Life

BE A (GOOD) BAD BOY: เลิกเป็นผู้ชายดีเกินไป ด้วยวิถีคนเข้มเต็มข้อทั้งเรื่องงานและความรัก

By: PEERAWIT May 4, 2018

เคยรู้สึกมั้ยว่าทำไมโลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรม เป็นคนดีก็ไม่มีที่อยู่ ทำคุณก็บูชาโทษ ตั้งใจทำงานก็โดนเอาเปรียบ มีน้ำใจก็โดนสังคมรอบข้างรังแก รักจริงก็โดนทิ้งตลอด อยากจะหนีมันไปให้ไกลพร้อมกับประโยค “เธอมันดีเกินไป”

ถ้ารู้สึกว่าทุกคำที่ผ่านมามันโดนใจ แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องปฏิวัติตัวเองแล้ว No more nice guy ! วันนี้ตูจะกลายเป็นผู้ชายสายเข้มเต็ม ๆ ข้อ แล้วพวกคุณจะต้องร้อง ว่อววว นี่มัน Bad Boy ชัด ๆ

แต่เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม ดึงสติกลับมากันหน่อย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าประชดสังคมประชดรักด้วยการดึงความโฉดในตัวเองออกมาเริงร่า เอาเป็นว่าการเป็น Bad Boy ในที่นี้คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองในการใช้ชีวิตโดยไม่สร้างทำความเดือดร้อนให้ใคร จะได้มันส์กับชีวิตได้เต็มที่และปลดล็อกศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างมั่นใจสไตล์ใครสไตล์มัน หากใครรู้สึกว่ามันใช่สิ่งที่ต้องการ ทีมงาน UNLOCKMEN มีแนวทางของชายสาย (Good) Bad Boy มาแนะนำให้ลองนำไปปรับใช้กันดูให้มันรู้ไปเลยว่าเวิร์กจริงหรือไม่ทั้งกับเรื่องงานและความรัก

 

ทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้อง

ในฐานะ “คนดี” เรามักจะเกรงใจผู้อื่นมากเกินไป กังวลว่าการตัดสินใจและการกระทำของเราจะไปกระทบกระทั่งคนอื่น ซึ่งมันทำให้เราขาดจุดยืน เช่น ยินดีที่จะทำงานแทนผู้อื่น รับความผิดที่ไม่ใช่ของตัวเองไว้กับตัวเพื่อปกป้องคนรอบข้าง และพร้อมที่จะยกเลิกแผนส่วนตัวเพื่อเอาเวลามาตอบสนองความต้องการของสาวที่เดทอยู่ มันก็ไม่ผิดหรอกที่คุณมีน้ำใจ แต่มันจะทำให้คนอื่นเคยตัว คิดว่าคุณนั้น “ง่าย” และเป็น “ของตาย” จนกลายเป็น “ความทุกข์ที่คุณยินดีจะรับไว้”

ไม่ได้บอกว่าให้เห็นแก่ตัวนะครับ แต่อยากให้ทำตามสิ่งที่ตัวคุณเองต้องการน่าจะเหมาะกว่า อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของคุณในชีวิตเขา จ้องแต่จะเอาประโยชน์จากคุณอย่างเดียว ทำตัวเองให้มีค่า และดูว่าคนไหนที่ให้เกียรติคุณจริง ๆ หากคิดจะมีน้ำใจเพื่อการกุศลก็ต้องแน่ใจแล้วว่าเราจะไม่เดือดร้อนและสูญเสียตัวตน

 

อย่ายึดเธอเป็นที่ตั้ง

ก่อนอื่น ถามตัวเองก่อนว่า เธอคือเหตุผลหลักของความสุขและการมีชีวิตอยู่ของคุณหรือไม่ ? และถ้าขาดเธอไปคุณจะรู้สึกว่าชีวิตนี้มันไร้ค่า จนพยายามทำทุกทางเพื่อไม่ให้สูญเสียเธอไปหรือเปล่า ? แล้วคุณรู้สึกว่าไร้ค่ามั้ยสำหรับเธอ ? ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ทั้งหมด ก็มีความเป็นไปได้ว่าความรู้สึกนี้อาจทำให้เธอจัดคุณให้อยู่ใน friend zone ไม่ก็ต่อต้านคุณไปเลย การที่คุณยึดติดกับเธอมากเกินไปจะทำให้เธอรู้สึกกดดัน ไม่เป็นธรรมชาติ เป็นบ่อเกิดแห่งความเซ็งเป็ด และรำคาญคุณสุด ๆ

ถ้าเป็นแบบนี้คุณต้องเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของตัวเอง ยอมรับความอ่อนแอส่วนตัว และอย่ารักคนอื่นมากกว่ารักตัวเอง จำไว้ว่า หากคุณยกย่องเธอราวกับเป็นเซเลบ เธอจะมองคุณเป็นพวกพวกโรคจิตที่คอยตามติดชีวิตดารา!

 

ททท. = ทำทันที

ขออนุญาตยกคำเด็ด “ททท. = ทำทันที” ของคุณ​ “วู้ดดี้ – วุฒิธร มิลินทจินดา” ที่เคยให้สัมภาษณ์กับ UNLOCKMEN จากคอนเท้นต์นี้ มาเน้นย้ำกันอีกครั้ง เพราะว่ามันจริงและทรงพลัง

จากผลการสำรวจอัตราการสมหวังในความรักระหว่าง Bad Boy และ Nice Guy ปรากฏว่าตัวเลขที่ออกมานั้นพอ ๆ กัน แต่ความแตกต่างมันอยู่ตรงนี้ครับ ชายแสนดีจะใช้พลังงานและเวลามากมายในการวิ่งไล่จีบสาวคนหนึ่ง และพอแห้วรับประทานขึ้นมาก็จะใช้เวลาเลียแผลตัวเองเป็นเดือนกว่าจะกลับมาสู่วงการหาคู่อีกครั้ง อย่ารอความหวังลม ๆ แล้ง ๆ อย่างเช่นรอให้เธอเลิกกับเขาแล้วเราจะรักษาแผลให้ ควรหาเป้าหมายอื่นที่ว่างอยู่ดีกว่า ส่วนการใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาเธอก่อนจะแสดงความชัดเจนว่าคุณต้องการจะจีบ แบบนี้มีโอกาสคว้าน้ำเหลวสูง เพราะมันเลยจังหวะในการแสดงเจตนารมณ์รักมาแล้ว

การถูกหักอกมา 3 คนติดไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงทั้งโลกจะไม่สนใจคุณ แค่พักเรื่องรักให้พอหายเหนื่อย พัฒนาตัวเองทั้งวิธีคิดและการกระทำ จากนั้นก็ล่าต่อได้เลย พอเจอสาวที่ถูกใจก็อย่ารอช้า จริงใจ ตรงไปตรงมา ชัดเจนกับเธอไปเลย อย่าเพิ่งไปคิดล่วงหน้าว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

 

ดูหนังโรแมนติกให้มันน้อยลง

Nice Guy มักจะมากับช่อดอกไม้ ชอบเดทแบบโรแมนติก และทำทุกอย่างให้มันดู “เยอะ” เพื่อแสดงความคลั่งไข่ (ขออภัยครับพิมพ์ผิด) คลั่งไคล้ในสาวที่จีบอยู่ และมันมักจะได้รับผลที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

สังเกตดูพล็อตหนังโรแมนติกหลาย ๆ เรื่องนั้นค่อนข้างจะน้ำเน่า เริ่มจากชายที่แสนดี (มักจะฐานะไม่ค่อยดีและไม่ค่อยมีเสน่ห์) ไปตกหลุมรักเข้ากับสาวที่สวยที่สุดในเมือง แต่ก็ถูกหนุ่มมาดร้ายที่ร่ำรวยและทรงเสน่ห์กว่าคาบเธอไปกิน จากนั้นชายที่แสนดีก็ปิดกั้นตัวเองจากความรักทั้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเหงา สุดท้ายนางเอกก็ตระหนักได้ว่าความรักที่แท้จริงคือชายคนดีคนนั้น เธอกลับไปหาเขา แต่งงานกัน มีลูก ๆ ที่น่ารัก มีความสุขด้วยกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จบบริบูรณ์ (โดยไม่มีภาพยนตร์ท้ายเครดิต)

อย่าเคลิ้ม เพราะมันไม่ได้จะเกิดขึ้นในโลกของความจริงเสมอไป! ถ้าเธอไม่รักคุณไม่ชอบคุณ ก็อย่าไปเสียเวลาตามจีบเธอเลย เอาเวลาไปให้ค่ากับสาวที่รู้สึกและดูแลคุณในแบบเดียวกันกับคุณดีกว่า

 

ต้องเข้าใจว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม

เราทุกคนต่างถูกพร่ำสอนมาว่าชีวิตนี้เราต้องทุ่มเททำงานให้หนักและทำดีกับทุกคน แล้วจะได้งานดี ๆ คู่ชีวิตที่ยอดเยี่ยม แต่ในความเป็นจริงนั้นมันไม่ใช่ (คุณก็รู้) การมองโลกในแง่ดีมากเกินไปจะทำให้เรากลายเป็นเหยื่อได้ และอย่าเหนื่อยกับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าโลกนี้จะยุติธรรมมากขึ้น แฟร์กับเรามากขึ้น เพราะมันคงยังไม่ถึงวันนั้นเร็ว ๆ นี้

ชีวิตเราเลือกได้ว่าจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตในการเป็นเหยื่อให้ผู้ล่า หรือเลือกที่จะตามคนให้ทัน เวลามีการดีลกันเรื่องธุรกิจคุณต้องคิดถึงความสำเร็จ ไม่ใช่นึกถึงความอยู่รอด นั่นหมายความว่าคุณต้องรู้เขารู้เรา สร้างคอนเนคชั่น และบางครั้งก็ต้องเล่นตามน้ำบ้าง อย่าดีเกินไปจนโดนใคร ๆ เขาหลอก

 

สื่อสารอย่างชัดเจน

เรื่องนี้ผู้เขียนเคยโดนสาวที่เดทด้วยคอมเม้นต์มาว่า “อย่าตามใจมากเกิน เดี๋ยวเคยตัว” นั่นแปลว่าคุณควรจะเป็นตัวของตัวเองและสื่อสารให้ชัดเจนถึงความต้องการ และแสดงความเห็นจากความคิดของคุณออกมาตามปกติ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะคิดว่าคุณนี่มันช่างขัดใจ หรือกลัวโดนตัดคะแนนความสัมพันธ์ การที่คุณตามใจนี่แหละจะทำให้ไม่รู้ใจกัน เพราะฉะนั้นสบาย ๆ ออกความเห็นของคุณให้เต็มที่ พบกันครึ่งทาง จะทำให้คุณกับเธอเรียนรู้กันได้มากขึ้น อย่าไปยอมจนเสียตัวตน

แมน ๆ พูดตรง ๆ ไปเลยว่าคุณรู้สึกอย่างไร และค่อย ๆ หาคำตอบว่าเธอคิดอย่างไรกับคุณ การที่ต้องสูญเสียเธอไปเพราะการแสดงความรู้สึกที่แท้จริงนั้นดีกว่าการยอมกลายเป็นเพื่อนผู้ชายของเธอทั้ง ๆ ที่คุณแม่งโคตรรู้สึกพิเศษกับเธอ และอย่ามโนไปเองว่าเธอก็ชอบคุณเหมือนกันด้วยการเอาคำพูดและการกระทำของเธอมาคิดเข้าข้างตัวเอง อย่าคิดว่าการที่เธอยิ้มให้บ่อย ๆ คือเธอมีใจ ถ้ารักจะเข้มก็ต้องข่มใจคิดว่ามันอาจจะไม่มีความหมายอะไร จะได้ชิลล์ ๆ

 

มีความหลงใหลและความทะเยอทะยาน

ชายผู้ไร้ซึ่งความทะเยอทะยานจะไม่ค่อยมีเป้าหมายในชีวิต และมักจะรับข้อเสนอง่าย ๆ แม้ว่าจะไม่ใช่ดีลที่ดีก็ตาม คุณคงไม่อยากเป็นแบบนี้ใช่มั้ย ขณะที่หนุ่มที่มีความฝันจะผลักดันตัวเองตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองไปได้ไกลกว่าใคร และผู้ชายแบบนี้ก็เป็นที่น่าคบหาของทั้งสาว ๆ และเพื่อนผู้ชายด้วยกัน จงหาสิ่งที่ทำให้คุณต้องอยู่เพื่อลุยกับมันให้สำเร็จ ทำตัวเองให้ดีก่อน หา passion ที่แรงกล้าแล้วท้าชนทุกอุปสรรคที่ขวางหน้า คว้าทุกโอกาสเจ๋ง ๆ อย่างที่คุณ “อิงค์ – วรันธร เปานิล” ศิลปินสาวคนสวยที่เคยให้สัมภาษณ์กับเราในคอนเท้นต์นี้ไว้ว่า “เวลาที่ผู้ชายพยายามทำสิ่งที่เขาชอบให้สำเร็จ มันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขา”

 

อย่าทำตัวเป็นพระเอก

ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงของชายผู้แสนดีก็คือชอบซ่อนข้อเสียของตัวเองไว้ ทำให้ทุกคนคาดหวังว่านายจะต้องเป็นคนโคตรดี ขณะที่ชายภาพลักษณ์ร้ายมักจะปล่อยตัวเองตามธรรมชาติ มีพลาดพลั้งบ้างเป็นธรรมดา ทำให้เวลาที่ Bad Boy ทำอะไรผิดก็มักจะไม่ค่อยเป็นประเด็น ขณะที่ Nice Guy หากทำอะไรไม่ดีขึ้นมาให้คนอื่นเห็นก็คงจะโดนเหม็นกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าซ่อนข้อเสียของตัวเอง จะได้ไม่ถูกคาดหวังมากนัก

บางตำรารักอาจจะมีคำแนะนำผู้ชายอย่างเราว่า ผู้หญิงต้องการผู้ชายที่มีจิตใจอ่อนโยน อ่อนไหว มีความเข้าใจ และอยู่เคียงข้างเธอเสมอ บลา ๆ ๆ ๆ อันนี้ก็อาจจะจริง ลองทำตามดูก็ได้แล้วจะรู้ว่ามันไม่ถูกต้องเสมอไป! การเป็นสุภาพบุรุษที่โคตรจะแมนเกินจริงมันอาจจะทำให้เธอเบื่อหน่าย คาดเดาง่าย ไม่ท้าทาย สุดท้ายก็ได้เป็นแค่เพื่อนกันตลอดไป

 

อ่านมาถึงตรงนี้บางท่านอาจจะบอกว่าแต่ละวิธีที่แนะนำมามันทำยากนะเว้ย มันฝืนตัวตนนะพี่น้อง ใจเย็น ๆ ครับ อันที่จริงวิถี (Good) Bad Boy ที่เล่าให้ฟังกันไม่ได้ทำยากเลย แค่ทำตัวเป็นผู้ชายปกติ ลดความคาดหวังลง ปลงให้สบายใจ และเป็นธรรมชาติเข้าไว้ พอตีโจทย์นี้แตกก็จะพบว่าการจะประสบความสำเร็จทั้งเรื่องความรักและการงานนั้น ต้องอาศัยการการบาลานซ์กันระหว่างความเป็น Bad Boy และ Nice Guy ให้กลมกล่อม…

…แล้วคุณจะกลายเป็นผู้ชายที่อร่อยขึ้นมาทันที

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line