BOSE SLEEPBUDS สกัดเสียงกรน ไม่ต้องทนเสียงรอบข้างระหว่างนอน

“กูเนี่ยนะนอนกรน มึงอย่ามาอำ” เสียงประสานจากกลุ่มคนนอนกรน ที่มักไม่รู้ว่าตัวเองนอนกรน นอนคนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อต้องแชร์ห้องนอนกับใครที่กรนแรงพอกัน ถึงเริ่มตระหนักว่ามันเป็นอุปสรรคในการนอนสำหรับคนอื่นมากแค่ไหน ถ้าคุณกำลังเป็นห่วงเพื่อนร่วมห้อง ห่วงแฟนสาว หรือภรรยา ที่แชร์เตียงนอนร่วมกันว่าจะต้องทนรับเสียงกรนของคุณทุกค่ำคืน โอกาสทำความดีมาถึงแล้ว รีบเข้าไปกดสั่งซื้อ BOSE SLEEPBUDS อุปกรณ์สกัดเสียงกรน สำหรับคนนอนหลับยากคู่นี้อย่างเร็วไว

บางคนอาจจะคุ้นกับเทคโนโลยีคล้าย ๆ กัน ภายใต้ชื่อบริษัท HUSH ที่เคยเปิดตัวในงาน CES2016 แล้วเงียบหายไป ที่จริงแล้วไม่ได้หายไปไหน แต่ถูก BOSE ซื้อไปนั่นเอง ก่อน BOSE จะนำสินค้าไปออกแบบใหม่ให้สวยกว่าเดิม และเปิดตัวให้ตื่นเต้นกว่าตามประสาสินค้า category  ใหม่ ด้วยการให้คนที่สนใจเข้าไประดมทุนสั่งซื้อ BOSE SLEEPBUDS ผ่านทาง Indiegogo

BOSE SLEEPBUDS คือ gadget สำหรับคนนอนหลับยาก ซึ่งโดยธรรมชาติของคนกลุ่มนี้ แค่เสียงหมาเห่า เสียงลมพัด ก็ยากจะหลับแล้ว ยิ่งถ้าบ้านอยู่ริมถนนใหญ่ อยู่ใกล้ BTS หรือสนามบิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง และที่หนักสุดคือคนนอนร่วมเตียงกรนดังสนั่น กว่าจะหลับแต่ละทีนี่ทรมานสุดชีวิต โดย gadget ชิ้นนี้จะตัดเสียงรอบข้างออกไปจนหมด ต่อให้คนตะโกนก็ไม่ได้ยิน แทนที่ด้วยเสียงต่าง ๆ ที่สงบ ร่มเย็น เป็นเสียงที่ BOSE เลือกแล้วว่าช่วยให้คนนอนหลับง่ายขึ้น และไม่ต้องกลัวว่านาฬิกาจะปลุกไม่ตื่น เพราะ BOSE SLEEPBUDS สามารถตั้ง alarm ได้จาก applicaiton ส่วนตัวอุปกรณ์สามารถชาร์จไฟได้จาก case เช่นเดียวกับ EarPods ของ iPhone

ดูเหมือนปัญหาการนอนจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนทั่วโลก เพราะสถานะตอนนี้ BOSE SLEEPBUDS สามารถระดมทุนไปแล้วถึง $500,000 โดยที่ยังเหลือเวลาอีกถึง 24 วัน และทุกระดับราคาที่เปิดให้ crowdfund ก็ sold out ขายหมดเกลี้ยงแผง เรียกว่าไม่เหลือออพชั่นให้ระดมทุนอีกเลย ที่เหลือก็แค่เร่งผลิตสถานเดียว

ที่จริงแล้วการที่ BOSE เปิดให้ระดมทุนแบบนี้ถือว่าผิดกฎชาว Crowdfunding ชัดเจน เพราะ BOSE เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ established แล้ว แต่ด้วยเทรนด์ปัจจุบันที่เงินทุนชนะทุกสิ่ง และโปรเจคที่ crowdfund สำเร็จก็มีน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้ทั้ง Indiegogo และ Kickstarter ต้องการ content ที่น่าสนใจ และได้ % share จากยอด crowdfund มากขึ้นเพื่อความอยู่รอด จึงกลายเป็นพื้นที่สำหรับแบรนด์ใหญ่ได้เทสคอนเซปต์สินค้าใหม่ก่อนปล่อยขายไปซะอย่างนั้น สินค้าชิ้นไหนเวิร์คเหมือน SLEEPBUDS อันนี้ ก็เร่งผลิตและส่งไปขายทั่วโลกซะ เงินแค่ 4-500,00 usd เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง

ส่วนสินค้าไหนไม่เวิร์ค ก็ล้มกระดานซะ ไม่ต้องลงทุนผลิตก่อน เป็นวิธีเสือนอนกินของบริษัทใหญ่ที่มีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียว