้ว ฉบับรวมเล่มมีทั้งหมด 132 เล่ม โดยแบ่งเป็น 4 ภาค ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมภาคย่อยที่มีอีกไม่น้อย

บากิเป็นการ์ตูนที่เล่าเรื่องย่อได้ง่ายที่สุด เพราะทั้งเรื่องแทบจะไม่มีแก่นเรื่องใด ๆ เลยนอกจากการต่อสู้ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหนุ่มมัธยมปลายนาม ‘ฮันมะ บากิ’ ภายนอกเขาก็ดูไม่แตกต่างจากเด็กวัยเดียวกันคนอื่น ๆ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าภายใต้บุคลิกเงียบ ๆ ของเขานั้น แท้จริงบากิคือยอดนักสู้ในสังเวียนใต้ดินและเป็นลูกชายของผู้ที่ได้รับฉายาว่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดบนปฐพี ‘ฮันมะ ยูจิโร่’ ชายที่แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายังต้องก้มหัวให้

บากิมีชีวิตอยูด้วยความเคียดแค้นผู้เป็นพ่อ เนื่องจากยูจิโร่คือคนที่ฆ่าแม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงฝึกฝนตัวเองให้เก่งกาจเพื่อที่สักวันเขาจะโค่นยูจิโร่ลงได้

คืนชีพอีกครั้งบน Netflix

จะเรียกว่าคืนชีพก็คงไม่ถูกนักเพราะบากิฉบับมังงะแทบจะไม่เคยหายไปไหน ออกภาคใหม่มาให้เหล่าแฟน ๆ ได้ตามอ่านกันตลอด โดยล่าสุดภาค 4 ก็เพิ่งจบไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ เรียกว่าเป็นการคืนชีพในรูปแบบอนิเมะมากกว่า แม้บากิจะเป็นการ์ตูนยอดฮิตขึ้นหิ้งระดับตำนานไปแล้วแต่ในด้านอนิเมะนั้นแทบไม่เคยมีให้เห็นเลย

บากิเคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะแค่ครั้งเดียวเมื่อปี 2001 แต่ด้วยลายเส้นสุดห่วย โปรดักชั่นระดับต่ำกว่ามาตรฐานทำให้แฟน ๆ หลายคนไม่อยากนับว่านั่นคืออนิเมะเรื่องบากิ

จนกระทั่งในปี 2018 นี้สาวกเจ้าหนุ่มจอมพลังได้ดีใจเนื้อเต้นกันอีกครั้งเมื่อ Netflix บริษัทสตรีมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ประกาศออกมาว่าจะปล่อยอนิเมะเรื่องบากิที่ทุกคนคิดถึงออกมาให้ได้ชมกัน

In Search Of Our Strongest Hero

ในส่วนเนื้อเรื่องที่ทาง Netflix เลือกมาสร้างเป็นอนิเมะซีรีส์นั้นอยู่ในช่วงภาค 2 ชื่อภาคว่า In Search Of Our Strongest Hero หนึ่งในภาคที่แฟน ๆ บากิชื่นชอบมากที่สุดภาคหนึ่งก็ว่าได้ ด้วยเนื้อเรื่องอันเข้มข้นและฉากต่อสู้ที่ทั้งโหด ทั้งดิบ!

เรื่องราวเริ่มต้นต่อจากภาค 1 หลังจากที่บากิคว้ารางวัลแชมป์เปี้ยนในศึกการประลองใต้ดินทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้ยอดฝีมือ ในเวลาเดียวกันทั่วทั้งโลกได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่ออยู่ ๆ เหล่านักโทษประหารจอมโหด 5 คนพร้อมใจแหกคุกออกมาพร้อม ๆ กัน และทุกคนต่างมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่นเพราะรับรู้ได้ว่าที่นี่มีนักสู้ฝีมือดีอยู่มากมาย พวกเขาต้องการความพ่ายแพ้เป็นเหมือนเป้าหมายสุดท้ายในชีวิต

ถึงแม้ว่าบากิและเหล่านักสู้ในดินแดนอาทิตย์อุทัยจะเก่งกาจ แต่บอกไว้เลยว่าฝั่งนักโทษก็ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น

• โดเรี่ยน นักโทษจอมโหดจากอเมริกาที่รอดชีวิตจากการโดนแขวนคอนานกว่า 10 นาที ก่อนที่เขาจะฆ่าผู้คุมทุกคนแหกคุกออกมาและเดินทางสู่ญี่ปุ่นด้วยการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรแปซิฟิค!
• สเปค จากอเมริกาเช่นกัน เขาถูกคุมขังอยู่ในเรือดำน้ำซึ่งอยู่ลึกกว่า 20,000 เมตร ซึ่งถ้าเป็นคนปกติถ้าอยู่ในน้ำลึกขนาดนี้คงโดนแรงดันน้ำจนตัวแตกไปแล้ว แต่เขากลับแหกคุกว่ายน้ำขึ้นมาได้หน้าตาเฉย
• ดอยน์ นักโทษประหารจากอังกฤษ เขาโดนจับนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าแต่ของแค่นั้นไม่สามารถฆ่าเขาได้ เขาจัดการฆ่าผู้คุมทุกคนที่ทำให้เขาต้องผิดหวังในการพบเจอความพ่ายแพ้ ไม้เด็ดของเขาคือมีดแหลมคมซึ่งฝังอยู่ในผิวหนัง
• ชิคอฟสกี้ นักโทษประหารจากรัสเซีย เขามีพลังนิ้วอันมหาศาล สามารถปีนพื้นผิวราบเรียบของฐานยิงขีปนาวุธซึ่งสูงหลายร้อยเมตรได้ด้วยมือเปล่า ๆ
• ยานางิ ริวโก นักโทษประหารชาวญี่ปุ่น ชายผู้มีขนาดตัวเล็กเท่าเด็กสาวมัธยมต้น แต่ภายใต้รูปร่างที่ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยเขามีอาวุธอันร้ายกาจซ่อนอยู่

เมื่อทั้ง 5 คนนี้ต้องโคจรมาปะทะกับบากิและเหล่านักสู้ญี่ปุ่นที่ล้วนเก่งกาจทุกคน ความโหด มันส์ ดิบ จึงบังเกิดขึ้นโดยมีมหานครโตเกียวเป็นฉากหลัง และในตอนนี้บากิฉบับ Netflix ได้ปล่อยฉายในโซนประเทศญี่ปุ่นแล้วแต่ยังไม่กำหนดว่าแฟน ๆ ชาวไทยจะได้รับชมเมื่อไร แต่เชื่อว่าไม่นานเกินรอแน่นอน ล้างคอรอรับความบ้าพลังกันไว้ได้เลย!