CARS

5 สิ่งที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับ ‘BMW VIRTUAL EXPERIENCE’ งานเปิดตัว The New BMW 5 Series กับเทคโนโลยีสุดล้ำ

By: HYENA February 8, 2017

หลังจากที่ทาง BMW Thailand ได้ชวนลูกค้า และแฟน BMW ทั่วประเทศมาพบกับประสบการณ์เปิดตัว The New BMW 5 Series แบบออนไลน์ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้ชื่องานว่า BMW VIRTUAL EXPERIENCE ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในซีนที่พาแฟน ๆ BMW ย้อนเวลาไปชม BMW 5 Series ในแต่ละยุคแต่ละสมัยตั้งแต่รุ่นแรก ไล่มาจนกระทั่งรุ่นปัจจุบันซึ่งเป็น Generation ที่ 7  ด้วยการมีวิธีเล่าเรื่อง และถ่ายทอดเรื่องราวได้ล้ำหน้า ตื่นตาตื่นใจสุด ๆ อีกทั้งยังมีความลื่นไหลให้คนดูรู้สึกเพลิดเพลิน ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังนั้นมีการทำงานของทีมงานกว่าร้อยชีวิตที่ไม่สามารถผิดพลาดได้แม้แต่นิดเดียว

วันนี้ UNLOCKMEN จะขอพาทุกคนไปดูกันว่า เบื้องหลังของงาน BMW VIRTUAL EXPERIENCE จะมีรายละเอียดอะไรซ่อนอยู่บ้าง และพิถีพิถันขนาดไหน กับ 5 สิ่งที่คุณยังไม่รู้ เกี่ยวกับ BMW VIRTUAL EXPERIENCE ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

หากใครที่ได้ชม BMW VIRTUAL EXPERIENCE ไปแล้ว เราต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่า กว่าที่ทางทีมงานจะได้ภาพเจ๋ง ๆ อย่างที่เราเห็นกันนั้น ทีมงานต้องมีการทำการบ้าน และเจอกับเรื่องท้าทายเกิดขึ้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น การนำเอา BMW 5 Series ตั้งแต่ Generation แรกที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1972  มาปรากฎตัวเล่าประวัติความเป็นมานั้น ทางทีมงานจะต้องหารถที่มีความสมบูรณ์ที่สุดมาเข้าฉาก ซึ่งการจะหารถที่มีความสมบูรณ์ ในขณะที่รถมีอายุมากกว่า 30 ปี นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยความยากลำบากในการหารถครั้งนี้ ทาง BMW ได้ Partner อย่างทีม BMW Car มาเป็นธุระหารถทั้ง 6 Generation ให้จนสำเร็จ และใช้เวลาในการหารถเพียงไม่ถึงเดือนเท่านั้น

นอกจากเรื่องรถ BMW 5 Series ปีลึกที่มาปรากฎตัวให้แฟน ๆ ได้เห็นกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้งานเปิดตัว BMW VIRTUAL EXPERIENCE นั้นมีความพิเศษแตกต่างจากงานทั่วไปก็คือ ภายในงานนี้เลือกใช้การถ่ายทำ Virtual VDO แบบ Long Take ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำได้ยากมาก ๆ และเรียกได้ว่าเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่ไม่สามารถเกิดความผิดพลาดในระหว่างการถ่ายได้เลย ไม่เช่นนั้นที่ถ่ายมาทั้งหมดจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานการเปลี่ยนฉากแบบละครเวทีเข้ามาสร้างสีสัน นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในวงการรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมเลยก็ว่าได้

อีกหนึ่งความยากที่เกิดขึ้นก็คือ พิธีกรจะต้องเดินผ่านรถ BMW 5 Series ทั้ง 6 Generation แบบไม่มีการตัดต่อ แต่เนื่องจากสตูดิโอมีพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด ทีมงานจึงต้องนำเอาเทคนิคการเปลี่ยนฉากแบบละครเวทีเข้ามาใช้ โดยฉากทั้งหมดเป็นจอ LED ขนาดใหญ่กว่า 7 เมตร 3 จอ และรถ 6 คัน นั้นหมายถึงทีมงานต้องนำรถ และพร๊อพในแต่ละยุคเข้ามาเปลี่ยนในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่ด้านหน้าจอ LED เหล่านั้น ซึ่งการนำรถเข้ามาสลับในฉากไม่สามารถขับรถเข้ามาภายในพื้นที่ได้

นั่นก็เพราะว่าเสียงจากการสตาร์ทรถจะดัง ซึ่งการถ่ายแบบ Long Take หากมีเสียงรบกวนหรือจำเป็นที่ต้องมีการสั่งคัท จะไม่ใช่แค่พิธีกรเทคแค่คนเดียวเท่านั้น แต่จะหมายถึงการต้องเริ่มต้นตั้งแต่ศูนย์ เข็นรถใหม่ ตัวประกอบออกเดินใหม่จากจุดเริ่ม มันอาจจะต้องทำกันใหม่เป็นหลายสิบหรือร้อยเทคเลยก็ได้ ดังนั้น เลยต้องใช้วิธีการเคลื่อนย้ายรถด้วยการเข็นทุกคัน และต้องเพิ่มจำนวนทีมงานขึ้นอีกหลายสิบคน เพื่อทำหน้าที่เข็นรถกันวันนั้นโดยเฉพาะ

นอกจากตัวรถแล้ว พร๊อบประกอบฉากก็ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน โดยทีมงานต้องไปค้นหาของใช้ต่าง ๆ เมื่อสมัย 30 ปีที่แล้วมาช่วยเสริมบรรยากาศในแต่ละช่วงที่มีความแตกต่างในช่วงยุคสมัยให้สมจริงมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ในบางตอน จะเห็นพร๊อบเหล่านี้เพียงผ่าน ๆ แค่ไม่กี่วินาที แต่ทางทีมงานก็ต้องการจะเก็บทุกรายละเอียดเพื่อความสมจริงขั้นสุด ทีมงานจึงต้องทำการตามหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง iBook โทรศัพท์มือถือยุคเก่า รวมไปถึงโน๊ตบุ๊คของ Apple ที่ใช้ในยุค 90 มาประกอบฉากอีกด้วย

ในเรื่องของเสื้อผ้า และเครื่องแต่งกายของผู้บริหาร และนักแสดงทั้งหมด ก็ต้องตัดทำขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องตามแต่ละยุคสมัยของ BMW 5 Series แต่ละ Generation ให้มากที่สุด โดยทาง BMW Thailand ได้ทีมงานเสื้อผ้ามือฉกาจอย่าง Tube Gallery มาช่วยรับผิดชอบรังสรรค์จนทุกอย่างออกมาได้อย่างไร้ที่ติอย่างที่ทุกคนเห็นกันใน VDO

อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมากในการดำเนินงานครั้งนี้ นั่นก็คือ เป็นครั้งแรกของพิธีกรทั้ง 3 ท่าน ที่ต้องถ่ายทำ VDO แบบ Long Take ซึ่งพิธีทุกคนต้องทุ่มเทซ้อมคิวกันอย่างหนักถึง 15 ชั่วโมงต่อวัน เพราะหากพิธีกรพูดผิด คิวผิด เพียงนิดเดียว ทุกอย่างจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งพิธีกรทั้ง 3 ท่าน ก็มีเวลาในการเตรียมตัว ท่องสคริปท์ เพียงไม่กี่วันเท่านั้น  แต่ด้วยความสามารถ และความตั้งใจของพิธีกรทั้ง 3 ท่าน อย่าง คุณเคน คุณซี และคุณอู๋ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทุกท่านทุ่มเทสุดตัว จนทำให้คิวทั้งหมดรันออกมาได้อย่างลื่นไหล และสามารถถ่ายทำได้จบภายในเวลา และถือเป็นผลงานคุณภาพที่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถจะทำได้ง่าย ๆ

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ยังไม่เจาะลึกลงไปถึงทีมงานเบื้องหลังอีกกว่า 120 คน ที่ช่วยอำนวยความสะดวก และทุ่มเท่กันอย่างหนัก ที่สำคัญก็คือ การรักษามาตรการการป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดกันอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทีมงานทั้ง 120 คน ต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมในการทำหน้าที่ต่าง ๆ ของตัวเองถึง 3 วันเต็ม ๆ โดยใช้เวลามากกว่าวันละ 15 ชั่วโมง เพื่อให้โปรเจ็คนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และให้ทุกคนได้เห็นว่า “โลกเปลี่ยนไปแล้ว  BMW ก็เปลี่ยนแล้วเช่นกัน แล้วคุณพร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยน”

รอชมภาพบรรยากาศจาคลิปวีดีโอ BMW VIRTUAL EXPERIENCE. Behind The Scene ได้ที่

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line