หลังจากที่เราโพสต์เรื่องของรถ BMW รวมถึงประวัติของ Logo ที่หลายคนเข้าใจผิดกันมาแล้ว วันนี้เราเลยอยากนำเอาที่มาของ Logo ของ BMW ตัวแรงที่หลายคนชื่นชอบอย่าง “///M” มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ดูกัน เพราะจริง ๆ แล้ว ภายใต้ Logo ที่เป็นแถบสี 3 แถบนี้ มันมีความหมายอะไรมากกว่าที่หลายคนคิดซ่อนอยู่ หากใครที่เป็นคนรักรถรหัส “///M” ตัวจริง บทความนี้จะเป็นอีกบทความหนึ่งที่คุณห้ามพลาด ปีนี้ก็จะเข้าถือว่าเป็นปีที่ 45 แล้ว สำหรับการที่ BMW นำรถของพวกเขามาปรับปรุงออกมาให้มีศักยภาพสูงระดับรถแข่งในสนามอย่าง “///M” โดยโมเดลแรกของ “///M” ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตอนนั้นก็ คือ BMW M1 อันเลื่องลือ และเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของตระกูล M ของ BMW มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับรถในตระกูล M ของ BMW นั้น ถือว่าเป็นรถตัวตัวท็อปสุด แรงสุด และแพงสุดของแต่ละ Series
ช่วงนี้หลายคนคงจะได้ข่าวการกลับมาของ Nokia กันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำตัวเก่าสร้างชื่อมาปรับปรุงแปลงโฉมใหม่ อย่างตัว Nokia 3310 ปี 2017 และยังพวก Nokia 3,5,6 ที่ไล่เปิดตัวกันออกมาติด ๆ กันอีก จึงพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า Nokia กำลังเริ่มกลับมาเอาจริงเอาจังกับตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้ว Nokia ภายใต้การนำทีมของ HMD Global ได้พยายามปฏิวัติปรับเปลี่ยนบางอย่างให้น่าประหลาดใจอยู่เสมอ ๆ อย่างล่าสุดกับข่าวการเปิดตัว Nokia 8 เรือธงตัวใหม่ของค่าย Nokia 8 มีสเปคออกมาให้ตั้งหน้าตั้งรอกันคราว ๆ อย่างตัวเครื่องจะมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 2560×1440 และยังใช้ Qualcomm Snapdragon 835 เป็นตัวประมวลผล นอกจากนี้จะใส่ RAM มาให้ขนาด 4 – 6 GB (ยังไม่คอนเฟิร์ม) และหน่วยเก็บข้อมูล 64GB ที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือด้านตัวกล้องมีการเปิดเผยออกมาแล้วว่าจะมาแบบกล้องคู่ (Dual-Camera)
หากใครเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของ “Bondic” คงรู้ดีว่าประสิทธิภาพในการซ่อมแซมสิ่งของที่แตกหักของมันนั้น ถือว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ เพราะความสามารถพิเศษในการเชื่อมต่อพลาสติกที่แตกหักให้กลับมาติดกันได้อย่างรวดเร็วและแข็งแรง จนหลาย ๆ คนที่ใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากาวตราช้างยังต้องชิดซ้ายไปเลย ล่าสุด “Bondic” เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มีชื่อว่า “BondicEVO” ออกมาเป็นที่เรียบร้อย บอกเลยว่า เล็กกะทัดรัด แต่ความสามารถดีกว่ารุ่นแรกซะอีก หากใครอยากรู้ว่า “BondicEVO” ตัวนี้ มีความสามารถในการเชื่อมต่อ ซ่อมแซมขั้นเทพขนาดไหน ลองไปดูกันเองเลยดีกว่า สำหรับอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่าง “BondicEVO” นี้ ถือเป็นอีกหนึ่ง Gadget ที่ผู้ชายอย่างเราควรมีไว้จริง ๆ เพราะมันช่วยให้คุณเชื่อมต่อ สิ่งต่าง ๆ ที่แตกออกจากกันไปแล้วให้กลับมาสมานกันได้อย่างแนบเนียน ด้วยน้ำยากาวผสานสูตรเทพเทวดา ต้นตำรับของ “Bondic” บวกกับลำแสง UV ที่มีมาให้ในตัวเพื่อใช้ในการทำให้รอยเชื่อมนั้นแข็งกลายเป็นเนื้อเดียวกัน วิธีใช้งานนั้นก็แสนง่าย เพียงคุณหยอดกาวของ “Bondic” ลงไปที่รอยต่อ หรือถ้าหากคุณต้องการให้กาวมีรูปร่างแบบไหน ก็จัดการลงมือตกแต่งมัน เมื่อได้รูปทรงตามที่ต้องการแล้ว ก็จัดการนำไฟฉายลำแสง UV ที่มีติดตัวมาให้ ฉายไปที่กาวจนแข็งเป็นเนื้อเดียวกันเป็นอันจบ ข้อดีอีกอย่างของกาวสูตรต้นตำหรับจาก “Bondic”
ในช่วงที่ตลาดด้านสมาร์ทวอชเริ่มซบเซาเงียบเหงาลง อยู่ ๆ ก็มีแบรนด์สุดหรูระดับพรีเมี่ยมหันหน้าเดินลงสู่สนามแบบที่ไม่มีข่าวลือให้ได้ล่วงรู้กันมาก่อน จึงนับเป็นอีกก้าวของการเปลี่ยนแปลงทั้งตลาดแบรนด์และตลาดด้านเทคโนโลยีกันเลยทีเดียว เมื่อ Louis Vuitton เปิดตัว “Tambour Horizon” สมาร์ทวอชสุดหรูหราของแบรนด์ที่ใช้ชิพจาก Qualcomm Snapdragon Wear 2100 แบบเดียวกับสมาร์ทวอชในตลาดตัวอื่น ๆ อย่างเช่น Huawei Watch 2, LG G Watch, Armani, Guess พร้อมรันตัวระบบปฏิบัติการ Android Wear 2.0 อีกด้วย ตัวเรือนมาพร้อมกับ Ram 512MB และพื้นที่เก็บข้อมูล ขนาด 4GB แบตเตอรี่ 300mAh สามารถใช้งานอยู่ได้ประมาณหนึ่งวัน นอกจากนี้ด้านการออกแบบตัวเรือนนาฬิกามีขนาด 42 มิลลิเมตร ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ที่ 390 x 390 พิกเซล รองรับระบบสัมผัสขนาด 1.2 นิ้ว Tambour
หากเอ่ยถึงแบรนด์ดังจากดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นอย่าง ISSEY MIYAKE หลายคนมักจะนึกถึงสินค้าแฟชั่นที่มีครอบคลุมตั้งแต่แว่นตา เสื้อผ้า กระเป๋า น้ำหอม รองเท้า นาฬิกา เรียกได้ว่าหัวจรดเท้า โดยแต่ละชนิดนั้นล้วนแล้วแต่มาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ชนิดที่เห็นปุ๊บก็รู้ว่านี่คือ ISSEY MIYAKE ล่าสุดใน Product Line นาฬิกา จากทาง ISSEY MIYAKE ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ISSEY MIYAKE GT ที่ทำให้เราลืมภาพความเป็นนาฬิกาแฟชั่นไปอย่างสิ้นเชิง กับรูปร่างหน้าตาที่แสดงออกถึงจิตวิญญาณแห่ง Motorsport ได้อย่างชัดเจน ด้วยฝีมือการออกแบบของ Ken Okuyama ปรมาจารย์ด้านการออกแบบ Motorsport ที่สร้างชื่อเสียงในการดีไซน์ Supercars แบรนด์ดังระดับโลกหลายต่อหลายรุ่น และในวันนี้ UNLOCKMEN จะพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับเรื่องราวความเป็นมาของ ISSEY MIYAKE GT ว่าทำไมมันถึงคู่ควรไปประดับอยู่บนข้อมือของคนที่หลงใหลในความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ WHY ‘GT’ ? ก่อนจะไปทำความรู้จักกับรายละเอียดอื่น ๆ เราขอเริ่มจากชื่อคอลเลคชั่น GT ของนาฬิกา ISSEY MIYAKE ที่หลายคนคงรู้กันดีว่าอะไรก็ตามที่มีคำว่า
หลังจากปล่อยให้ค่ายอื่นเปิดตัวสินค้าใหม่กันอย่างโครมคราม คราวนี้มาถึงทีของกล้องจากค่ายจุดแดงอย่าง Leica แบรนด์กล้องถ่ายภาพชื่อดังจากเยอรมัน ซึ่งเป็นแบรนด์ในในฝันของคนเล่นกล้องหลายต่อหลายคน ที่เพิ่งเปิดตัวกล้องใหม่แบบสด ๆ ร้อน ๆ ในชื่อว่า TL2 ซึ่งเป็นกล้อง Mirrorless ในตระกูล TL นั่นเอง แน่นอนว่าของใหม่อะไรก็จะใหม่ ๆ ดี ๆ หน่อย อย่างพวกฟีเจอร์และสเปคที่ดีขึ้น แถมยังมีการออกแบบดีไซน์ของตัวกล้องใหม่อีกด้วย เอาเป็นว่าขอเกริ่นแค่นี้พอ รีบตามมาดูกันเลยดีกว่าว่า Leica TL2 จะมีอะไรใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ สมกับชื่อเสียงของค่ายจุดแดงหรือเปล่า เริ่มต้นเลยคือ TL2 วัสดุบอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียมบล็อคเดียว ที่จะสวยสมูทลงตัวเป็นเนื้อชิ้นเดียวกันหมดแบบไร้รอยต่อ ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแรงของตัวบอดี้ได้เป็นอย่างดี ด้านสเปคของตัวกล้องก็มาพร้อมกับความละเอียดที่ 24 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์แบบ CMOS APS-C พร้อมตัวประมวลผลภาพแบบ Maestro II ตามแบบฉบับของ Leica และ ISO เพิ่มได้ 50 – 50,000 จากรุ่นเดิม
ทุกวันนี้เราพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่าพลังงานกันมากจนเกินไปหรือเปล่า ? เช่นเวลาไปเที่ยว เราก็ต้องพกพาแบตฯ สำรอง (Power Bank) อยู่ทุกครั้ง จนกลายเป็นของคู่กับสมาร์ทโฟนแบบที่ขาดไม่ได้ แต่ไม่ว่าเราจะมีโทรศัพท์มือถือที่มีแบตเตอรี่จุได้เยอะมากมายขนาดไหนหรือมีแบตฯ สำรองขนาดความจุ 30,000 mAh ก็ตาม อย่าลืมว่ามันก็ย่อมมีวันหมด ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินต้องการโทรหาใครสักคนล่ะ เคยคิดเผื่อใจ เผื่อเหลือใช้เวลานั้นกันบ้างหรือเปล่า ปัญหาที่กล่าวมาเหมือนเป็นความท้าทายเหล่าคนใช้ที่ไม่รู้จักประมาณตัวเองในการใช้งานที่คิดว่าการมีแบตฯ สำรองจะช่วยได้ทุกอย่าง ตอนนี้มีทางออกสำหรับปัญหานี้และผู้ที่ต้องการมือถือที่อยู่ได้นาน ๆ แล้ว โดยเหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้คิดค้นโทรศัพท์มือถือที่ไม่จำเป็นต้องใช้แบตฯ ออกมาแล้ว บอกไว้ก่อนเลยว่ามันคือโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่สมาร์ทโฟนแบบจัดเต็มฟังก์ชั่นเหมือนที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ โดยการทำงานของมันทำได้เพียงแค่การใช้รับโทรศัพท์และโทรออกอย่างง่าย ๆ เท่านั้น โดยหลักการทำงานของเจ้ามือถือเครื่องนี้เป็นการใช้กำลังไฟเพียง 3.5 วัตต์เท่านั้นในการทำงาน ซึ่งมือถือเครื่องนี้จะใช้พลังงานจากโซลาร์เซลขนาดเล็ก ๆ และแปลงคลื่นวิทยุโดยรอบตัวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า Battery-free Cellphone ออกแบบขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ตัวปุ่มกดเป็นคาปาซิทีฟเซ็นเซอร์เพียงไม่กี่ปุ่ม เช่น ปุ่มตัวเลข 0-9 รวมทั้งปุ่ม * และ # และปุ่มแอ็กชั่น 2 ปุ่มสำหรับวางสาย อยู่บนแผงวงจรและมัดรวมผสมกับชิ้นส่วนอื่น ๆ โดยในบอร์ดนั้นทางทีมผู้ผลิตได้กล่าวว่าเป็นชิ้นส่วนที่สามารถหาชื้อได้ทั่วไป
ถ้าหากคุณมีอาชีพเป็น Photographer หรือ Videographer ยังไงก็ต้องรู้จักแบรนด์ที่มีชื่อว่า RED อย่างแน่นอน เพราะ RED ถือว่าเป็นอุปกรณ์หาเลี้ยงชีพในฝันของใครหลายคน อีกทั้งชื่อเสียง และคุณภาพของตัวแบรนด์เอง ก็สูงสุดๆ ในระดับที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์กันได้แบบสบายๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ RED ก็ได้สร้างเซอร์ไพร้ส์ครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ ซึ่งไม่ใช่กล้องอย่างที่เคยเป็นมาตลอด แต่กลับเป็นโทรศัพท์ Smartphone ซะอย่างนั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า Smartphone ที่ RED ทำออกมานั้น มีอะไรที่แปลกใหม่กว่าของแบรนด์อื่นๆ บ้าง แล้วกล้องของมันจะเทพเทวดาสมชื่อ RED หรือไม่ ขอเชิญชาว UNLOCKMEN ทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับมันพร้อมๆ กันกับเราได้เลย ครั้งนี้ RED มีความต้องการที่จะบุกตลาดใหม่ ด้วยความตั้งใจที่จะนำภูมิปัญญา และความสามารถทั้งหมดที่เคยทำเอาไว้ในฐานะผู้ผลิตกล้องที่มีคุณภาพสูงที่สุด มากลายสภาพให้เป็น Smartphone สุดล้ำ จึงเป็นที่มาของโทรศัพท์รุ่นล่าสุดที่มีชื่อว่า “RED Hydrogen One” เครื่องนี้ Smartphone เครื่องนี้ ปัจจุบันได้เปิดรับ Pre-Order” กันไปแล้ว
ถ้าถามว่าเวลาออกจากบ้านอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด เราคิดว่าหนึ่งในคำตอบของหลายคนต้องมีกระเป๋าสตางค์แน่นอน แม้ว่าสมัยนี้พวกเทคโนโลยีต่าง ๆ จะพยายามยัดเยียดการจ่ายเงินอันแสนสะดวกสบายผ่านอุปกรณ์ IOT, Smartphone มากขึ้น เพื่อให้คนเราไม่ต้องพกกระเป๋าหรืออะไรให้วุ่นวายเหมือนแต่ก่อนก็ตาม แต่ว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ตอบรับนวัตกรรมเหล่านั้นเท่าที่ควรอยู่ดี เพราะว่าการพกกระเป๋าสตางค์ยังไงมันก็ดูเป็นสิ่งที่จำเป็นและตัดทิ้งออกไปไม่ได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเรื่องบัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรสะส้มแต้ม ที่มันไม่ใช่มีแค่บัตรทางการเงินเท่านั้น ยังไงก็ต้องพกอยู่ดี ในเมื่อเราตัดกระเป๋าสตางค์ทิ้งไปไม่ได้ UNLOCKMEN ก็จะพาไปรู้จักกับกระเป๋าสตางค์อัจฉริยะที่ยัดความล้ำ ไฮเทค แต่คงไว้ในรูปแบบเดิมให้ใช้กัน พูดกันตรงนี้เลยว่ามันโคตรเจ๋งจริง ๆ แต่เดิมพวกเราอาจเคยเห็นขีดความสามารถของการที่กระเป๋าสตางค์เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ GPS ติดตามตำแหน่งกระเป๋าสตางค์กันมาบ้างแล้ว แต่ Volterman กระเป๋าสตางค์อัจฉริยะที่เรากำลังจะพูดถึงนี้มีมากกว่านั้นแน่นอน อย่างแรกคือ Volterman นำคุณสมบัตินวัตกรรมเดิม ๆ อย่างเช่น GPS , Notification ใส่เข้ามาให้เรียบร้อย เพื่อให้เราใช้ GPS ในการตามหาตำแหน่งได้แบบ Real-time ป้องกันการถูกขโมยหรือลืมได้เป็นอย่างดี อย่างต่อมาที่แปลกที่สุดในความเป็นกระเป๋าสตางค์คือการที่ Volterman ใส่กล้องขนาดเล็กภายในกระเป๋าสตางค์ ถ้าเราจับคู่กระเป๋าสตางค์ Volterman เข้ากับสมาร์ทโฟนของเราอยู่แล้ว อยู่ ๆ เกิดสูญหายหรือถูกขโมยขึ้นมา แค่เรากดคำสั่งจากสมาร์ทโฟนโหมด “Lost
ปัญหาเกี่ยวกับฟัน เป็นปัญหาที่อยู่คู่กับชีวิตคนเรามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะตั้งแต่วัยเด็กหรือแก่ผมขาวก็ล้วนแต่ต้องผ่านต้องโดนกันสักครั้ง และต้นตอเหตุผลสุดคลาสสิคก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการแปรงฟันที่ไม่สะอาด บางครั้งที่เราตั้งใจแปรงฟันเป็นเวลานาน ๆ ไม่มีอะไรการันตีได้ว่านั่นคือความสะอาดสำหรับช่องปากเลย แถมบางครั้งเกิดลามเป็นอาการปวดฟันขึ้นมาเมื่อไหร่ รับรองว่าเห็นนรกอยู่รำไรเลย ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ แต่อุปกรณ์ในชีวิตประจำวันอย่างแปรงสีฟัน กลับกลายเป็นเรื่องล้าหลังไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควร (ล่าสุดคือแปรงสีฟันไฟฟ้า) ทำให้ตอนนี้มีทีมหัวใส เตรียมทำแปรงสีฟันอัตโนมัติชิ้นแรกของโลกออกมาพลิกโฉมให้ใช้กัน Amabrush แปรงสีฟันไฮเทคทำงานอัตโนมัติที่สามารถช่วยทำความสะอาดฟันได้ในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น และขั้นตอนการทำงานก็ง่ายแสนง่าย แค่กดปุ่มเริ่มทำงานคลิกเดียวเท่านั้นเอง จากข้อมูลบอกว่าสาเหตุที่คิดค้นแปรงตัวนี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการรักษาสุขภาพช่องปาก ปัญหาเรื้อรังที่มีอย่างยาวนาน โดยจากการสำรวจพบว่าบางกลุ่มไม่ชอบแปรงฟันก่อนนอน เพราะรู้สึกเหนื่อยจากการทำงานหรือกิจกรรมอะไรหนัก ๆ ในระหว่างวันมาแล้วทั้งวัน ซึ่งส่วนใหญ่คนเราจะใช้เวลาแปรงฟัน 1 นาทีซึ่งเหล่าหมอฟันก็เคยแนะนำว่าต้องใช้เวลาแปรงฟัน 3 นาทีขึ้นไปถึงจะถูกต้อง และอีกอย่างคือ 90% ของปัญหาช่องปากเกิดขึ้นจากการแปรงฟันไม่ถูกวิธีซะส่วนใหญ่ Amabrush จะมีอุปกรณ์แยกเป็นสองส่วน คือส่วนแรก MouthPiece ที่ครอบฟันที่มาพร้อมกับขนแปรงสำหรับคาบไว้ในช่องปาก ทำมาจากซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง เคลือบชั้นด้วยสารแอนตี้แบคทีเรีย ภายในจะมีช่องขนาดเล็กสำหรับการกระจายยาสีฟันให้ทั่วช่องปาก และในส่วนของขนแปรงถูกออกแบบมาให้มีความอ่อนนุ่ม เพื่อไม่ให้ทำร้ายเหงือกของผู้ใช้ จะทำมุม 45 องศาเข้ากับฟัน ตัวขนแปรงสามารถล้างทำความสะอาดได้ แต่ควรใช้งานแค่ 3-6 เดือน แล้วควรเปลี่ยนใหม่ และอีกส่วนคือ Handpiece
ซบเซากันอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาด Smart Watch ที่ถ้าพูดกันตรง ๆ ตัวที่ขายได้แล้วเป็นที่รู้จักมากที่สุดคงเป็น Apple Watch อยู่ดี แต่ถ้าฝั่ง Andriod Wear ก็มีอยู่บ้าง เช่น moto 360 ที่ทำออกมาถึง 2รุ่นแล้ว แล้วแบรนด์อื่นละ หายไปไหน ตลาดทุกวันนี้เงียบเชียบ ถึงแม้จะมีแบรนด์ค่ายยักษ์ไม่ว่าจะ Tag Heuer, Asus พยายามผลักดัน Smart Watch มากมาย แต่กลับไม่เป็นผล ไม่ติดตลาดเท่าที่คิด เช่นเดียวกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Sony ที่หันกลับมาลุยตลาด Smart Watch อีกครั้ง หลังจากหายหน้าหายตาไปเกือบสองปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้มาในรูปแบบของนาฬิกา Smart Watch อนาล็อก Sony ได้ส่ง Wena นาฬิกาหน้าตาเดิม ๆ แต่ดูดีในแบบอนาล็อกออกมา ซึ่งความเป็น Smart Watch ของนาฬิกาตัวนี้อยู่ที่ตัวเรือนทั้งหมดมีส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และฟังก์ชันการทำงานแบบพิเศษที่มีพื้นฐานมาจากสองส่วนคือรูปแบบอนาล็อกแบบเดิม ๆ และตัวสายรัดข้อมูลอัจฉริยะที่ไม่ใช่แค่ให้ความสวยงามเท่านั้น แต่ฟังก์ชั่นการทำงานต้องยอมรับกันเลยว่า
ก่อนหน้านี้เราเคยพูดถึงการเปิดตัวของโดรน Spark จาก Dji ที่ตัวจิ๋วคุณภาพเจ๋งกันไปแล้ว กับคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มมองหาโดรนสักตัวไว้พกพาในราคาเอื้อมถึงและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เจ๋งไม่เหมือนใคร แต่ก่อนที่ทุกคนจะเสียเงินชื้อ ก็คงเกิดคำถามว่า “แล้วมันทนทานขนาดไหน คุ้มค่าที่จะเสียเงินชื้อหรือเปล่า?” UNLOCKMEN จะพาไปไขข้อข้องใจต่าง ๆ จากการใช้งานจริงของทีมงานที่ได้ลองสัมผัสอย่างจริงจังตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ครั้งนี้เราจะไม่เรียกว่าเป็นการรีวิว แต่เป็นการแนะนำประสบการณ์ทดลองใช้กันมากกว่า เพื่อจะได้ตอบคำถามว่ามันคุ้มค่าเหมาะที่จะชื้อขนาดไหน วัดข้อดีข้อด้อยชัด ๆ กันไปเลย UNBOX ชุดเริ่มต้นที่ 20,000 บาท ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ต่างประเทศอยู่ที่ $499 (17,000บาท) แต่เข้าบ้านเราแพงขึ้นประมาณ 3 พันบาท หลายคนอาจต้องโห่ร้องกันแล้ว ว่าทำไมถึงบวกขึ้นเยอะขนาดนี้ แต่ก็อย่าลืมว่ามีค่านำเข้า พร้อมกับค่าคุ้มครองประกัน 1 ปีด้วย คงเป็นจำนวนเงินแทนสัดส่วนความคุ้มครองกันพอดี เพราะงั้นเลิกคิดเรื่องแพงกว่าต่างประเทศได้เลย ชุดนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง คู่มือ X 3 ปลั้กชาร์จ X 1 สาย USB X 1 แบตเตอรี่ X 1 ใบพัด