CARS

“G-Power” อีกหนึ่งสำนักแต่งคู่บุญ ‘BMW’ ที่ทำรถแรงเป็นสถิติโลกมาแล้วมากมาย ด้วยเครื่องยนต์สาย Supercharger!!

By: HYENA November 29, 2017

หากพูดถึงสำนักแต่งคู่บุญของ BMW แล้วล่ะก็ ทุกคนคงต้องนึกถึง M-Power ขึ้นมาเป็นชื่อแรกอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรเราก็จะเห็น BMW ตัวแรงทั้งหลายออกมาพร้อมกับสัญลักษณ์นี้อยู่ตลอด แต่นอกจาก M แล้ว อันที่จริงยังมีสำนักแต่งอีกสำนักหนึ่งที่คู่กับ BMW ได้เร็วแรงแซงกระจายได้ไม่แพ้กันมาให้ชมกันด้วยในวันนี้

และนั่นก็คือ สำนักแต่งที่เรียกได้ว่าแรงสุดคลั่งอย่าง G-Power  ที่มีประวัติศาสตร์คู่กับ BMW มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะขาโมดิฟายทั้งหลาย ที่ชอบติดเติมเพิ่มเสริมอาวุธหนักอย่างระบบ Super Charger ลงใน BMW แล้วล่ะก็ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเราขอรับรองว่าคุณจะน้ำลายไหล อยากได้ของหล่อตรงสเป็ครถ BMW ของ G-Power มาติดอยู่ในรถคุณอย่างแน่นอน ถ้าหากคุณได้อ่านบทความนี้ ไปแล้ว

 FIRST STEPS

1971

รากฐานของ G-Power นั้น เกิดขึ้นที่ Neu-Isenburg ประเทศ German โดยเริ่มต้นจากการเปิดสถานีน้ำมันเป็นของตัวเอง โดยมีผู้ก่อตั้งก็คือ  พ่อลูกตระกูล Grommisch ซึ่งทั้งตัวพ่อ และลูกชายเองนั้น เป็นผู้ที่หลงใหล และคลั่งไคล้ในรถยนต์ BMW เป็นอย่างมาก และนั่นก็เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสำนักแต่ง BMW ชื่อดังในภายหลัง

จากปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ก็ค่อย ๆ ขยับขยายให้ขึ้นพร้อมกับชื่อเสียงที่ค่อย ๆ ดังขึ้นจนเป็นที่รู้จักกันในนามว่า Esso พวกเขามีทั้งศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์ Service และยังมีโชว์รูมเป็นของตัวเองเกิดขึ้นด้วยภายในปีแรก

FIRST TUNING KITS

1976

G-Power สร้างชื่อ และตั้งตัวเป็นสำนักแต่งครั้งแรกด้วยการปล่อยชุด Kit สำหรับพัฒนาเครื่องยนต์ต่อยอดความแรงให้ BMW ของคนทั่วไปมีศักยภาพมากขึ้น โดยภายในชุด Kit นี้ประกอบไปด้วย Carburetors, Camshafts และ Racing Headers และกลายเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นชุด Kit ที่เพิ่มพลังได้อย่างชัดเจนในยุคสมัยนั้น

G-POWERT THE 02 YEARS

1980

Part แต่งของ G-Power ก็มีให้เลือกใช้กันในปี 1980 เป็นต้นมา โดยพวกเขาได้นำเอา Plastic Parts ซึ่งเป็นชุดแต่งออกมาโชว์ให้ประชาชนได้เห็นเป็นครั้งแรก พร้อมกับรถยนตร์จากค่าย BMW-02 ชุดแต่งของ G-Power ยังเป็นชุดแต่งที่มีน้ำหนักเบา และสวยงามเข้ากับรถ BMW ในยุคนั้นเป็นอย่างมากอีกด้วย

LABEL FOUNDATION

 1983

ตราสัญลักษณ์ และชื่อของ G-Power ได้เกิดขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในขณะที่แบรนด์สำนักแต่งชื่อดังอย่าง ALPINA ได้ถูกถอดออกจากการเป็นพาร์ทเนอร์ในปีเดียวกันนั้น จึงเป็นโอกาสให้ G-Power เปิดตัวรถโมเดลแรกของพวกเขาอย่าง G-Power 3-Series Touring เครื่องยนต์ M3 4สูบ ที่มีพละกำลังถึง 230 แรงม้าออกมาให้ดูเป็นขวัญตา

DEVELOPMENT PARTNER

1984

G-Power ได้กลายเป็นหุ้นส่วน และพาร์ทเนอร์ในการพัฒนารถ BMW ตัวแรงรุ่นใหม่ ๆ โดยที่มีแบรนด์ช่วงล่างอย่าง KONI เข้ามาดูแลเรื่องความเกาะถนน และความนุ่มหนึบในการขับขี่

THE G-POWER DEEP TONE

1986

G-Power และพันธมิตรของเขาได้ส่งท่อไอเสียจากแบรนด์ G-Power รุ่นแรกออกมา ซึ่งเป็นผลงานที่ร่วมกันพัฒนาระหว่าง G-Power และแบรนด์ท่อไอเสียจากประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นท่อไอเสียแต่งสำหรับรถ BMW โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากพูดถึงซุ่มเสียงที่ได้นั้น ต้องบอกว่า ยอดเยี่ยมมาก รวมไปถึงแรงม้าที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เพียงแค่ติดตั้งท่อไอเสียที่พวกเขาคิดขึ้นเท่านั้น

G-POWER RACING PARTS

1987

หลังจากทำมาหลายอย่างแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเข้าถึงแก่นแท้ของความแรงเข้าไปมาขึ้นเรื่อง ๆ โดยในปี  1987  G-Power ได้ปล่อยชุดท่อ Header สำหรับเครื่อง 6 สูบของ BMW ออกมา และมันยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนต้องจำหน่ายชิ้นส่วนนี้กระจายออกไปทั่วทั้งทวีปอเมริกา และออสเตรเลียเลยทีเดียว

POWER BY SUPERCHARGING

 1994

และแล้วหัวใจความแรงที่ขึ้นชื่อที่สุดของสำนัก G-Power ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น พวกเขาได้คิดค้นสูตร และระบบอัดกำลังที่เรียกว่า Supercharger สำหรับ BMW โดยเฉพาะขึ้นมา และทำการติดตั้งมันลงไปใน BMW M3 3.0i ที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ทำให้ M3 นั้นแรงระเบิดระเบ้อด้วยพละกำลังสูงสุดที่ 400 แรงม้า นอกจากนี้ยังลุกลามไปถึงเครื่องยนต์ M50 2,800 cc ที่พวกเขาทำ Supercharger ออกมาให้ใส่กับเครื่องยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะมาเพิ่มในภายหลังอีกด้วย

G-POWER RACINGTEAM

2000

หลังจากที่สำนักแต่งนี้ยังคงมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศเยอรมัน แต่ชื่อชั้นของพวกเขานั้น กลับดังกระจายไปทั่วทุกมุมโลก ในขณะนั้นเองพวกเขาก็ได้สร้างทีมแข่งขันของตนเองขึ้นมา โดยพวกเขาส่งรถเข้าร่วมการแข่งขันรายการ 24 Hours of Nurburgring ในฐานะ “VLN Langstreckenpokals”  คู่กับรถ BMW M3 ที่ปรับแต่ง และจูนนิ่งด้วยสำนัก G-Power

TUNER GRAND PRIX 1. PLACE

2001

ในปี 2001 BMW Z3 M Coupe ผลงานการจัดเต็มจากค่าย G-Power ได้ประกาศความยิ่งใหญ่ให้โลกได้รู้ เมื่อพวกเขาคว้ารางวัลที่หนึ่งในรายการ Tuner Grand Prix มาได้สำเร็จ ซึ่งในสนามนั้นไม่มีรถคันไหนเลยที่จะแรงไปกว่ารถของ G-Power ที่ใช้ระบบ Supercharger ไปสู้กับ รถติด Turbo ทั้งหลายที่มีกำลังสูงมากกว่า 400 แรงม้าแทบทุกคัน

SMALL CAR BIG HEART

2002

รถเล็กใจใหญ่เป็นอีกหนึ่งผลงานระดับเซียนที่ G-Power บุกเบิกริเริ่มก่อนใคร โดยการจับเอา BMW M3 มาใส่เครื่องยนต์ของ G-Power แบบ V10 5.0 ลิตร พ่วงติดกับ Supercharger อาวุธลับประจับของ G-Power ซึ่งโดยรวมแล้ว M3 คันนี้ ถือเป็นรถเล็กที่มีเครื่องใหญ่ และแรง ยิ่งกว่า BMW M5 ที่ถูกผลิตขึ้นมาในตอนนั้นอีกด้วยซ้ำ อีกทั้งยังให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 460 แรงม้าเลยทีเดียว

G-POWER MODIFIES THE BMW ICON

2006

G-Power นำเสนอของแปลกด้วยการผลิต Part แต่งที่เน้นการใช้หลักการ  Aerodynamic ออกมาพร้อมกับช่วงล่าง Coil-Over Suspension รวมไปถึงชุดท่อไอเสียทั้งระบบ สำหรับใช้ใน BMW Iconic Car อย่าง Z8 Roadster ออกมา นอกจากนี้ยังมีชุด Supercharger สำหรับ Z8 ซึ่งถือเป็นของหายากออกมาให้เป็นที่ฮือฮาของเจ้าของรถ Model นี้อีกด้วย

THE FIRST HURRICANE

2007

หนังจากนั้น G-Power ก็หันมาปั้น BMW Z4 3.0i Roadster ออกมาด้วยความแรง 400 แรงม้า นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังช็อควงการครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว BMW G-Power M5 Hurricane ออกมา ซึ่งความแรงก็ไม่ธรรมดาสมชื่อจริง ๆ จากจำนวนแรงม้าที่ Supercar ยังต้องอ้าปากหวอ นั่นก็คือ 730 แรงม้าเน้นๆ แรงสมชื่อ Hurricane กันไปเลยทีเดียว

หลังจากปี 2008 เป็นต้นมา สำนักแต่งทรงพลังอย่าง G-Power ก็ส่งชุดแต่ง และรถแรงออกมาอาละวาดอีกนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็น BMW G-POWER M6 HURRICANE CS กับพละกำลัง 750 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 370 กม/ชม , BMW G-Power M3 V8 600 แรงม้า นอกจากนี้ยังมี BMW X5 M / X6 M G-POWER ที่ทุกคันล้วนมีพละกำลังเกินกว่า 600 แรงม้าทุกคันมาอีกจำนวนหนึ่งด้วย

และล่าสุดพวกเข้ากลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการนำเอา BMW6-Series Convertible (F12) มาทำการแต่งอย่างบ้าคลั่งในสไตล์ G-Power ที่ดูภายนอกอาจจะไม่ได้เว่อวังอลังการอะไรมาก แต่ครั้งนี้ G-Power ได้จัดการยัด Twin-Turbo ลงไปให้หายบ้า เรียกกำลังวังชาของมวลม้าได้ถึง 800 ตัว แรง Torque มาเต็ม ๆ ดึงกันจนหลังแทบจะทะลุเบาะที่ 1,050 นิวตันเมตร และได้เป็นเจ้าของสถิติ Sedan ที่เร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ว 372.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปเป็นที่เรียบร้อย โดยอัตราเร่งที่พวกเข้าทำสถิติโลกเอาไว้นั้นก็คือ 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 9.8 วินาทีเท่านั้น

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงเรื่องราวคร่าว ๆ ของสำนักแต่งชื่ออาจจะไม่ดังในบ้านเรามากนัก แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกแล้ว G-Power นี่ถือว่าเป็นของที่คนรัก BMWสายปีศาจคลั่งไคล้กันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว หวังว่าชาว UNLOCKMEN ทุกคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์ หรืออะไหล่มาเพิ่มความแรงให้กับ BMW ของท่านอยู่ จะพอเห็นทางสดใสที่ส่องสว่างมาจากตราสัญลักษณ์ G-Power รอทุกคนอยู่ที่ปลายทางนะครับ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสเรื่องตัง ก็ลองดูสักครั้งมันจะเป็นอะไรไป

SOURCE

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line