ครบทุกอารมณ์!! 9 เรื่อง ภาพยนตร์ “ไอริช” ที่ผู้ชายทุกคนควรจะหามาดูให้ได้เป็นอย่างยิ่ง

ถ้าหากวัน เสาร์-อาทิตย์ คุณยังว่างๆ และไม่มีแพลนไปไหน การหาภาพยนตร์ดีๆ นั่งดูอยู่ที่บ้านพร้อมกันทำอาหารทานเองไปด้วยก็เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว แต่ถ้าคุณยังไม่รู้จะดูเรื่องอะไรดี หนังดังๆ ฮิตๆ ก็ดูไปจนเกือบจะหมดทุกเรื่องด้วยแล้ว จะนั่ง Search หาในอินเตอร์เน็ตก็ขี้เกียจ และคงจะต้องเสียนานพอสมควรเลยทีเดียว วันนี้ UNLOCKMEN เลยทำลิสรายชื่อของภาพยนตร์คุณภาพ สไตล์ Irish มาให้ได้เลือกชมกันถึง 9 เรื่อง รับรองว่าคุณจะติดใจจนต้องไล่ดูให้ครบทั้ง 9 เรื่อง อย่างแน่นอน

Bloody Sunday

ไม่ใช่เป็นเพียงหนึ่งในภาพยนตร์ ไอริช ที่ดีที่สุดในไอร์แลนด์เท่านั้น แต่มันเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุด ที่ได้การยอมรับจากทั่วโลกอีกด้วย Bloody Sunday  เป็นภาพยนตร์บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม ปี 1972 เมื่อ 27 พลเรือน ถูกฆ่าตายโดย กองทัพของอังกฤษ ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่เหมือนกับภาพยนตร์แนวสารคดีเรื่องอื่นๆ แน่นอน และนั่นเองที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในลิสของเรา

My Left Foot

นี่คือภาพยนตร์ที่ดีที่สุดตลอดในอาชีพการแสดงของ Daniel Day-Lewis ในภาพยนจรืที่มีชื่อว่า  My Left Foot  ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริงของ Christy Brown ซึ่งเป็นชาวไอริช ผู้ที่มีปัญหาพิการที่เท้า แต่ Christy Brown กลับไม่รู้สึกว่าความพิการของเค้าจะทำให้ชีวิตเค้าไร้ค่าแต่อย่างใด โดยเค้าฝึกการใช้เท้าที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจนมีความชำนาญ และสามารถทำทุกๆ อย่างได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยที่นักแสดงอย่าง Daniel Day-Lewis ก็เป็นผู้ที่ช่วยสื่อสารออกให้เห็นภาพที่สมจริงทั้งอารมณ์ และความรู้สึกจริงๆ 

’71

ในบางครั้ง ภาพยนตร์บางเรื่องอาจจะทำให้คุณได้เข้าใจว่า หนังที่ดีจริงๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องโปรโมทอะไรมากมาย ก็ทำให้คุณรู้สึกอยากที่จะดู และรู้จักกับมันได้จากหลายๆ ทางจากการบอกต่อ อย่างเช่น ’71 เรื่องนี้ ที่เป็นเรื่องราวของการจราจลในตอนเหนือของไอร์แลนด์ ช่วงต้นปี 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่ทหารอังกฤษเข้ายึด Belfast มันเป็นภาพยนตร์แนวประวัติศาสตร์ บวกกับ ระทึกขวัญ ที่จะทำให้คุณต้องลุ้นแบบใจจดใจจ่อ และต้องจับตาอยู่ที่หน้าจอตลอดเวลา จนไม่อยากจะลุกไปไหนเลยทีเดียว

Once

หนังดีๆ ที่มีซาวด์แทรคยอดเยี่มที่สุดตลอดการอีกเรื่องนึง หลายๆ คนอาจจะรู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างดี ด้วยความไพเราะของดนตรี และเนื้อหาที่กินใจ หูของคุณจะได้รับเสียงเพลงดีๆ มีคุณภาพตลอดทั้งเรื่อง จากเรื่องราวของชีวิตนักดนตรีอย่าง Glen Hansard และ Marketa Irglova นักดนตรีข้างถนนผู้มีพรสววรค์ กับผู้อพยพเข้าเมือง ที่ร่วมกันแต่งเพลงที่น่าอัศจรรย์ที่มีชื่อว่า Falling Slowly

The General

เป็นภาพยนตร์ไอริชแนวอาชญากรรมที่ดีที่สุดเรื่องนึงเลยทีเดียว ในเนื้อเรื่องหลักนั้น เป็นเรื่องราวการปล้นด้วยความแยบยล ที่ผ่านกระบวรการคิดมาอย่างพิถีพิถัน และเต็มไปด้วยการหลอกลวง ชิงไหวชิงพริบ แถมยังว่ากันว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่นักแสดงอย่าง Brenden Gleeson แสดงได้ดีที่สุดในชีวิตการแสดงอีกด้วย

The Guard

ยังคงอยู่กับนักแสดงคนเดิม Brenden Gleeson ภาพยนตร์เรื่อง The Guard ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของชาวไอริชในช่วงปี 2011 มันเป็นภาพยนต์ Comedy ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งด้วยชื่อชั้น และฝีมือของ Brenden Gleeson ก็ไม่ทำให้คอภาพยนตร์ต้องผิดหวังกับสามารถในการแสดงแม้แต่น้อย

The Commitment

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชาวไอริชกลุ่มหนึ่งที่อยากจะตั้งวงดนตรีโซลขึ้นในเมืองดับบลิน ถึงแม้ว่าพล็อตเรื่องอาจจะฟังแล้วไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ The Commitments สร้างขึ้นในช่วงปลายยุค 80’s ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมไอริชเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ด้วยความรุนแรงของการเมือง The Commitments เอง เองก็แสดงให้เราได้เข้าใจว่า จริงๆ แล้วชาวไอริชต้องทนอยู่กับความกดดัน และความสิ้นหวังในชีวิต จึงพยายามที่จะหาหนทางหนีจากโลกแห่งความเป็นจริง นั่นก็คือดนตรี และการก่อตั้งวงดนตรีโซลนี้เลยก็คือประกายแสงแห่งความหวังของพวกเค้า

What Richard Did 

ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะออกแนวเงียบๆ เหงาๆ ตามสไตล์ของภาพยนตร์ไอริช แต่สิ่งที่ทำให้ What Richard Did มีความโดดเด่นก็คือการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ที่ตัดสลับไปมาได้อย่างลงตัว ถ้าใครเป็นแฟนสไตล์หนังเงียบ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์จัดจ้านล่ะก็ ห้ามพลาดเรื่องนี้

The Wind That Shakes the Barley

The Wind That Shakes the Barley เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของนักสู้ที่ทำภารกิจแบบกองโจรเพื่อเผชิญหน้าคนต่างๆ ที่ถูกอังกฤษส่งมาเพื่อเข้าควบคุมกลุ่มคนชาวไอริขที่เคลื่อนไหว นี่เป็นภาพยนตร์ ดราม่าทางการเมืองที่เข้มข้นอีกเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ ถ้าหากใครชอบภาพยนตร์แนวนี้

ถึงแม้เราจะบอกว่าเป็นหนังที่ผู้ชายควรดู แต่หนังดีๆ เหล่านี้ก็เป็หนังที่ถูกใจทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน แต่อาจจะหนักไปที่เนื้อหาที่ค่อนข้างจะดึงดูดผู้ชายซักหน่อย แต่เราเชื่อว่าการที่ได้ดูหนังดีๆ มักจะได้ข้อคิดหรืออะไรซักอย่างที่ซ่อนอยู่ในนั้นควบคู่มากับความบันเทิงเสมอๆ หวังว่าจะถูกใจกกันนะครับ

Source