แก้ปัญหาเด็กแว้นอย่างถาวร ตามรอยบุรีรัมย์โมเดล

ดูเหมือนจังหวัดบุรีรัมย์จะกลายเป็นจังหวัดที่มีอะไรหลายอย่างน่าสนใจขึ้นเยอะมาก ถ้าเทียบกับยุคก่อนที่คุณเนวิน ชิดชอบ ด้วยแนวคิดที่เฉียบขาดและความ “ใจถึง” ของคุณเนวิน เนรมิตทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด สนามฟุตบอล ไปจนถึงสนามแข่งรถมาตรฐานโลก โรงแรมระดับ 5 ดาว ฟรีคอนเสริต์ รวมไปถึงงาน event ยิ่งใหญ่ตามเทศกาลต่างๆ ด้วยไอเดียที่เน้นให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาร่วมด้วยช่วยกัน และล่าสุดที่เราเห็นแล้วประทับใจแบบที่ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ที่ไหนทำมาก่อน นั่นคือการแก้ปัญหาเด็กแว้นซิ่งบนท้องถนน

ปัญหาเด็กแว้นซิ่งรถบนท้องถนนสร้างความเดือดร้อน รำคาญ ไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพ แต่อยู่ทั่วทุกจังหวัด จากปัญหาหนึ่งไปสู่อีกปัญหาหนึ่ง อุบัติเหตุ การพนัน การทะเลาะวิวาท ปัญหายาเสพติด การแข่งรถแลกสาว สารพัดสิ่งที่พวกเรามองไม่เห็นจากข้างนอก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคิดวิธีแก้ปัญหาจากข้างในแบบที่คุณเนวินกำลังทำอยู่เลย นั่นคือการจัดระเบียบเด็กแว้นให้ออกจากมุมมืดของสังคมสู่ที่โล่งแจ้งที่สามารถควบคุมได้ โดยการเปิดสนามให้เด็กแว้นได้แข่งกันอย่างถูกต้อง และ UNLOCKMEN ก็มองเห็นวิธีที่จะทำให้ไอเดียนี้แก้ปัญหาระยะยาวได้อย่างน่าสนใจ

ถ้าเราดูจากมุมมองของเด็กแว้น เราจะเห็นต้นตอของปัญหา ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กแว้นส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ทำอะไรมักจะทำตามๆกันแบบค่านิยมในกลุ่ม เช่นการแข่งรถเพื่อทำให้คนอื่นๆยอมรับ ทำให้สาวหลง แต่ปัญหาคือเราไม่มีที่ให้เด็กพวกนี้แสดงออกในกิจกรรมที่ชอบ ไม่เป็นที่ยอมรับจากกิจกรรมที่ทำอยู่ และที่สำคัญคือไม่มีใครคิดจะลองทำความเข้าใจ จนกระทั่งมาถึงคุณเนวิน จัดสนามแข่งทางตรงให้แว้นบอยได้ประลองความเร็วกัน แต่มีข้อแม้คือต้องเคารพกฏกติกา เช่นต้องใส่หมวกกันน๊อค ต้องใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อความปลอดภัย ห้ามออกไปแข่งกันข้างนอกสนามเด็ดขาด ทำนองว่าในนี้พี่ดูให้ แต่ออกไปใครไม่ทำตามเดี๋ยวพี่จะจัดการอย่างหนัก ซึ่งเป็นจุดขายของคุณเนวินอยู่แล้ว อย่างที่เราเห็นเวลามีเด็กตีกันในสนามของคุณเนวิน จะต้องโดนทำโทษอย่างหนัก โดนใจประชาชนส่วนใหญ่ รวมถึงเด็กวัยรุ่นเองด้วย เช่นการเอานักมวยมาต่อยกับพวกนักเลงเป็นต้น

สิ่งที่น่าสนใจคือเด็กแว้นที่พวกเราเคยคิดว่าไม่เชื่อฟังใครนอกจากหัวหน้าแก๊งค์ ไม่เคารพกฏกติกาบ้านเมือง กลับยอมทำตามเงื่อนไขของคุณเนวินทันที ทุกคนแข่งรถกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน แต่ก้าวต่อไปที่ประเทศไทยสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาอย่างถาวร และผลักดันให้เป็นอาชีพเท่ๆในอนาคตได้ ต้องใช้ความร่วมมือจากหลายจังหวัด หลายหน่วยงานแบบนี้ครับ

1. เพิ่มสนามแข่งให้รองรับจุดหลักๆประจำจังหวัดทั่วประเทศ

จริงอยู่ที่สนามแบบนี้มีอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ทั่วถึง การมีสนามแข่งทางตรงให้เด็กแว้นใช้ประลองความเร็ว ถือเป็นความแฟร์รูปแบบหนึ่งในการจัดการปัญหานี้ เด็กแว้นหลายคนบอกว่า ที่ขี่รถซิ่งบนถนนตอนกลางคืนเพราะไม่รู้จะไปขี่ที่ไหน เมื่อไม่มีที่ให้ขี่ แต่คนอยากแสดงออก ไปห้ามยังไงก็ยากที่จะเชื่อฟัง การทำสนามแข่งทางตรงอาจจะไม่ต้องลงทุนสูงมากนัก ระยะทางไม่ไกล และยังสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมอื่นๆได้อีกด้วย

2. มี Tournament แข่งขันเหย้าเยือน

การขี่รถปกติอาจจะธรรมดาเกินไป แน่นอนว่าไม่นานเด็กแว้นอาจจะเบื่อและกลับไปซิ่งบนถนนเหมือนเดิม แต่ถ้าเราทำให้เป็นการแข่งขันที่มีการหาแชมป์กลุ่ม เอาตัวแทนจังหวัดนี้ไปแข่งกันหาตัวแทบภาค เอาระดับภาคไปแข่งหาระดับประเทศเพื่อชิงเงินรางวัลก้อนโต หรือจะแข่งขันเก็บคะแนนเพื่อหาผู้ชนะคะแนนรวมสูงสุดทุก 3 เดือนก็ยังได้ วิธีนี้จะทำให้เด็กแว้นมองการซิ่งรถเปลี่ยนไป พ่อแม่จะมองว่าเป็นกีฬาที่น่าสนับสนุน สปอนเซอร์จะเข้ามาสนับสนุนเด็กให้ไปแข่งระดับโลกต่อไปได้อีกด้วย

3. ให้ความรู้ ทำให้เป็นอาชีพเหมือนนักกีฬาแข่งรถประเภทอื่นๆ

จริงๆเรามองว่าการแข่งมอเตอร์ไซค์สามารถพัฒนาไปสู่อาชีพนักแข่งระดับสากลได้ เราจะเห็นได้ว่านักกีฬามืออาชีพในต่างประเทศ ต้องฝึกฝนในด้านนั้นๆตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการเพิ่มจำนวนโรงเรียนสอนหลักสูตรเกี่ยวกับการแข่งรถ หรือการแต่งรถในแง่เทคนิค แล้วให้คนเลือกทางเดินกันเองอีกที เอาผู้ชนะจาก Tournament มาเซ็นสัญญา มีเงินเดือน มีการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างจริงจัง เพื่อไปแข่งในระดับโลก

ถ้าทำครบ 3 steps นี้ เราเชื่อว่าเด็กแว้นจะมองภาพการซิ่งมอเตอร์โซค์ต่างออกไป คำว่าแว้นกวนเมืองจะกลายเป็นแฟชั่นที่โบราณ แต่เด็กแว้นจะกลายเป็นนักกีฬา เป็นอาชีพ เป็นตัวแทนจังหวัด เป็นตัวแทนประเทศไทย พ่อแม่ที่เคยต้องลุ้นว่าลูกจะกลับถึงบ้านไหม จะโดนขโมยเงินไหม จะกลายเป็นคนไปเชียร์ลูกๆ บรรยากาศครอบครัวกลับมาอบอุ่น แบรนด์เอกชนก็มีช่องทางทำการตลาด และอื่นๆอีกมากมายที่จะเจริญขึ้นเป็นลูกโซ่ แทนที่จะไปนั่งวิ่งไล่จับ ยึดรถ ลงโทษขังคุกไม่กี่วัน ยิ่งสร้างความบาดหมางให้คนในสังคมเข้าไปอีก

สุดท้ายนี้หวังว่าคุณเนวิน จะได้มาอ่านบทความนี้ แล้วเอาไปใช้นำล่องที่จังหวัดบุรีรัมย์ ถ้าคุณเนวินไม่ทำ ก็คงไม่มีใครทำ และถ้าคุณเนวินทำสำเร็ว เราเชื่อว่าจังหวัดอื่นๆต้องหันมาทำตาม “บุรีรัมย์ model” แน่นอนครับ