Entertainment

Black Panther ภาพยนตร์ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงสังคมโลกไปตลอดกาล

By: Thada February 9, 2018

เดือนกุมภาพันธ์ถือว่ามีหนังระดับ blockbuster เตรียมจ่อคิวเข้าโรงภาพยนตร์ถึงสองเรื่องด้วยกัน ไหนจะ Fifty Shade Freed ที่แม้จะดูเจื่อนไปบ้างทั้งที่ช่วงวาเลนไทน์ถือเป็นฤกษ์งามยามดีของพวกเขาตลอดมา เดิมทีเราก็ค่อนข้างสงสัยว่าระดับ Fifty Shade ที่เป็นหนังเรท R และสามารถทำรายได้ไม่ต่ำกว่า $300 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำไมถึงต้องยอมขยับเลื่อนวันฉายขึ้นมาหนึ่งสัปดาห์ แต่เมื่อได้เห็นโปรแกรมหนังที่จะเข้าในอาทิตย์ถัดไป ก็ถึงกับบางอ้อ เนื่องจากมีหนังฟอร์มยักษ์ที่เตรียมลงโรงอย่าง Black Panther 

ซึ่งต้องขอบอกชาว UNLOCKMEN ก่อนเลยว่ากระแสของ Black Panther ตอนนี้ถือว่าแรงมาก ๆ เพราะได้ทำลายสถิติยอดจองตั๋วล่วงหน้าสูงสุดตลอดกาลในประเทศสหรัฐอเมริกาแซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Captian America : Civil Wars เป็นที่เรียบร้อย โดย Marvel Studio คาดการณ์ว่าเรื่องราวของราชาเสือดำอาจจะเป็นหนังทำเงิน $1,000 ล้านเหรียญเรื่องต่อไปของพวกเขา ทว่าไม่ใช่แค่แง่ความสำเร็จของซุปเปอร์ฮีโร่ผิวสีเรื่องแรกที่กำลังจะลงโรงฉาย แต่เรามองว่า Black Panther กำลังจะเปลี่ยนวงการภาพยนตร์รวมถึงสังคมโลกไปตลอดกาล

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าประเด็นสีผิวและเชื้อชาติถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างมากในต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์อย่าง Black Panther ที่แทบจะพูดได้ว่าเป็นเรื่องราวกลุ่มคนผิวสีที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยกู้โลก จึงเปรียบเสมือนตัวแทนในการแสดงออกถึงความอัดอั้นที่พวกเขาต้องการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของตัวเองให้ได้รับสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับคนอื่น

ยิ่งถ้าสืบลึกลงไปในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาแล้วจะพบว่ามีชาวแอฟริกัน-อเมริกันจำนวนมากต้องถูกกดขี่เป็นแรงงานทาสในช่วงพัฒนาประเทศ น่าประหลาดใจมากขึ้นไปอีกเมื่อชาวโลกล้วนทราบดีว่าอเมริกาเป็นประเทศที่เติบโตจนพัฒนามาได้ถึงทุกวันนี้เพราะชีวิตเลือดเนื้อของคนผิวสีเหล่านั้น แต่พวกเขากลับไม่เคยได้รับความชอบธรรมใด ๆ มิหนำซ้ำยังถูกลิดรอนสิทธิตลอดมา

ถ้ายังไม่เข้าใจลองคิดภาพเด็กผู้ชายผิวสีในวันฮาโลวีนหรือคริสมาสต์ว่าพวกเขาอยากจะเป็น Spiderman , Ironman หรือซุปเปอร์ฮีโร่ตัวอื่น ๆ แต่พวกเขาไม่สามารถจะฝันถึงมันได้ เพราะมันเหมือนเคยมีเส้นบาง ๆ ที่คั่นอยู่เสมอว่าฮีโร่ต้องเป็นคนผิวขาวแบบฉบับภาพยนตร์หรือตามที่สื่อคอยยกยอปอปั้นขึ้นมาเท่านั้น คุณคิดว่ามันจะเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจของชาวผิวสีขนาดไหน ดังนั้นหลังจากที่ภาพยนตร์ Black Panther เข้าฉาย  T’Challa (Black Panther) จะเป็นตัวแทนของเด็กผิวสีรุ่นใหม่เพราะคาร์แรกเตอร์ที่เพอร์เฟ็ก ฉลาด ร่ำรวย เก่งรอบด้านจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาสามารถมีฮีโร่แบบที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นได้อย่างไม่เกินเอื้อมอีกต่อไป

นอกเหนือจากนี้หากใครที่ติดตามข่าวตั้งแต่ Marvel Studio และ Disney เซ็นอนุมัติโปรเจคนี้ จะรู้ว่าสื่อต่าง ๆ ก็พยายามเล่นข่าวว่าคนผิวสีรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะเกิดภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ผิวสีคนแรกขึ้น มีการรวมพลังของคนผิวสี เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้คนผิวสีตั้งแต่ผู้กำกับยันนักดนตรีประกอบซาวด์แทร็คชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินนักร้องอย่าง Kendrick Lamar กับผองเพื่อนที่ประกาศทำเพลงพร้อมโปรดิวส์ให้อัลบั้ม Original Soundtrack ของ Black Panther เพราะทุกคนอยากมีส่วนร่วมกับหน้าประวัติศาสตร์ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง

และหากลองยกนิ้วขึ้นมาไล่นับดูแทบจะไม่เคยเห็นหนังฮีโร่ที่เป็นผิวสีด้วยซ้ำ โดยส่วนมากพวกเขามักได้รับบทบาทเป็นตัวโจ๊กหรือไม่ก็วายร้ายให้พระเอกมาไล่เตะต่อย คนทั่วโลกจึงติดภาพคนผิวสีว่าจะเป็นพวกคนไม่ดีดูน่ากลัวไม่ควรเข้าใกล้

แต่จะว่าไปความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเอง เนื่องจากเราเชื่อว่าคงจะเคยมีการพยายามผลักดันฮีโร่ผิวสี อย่างเช่นกรณี Fantastic Four  ตัวละคร Human Torch ที่เปลี่ยนไปใช้นักแสดงผิวสีอย่าง Micheal B. Jordan ก็โดนกระแสด้านลบจนทางค่ายหนังผู้ผลิตต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน เลือกวิธีเพลย์เซฟใช้ตัวละครฮีโร่ผิวขาวเพื่อหวังจะตอบโจทย์คนหมู่มากดังเดิม

นับว่าเป็นความหาญกล้าอย่างมากที่ Marvel Studio  กล้าดันการ์ตูนที่ไม่ได้ดังเปรี้ยงป้างเท่าไหร่ แต่เล่นกับแง่ racism วางพล็อตให้ Black Panther เป็นหนึ่งคีย์สำคัญก่อนจะนำไปสู่โปรเจคต์ใหญ่อย่าง The Avenger : Infinity War  งานนี้บอกได้เลยว่าแม้ราชาเสือดำของเราจะประสบความสำเร็จในแง่วิจารณ์หรือไม่ แต่ Marvel และ Disney ได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์โลกเป็นที่เรียบร้อยว่าสามารถใช้คนผิวสีเป็นแกนนำนักแสดงในภาพยนตร์ระดับ  blockbuster อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนทั่วโลกแม้ว่าเราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะเป็นได้ดั่งเช่น Black Panther

 

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line